ตอนที่ 530 โสมฟินิกซ์ห้าอมตะ

หลังจากมองไปที่รังนั้น หลานอวิ๋นจูก็รับรู้ได้ทันทีว่าพลังงานต้นกำเนิดที่ล้อมรอบภูเขาไว้ไม่ใช่มาจากท้องฟ้า แต่มาจากรังไม้

" ในที่สุดพวกเราก็เข้ามาข้างใน " หลี่ฉีเย่มองไปที่รังขนาดใหญ่ก่อนจะเอ่ยช้าๆ " ขอบคุณจริงๆ ที่ได้พบกับหน้าผาลึกลับนี้ "

เขาทันใดนั้นก้สูดลมหายใจเข้าลึกก่อนที่ทั้งสองจะปีนขึ้นไปบนภูเขา มันใช่เวลาไม่นานก่อนที่ทั้งสองขึ้นมาถึงยอด

ในนาที ทั้งสองอยู่บนยอดหน้าผาที่มีอากาศบริสุทธิ์รอบตัว พวกเขาเงยหน้าขึ้นมองเห็นรังนกขนาดใหญ่ที่มีพลังงานหนาแน่นราวกับทะเลเมฆ

พวกเขาค้นพบว่ารังนกขนาดใหญ่นี้ เมื่อขึ้นมายืนด้านบนสุดและมองมันขึ้นไปจะรู้สึกได้ราวกับว่า พวกมันใหญ่โตไร้ที่สิ้นสุดและมีโลกเป็นของตัวเอง มันอาจจะมีกระทั้งภูเขาและแม่น้ำปรากฏอยู่ภายใน

มันถูกสร้างมาจากน้ำลายที่ทนทานและกิ่งไม้แห้ง หลานอวิ๋นจูรู้สึกว่านางเคยไม้เช่นนี้มาก่อน หลังจากคิดอยู่นาน นางก็ตระหนักได้ว่าเคยเห็นมันมาก่อนจริงๆ ย้อนกลับไปยังเกาะนับพัน ตอนนั้นหลี่ฉีเย่ได้นำไม้ชนิดนี้ออกมา แน่นอนว่ามันเป็นกุญแจต้นกำเนิดบรรพชนผีที่หลานอวิ๋นจูคิดถึง !

หลานอวิ๋นจูพยามจะมองผ่านพลังงานต้นกำเนิดที่หนาแน่น จากนั้นนางก็มองเห็นอะไรบางอย่าง

" ดูนั้น ตรงนั้นมันมีอะไรอยู่ ! " ในตรงกลางของรังไม้พลังงานต้นกำเนิดหนาแน่นอนมาก แม้แต่หลานอวิ๋นจูที่ใช้เนตรสวรรค์ก็ยังไม่สามารถมองผ่านได้ มันผ่านรูปร่างเห็นเป็นศาลาไม้ขนาดใหญ่ จากสายตาของนางสังเกตเห็นว่ามีบางอย่างอยู่ในศาลา

พลังงานต้นกำเนิดที่ปกคลุมทั่วรังไม้นี้หมื่นกับคลื่นที่ทรงพลัง หากพิจรณาว่ารังไม้นี้เป็นเหมือนกับทะเล พลังงานเหล่านี้ก็เหมือนกับน้ำวนที่ไหลออกมา

ผู้คนไม่สามารถบอกได้ว่าพลังงานนี้มาจากมาจากด้านล่างของรังหรือไม่จากศาลาไม้ แต่ที่บอกได้อย่างแน่นอนก็คือด้านรังของรังจะต้อมีความลับที่ท้าทายสวรรค์ซ่อนอยู่

" เห็นนั้นไหม ? นกฟินิกซ์ที่เจ้าพบก่อนหน้า อยู่ที่นนั้น " ดวงตาของหลี่ฉีเย่จ้องไปยังรังนก จากนั้นเขาก็ชี้ไปยังมุมด้านหนึ่ง

หลานอวิ๋นจูรีบหันกลับไปมอง และเห็นนกฟินิกซ์ตัวเล็กๆอยู่นอกศาลา มันเปล่งแสงห้าสีที่แตกต่างกันและสะบัดหางที่ยาว

มันกำลังหยิบจับและวางกิ่งไม้ เหมือนกับว่ากำลังทำรังของตัวเอง

" เป็นมัน ! " หลานอวิ๋นจูร้อองอุทานออกมาหลังจากเห็นฟินิกซ์ตัวนี้ นางนั้นโชคดีที่ได้พบกับสมบัติดังกล่าว แต่นางได้ยอมแพ้ไปและไม่คาดว่าจะได้เห็นมันอีกครั้งตอนนี้

หลานอวิ๋นจูรังจากเห็นรังไม้ก็อดไม่ได้ที่จะเอ่ยถาม " ที่นี่เป็นรังของมัน ? "

" ไม่ ยังไม่ใช่ มันเป็นเพียงที่พักชั่วคราวยามอยู่ที่นี่ ทว่ามันสามารถเปลี่ยนเป็นบางสิ่งที่น่าตกตะลึงได้เพราะมันสามารถอยู่ในสถานที่แห่งนี้ได้ " หลี่ฉีเย่มองไปที่นกฟินิกซ์และเอ่ยเสริม " นอกจากนี้มันยังไม่ใช่นกฟินิกซ์ "

" นั้นไม่ใช่นกฟินิกซ์ ? " หลานอวิ๋นจูถามอย่างประหลาดใจ " หรือมันจะเป็นการเปลี่ยนแปลงของสมุนไพรอมตะ ? "

หลี่ฉีเย่ยังคงจ้องไปยังฟินิกซ์พร้อมกับเอ่ย " ไม่ใช่ มันไม่ใช่สมุนไพรอมตะเช่นกัน " เขาส่ายหัวและเอ่ยต่อ " มันเป็นสมุนไพรอมตะที่แท้จริง เพียงหนึ่งเดียว แม้แต่จักรพรรดิอมตะก็ยังไม่มีโอกาสได้เห็นมัน แน่นอนพวกเขาอยากได้มันเป็นอย่างมาก "

" อะไรนะ !? สมุนไพรอมตะที่แท้จริง ? " หลานอวิ๋นจูตะโกนด้วยความตกใจ ชื่อนี้น่าตกตะลึงเกินไปและแม้แต่นักปรุงยาจักรพรรดิก็ยังต้องตกตะลึง

ผู้ฝึกตนหรือนักปรุงยาใดๆในโลกล้วนรักสมุนไพรอมตะ สำหรับพวกเขา มันเป็นสิ่งของล้ำค่าและสมบัติที่หายากในโลก จักรพรรดิอมตะก็ต้องการสมุนไพรอมตะเช่นกัน

ทว่าสมุนไพรอมตะที่ผู้ฝึกตนและนักปรุงยาต้องการนั้นไม่ใช่สมุนไพรอมตะจริงๆ สำหรับพวกเ ของหายากหรือสมุนไพรราชันที่อายุมากกว่าล้านปีก็เป็นสมุนไพรอมตะ

สำหรับนักปรุงยาพวกเขารู้ว่าสิ่งใดควรเรียกว่าสมุนไพรอมตะจริงๆ ดังนั้นพวกเขาจริงเรียกของจริงว่สมุนไพรอมตะที่แท้จริง เพื่อจะแยกความแตกต่างในสิ่งที่พวกเขาเรียกกับคนภายนอกเรียก

" มันมีสมุนไพรอมตะที่แท้จริงอยู่บนโลกนี้ด้วย ? " หลานอวิ๋นจูคิดกับตัวเอง หรือฟินิกซ์ที่นางเห็นก่อนหน้าจะเป็นหนึ่งในนั้น

แม้ว่าปราชญ์โบราณและนักปรุงยาสมัยก่อนจะเชื่อว่าสมุนไพรอมตะที่แท้จริงมีตัวตน แต่พวกเขาไม่มีใครเคยเห็นมันมาก่อน แต่มากระทั้งนักปรุงยาที่ประสบความสำเร็จก็ยังสงสัยเกี่ยวกับเรื่องนี้ พวกเขารู้สึกว่าสมุนไพรอมตะที่แท้จริงเป็นเพียงจินตนาการที่คนรุ่นก่อนเล่ามา

หากมันมีอยู่จริง เช่นนั้นจักรพรรดิอมตะย่อมต้องกระหายต่อมัน พวกเขานั้นต้องพยามครอบครองทุกสิ่งเพื่อที่จะสามารถยืดอายุขัยของตัวเองได้

สมุนไพรหลายชนิดนั้นไร้ประโยชน์ต่อจักรพรรดิอมตะ ดังนั้นพวกเขาจึงต้องการสมุนไพรอมตะเพื่อยืดชีวิต และสมุนไพรอมตะที่แท้จริงเป็นตัวเลือกที่ดีที่สุด !

หลี่ฉีเย่พยักหน้าขณะจ้องมองฟินิกซ์และเอ่ย " ใช่ หนึ่งในั้นอยู่ตรงหน้าเจ้า ชื่อของมันคือโสมฟินิกซ์ห้าอมตะ เป็นสมุนไพรอมตะที่แท้จริงที่หายากอย่างมาก "

" โสมฟินิกซ์ห้าอมตะ..." หลานอวิ๋นจูมองมันและไม่เห็นส่วนใดคล้ายกับโสมเลย

หลี่ฉีเย่เข้าใจสิ่งที่นางคิดก่อนจะส่ายหัวและเอ่ย " การบ่มเพาะในปัจจุบันของเจ้าไม่สามารถมองเห็นรูปแบบที่แท้จริงของมันได้ หากเจ้าไม่สามารถกำราบมันได้ มันจะไม่เผยรูปลักษณ์ที่แท้จริง "

" เป็นไปได้หรือไม่ที่ข้าจะได้รับสมบัติชิ้นนี้ ? พวกเราสามารถจับมันได้หรือไม่ ? " หลานอวิ๋นจูเอ่ยถามขณะมองที่ฟินิกซ์ นางนั้นค่อนข้างถูกล่อลวงนี้เป็นสิ่งที่เข้าใจได้ สมุนไพรอมตะที่แท้จริงแม้แต่จักรพรรดิอมตะก็ยังต้องการครอบครอง

" ไม่ " หลี่ฉีเย่ส่ายหัวด้วยรอยยิ้ม " หากเจ้าไม่มีโชคที่ดีเพียงพอ มันจะไม่ติดตามเจ้า หากเจ้ามีวิธีที่ท้าทายสวรรค์เช่นนั้นบางเจ้าอาจจะได้รับหนึ่งหรือสองรากจากตัวของมัน แต่ก็ยังเป็นเรื่องยากมาก..."

" ข้าจะลอง ! " ในฐานะลูกรักของสวรรค์ หลานอวิ๋นจู - แน่นอนว่านางมีความหยิ่งยโสในตัว นางนั้นสูดลมหายใจเข้าลึกก่อนจะระเบิดพลังงานในสายเลือดและเดินเข้าไป

" ปัง ! " นางเพียงก้าวมาภายในหนึ่งก้าว แต่ทันใดนั้นนางก็ถูกสะท้อนกลับ พลังงานต้นกำเนิดหมุนวนป้องกันรังไม้นี้อยู่

" แข็งแกร่งจริงๆ " หลานอวิ๋นจูอุทานออกมา ทว่านางในฐานะลูกหลานของเชื้อสายจักรพรรดิล้วนไม่ยินยอมก่อนจะกลายเป็นจริงจังและเอ่ย " ข้าไม่เชื่อว่าข้าจะผ่านมันไปไม่ได้ ! "

นางนั้นต้องการจะก้าวเข้าไปเอาสมบัติที่ท้าทายสวรรค์ชิ้นนี้แต่ถูกหยุดโดยหลี่ฉีเย่ เขาส่ายหัวก่อนจะเอ่ย " อย่าได้ประมาท สถานที่แห่งนี้ไม่ง่ายอย่างที่เจ้าคิด "

หลี่ฉีเย่มองไปยัง โสมฟินิกซ์ห้าอมตะในรูปร่างของนกฟินิกซ์และตะโกน " พวกเรามาทำข้อตกลงกันเป็นอย่างไร ? "

โสมต้นนั้นเหลือบมองพวกเขาอย่างเย็นชาและไม่ได้แยแส มันยังคงหยิบกิ่งไม้มาสร้างรังต่อพร้อมด้วยปลดปล่อยกลิ่นอายหยิ่งยโส

" มันช่างจองหองจริงๆ " หลานอวิ๋นจูต้องการจะหัวเราะหลังจากเห็นการแสดงออกของฟินิกซ์ตัวนี้

นกฟินิกซ์นั้นมองมายังหลี่ฉีเย่ ราวกับผู้สูงส่งมองลงมายังมดตัวหนึ่ง

" สมุนไพรอมตะที่แท้จริงแน่นอนว่าทรงอำนาจ " หลี่ฉีเย่ยิ้มและเอ่ย " ทว่าต้องดูด้วยว่ามันเล่นอยู่กับใคร " กล่าวเสร็จเขาทันใดนั้นก็หยิบสมบัติออกมา

" ตูม ! " จตุอาชาราชันสงครามปรากฏอยู่เบื้องหน้าหลี่ฉีเย่ จากนั้นเขาก็บอกกับหลานอวิ๋นจู " ขึ้นมาพวกเราจะเข้าไปภายในรัง หากมันไม่ยอมเห็นด้วยกับการแลกเปลี่ยน เช่นนั้นข้าจะให้บทเรียนกับมันและให้มันรู้ว่ากำลังเล่นอยู่กับใคร "

หลานอวิ๋นจูนั้นสงสารฟินิกซ์ตัวนี้อย่างมาก มันไม่รู้จริงๆว่ากำลังยั่วยุใครอยู่

" ปัง ! ปัง ! ปัง ! ปัง ! " สี่สัตว์ศักดิ์สิทธิ์รอบตัวรถม้านั้นถูกใช้งาน มังกรที่แท้จริง , ฟินิกซ์ศักดิ์สิทธิ์ , กิเลน , พยัคฆ์ขาว ประกบทั้งสี่ด้านของหลี่ฉีเย่และพุ่งเข้าชนกับพลังงานต้นกำเนิด

หลี่ฉีเย่ควบรถม้าด้วยพลังงานที่ระเบิดออก จากนั้นเพียงไม่กี่วินาที มันทะลุม่านพลังงานต้นกำเนิดและมุ่งหน้าไปยังโสมฟินิกซ์ห้าอมตะ

ถึงตอนนี้โสมฟินิกซ์ห้าอมตะได้แผดเสียงคำราม ที่สามารถฉีกชั้นฟ้าและเก้าสวรรค์ออกได้ มันปลดปล่อยแรงกดดันมหาศาลออกมาจากทั่วชั้นฟ้า ทว่าหลี่ฉีเย่ที่นั่งอยู่ภายในรถม้าพร้อมด้วยสัตว์ศักดิ์สิทธิ์ทั่งสี่นั้นไม่แยแส เขาทำเพียงเอ่ยกับนกฟินิกซ์ช้าๆ " ข้าจะใช้หนึ่งยอดของน้ำทิพย์หมื่นดาราแลกกับรากของโสมจากตัวเจ้าห้าต้น ! " เขาจากนั้นก็หยิบน้ำทิพย์หมื่นดาราออกมา

ในเวลานี้ เขานั้นเหลือพวกมันอยุ่เพียงเล็กน้อย ดังนั้นมันจึงเป็นสมบัติล้ำค่าและไม่มีทางยอมใช้มันหากไม่มีทางเลือก ทว่าการแลกเปลี่ยนหนึ่งหยดกับห้ารากของโสมฟินิกซ์ห้าอมตะนับว่าคุ้มค่า

สายตาของโสมฟินิกซ์ห้าอมตะนั้นสว่างไสวขึ้นหลังจากเห็นน้ำทิพย์หมื่นดารา จากนั้นมันก็ส่งเสียงศักดิ์สิทธิ์ " หนึ่งขวดของน้ำทิพย์หมื่นดาราแลกกับห้ารากของข้า "

หลี่ฉีเย่ส่ายหัวและเอ่ย " เจ้าก็รู้ว่ามันเป็นไปไม่ได้ หากข้ามีน้ำทิพย์หมื่นดาราเต็มขวดเช่นนั้นข้าคงแลกกับสมุนไพรอมตะที่แท้จริงขั้นสมบูรณ์ไปแล้ว การพบกันครั้งนี้เป็นชะตากรรม น้ำทิพย์เพียงหยดเดียวก็เพียงพอแล้ว "

ทว่าฟินิกซ์ที่กำลังทำรังยังคงนั่งอยู่และไม่ได้เคลื่อนไหวต่อข้อเสนอของหลี่ฉีเย่ นี้เป็นที่เข้าใจได้ว่าน้ำทิพย์หมื่นดาราเพียงหยดเดียวไม่มีมูลค่าเทียบกับห้ารากของมัน

ความจริง น้ำทิพย์หมื่นดาราหนึ่งหยดแลกกับหนึ่งรากเก่าแก่ของมันนับว่าคุ้มอยู่บ้าง แต่หลี่ฉีเย่เสนอให้หนึ่งหยดแลกกับห้าราก ? ลืมมันไปซะ ! โสมฟินิกซ์ห้าอมตะไม่มีทางทำการแลกเปลี่ยนที่น่าสยองนี้ !