หลี่ฉีเย่ยังคงไม่อารมณ์เสียหลังจากเห็นท่าทางจองหองของนกฟินิกซื เขายังคงยิ้มอย่างสงบและเอ่ย " ข้าได้แสดงความปราถนาดีของข้าแล้วโดยการใช้น้ำทิพย์หมื่นดาราหนึ่งหนดแลกกับพวกมัน อย่างน้อยข้าก็เป็นชายที่ดีและรักความสงบ ข้าไม่ต้องการบังคับใครให้แลกเปลี่ยน ดังนั้นการมีคนปฏิเสธการแลกเปลี่ยนกับข้านี้ถือเป็นเรื่องยากมาก "
ช่วงเวลาที่หลี่ฉีเย่กล่าวเสร็จ เสียงระเบิดก็ดั่งกระหึ่มออกมา " ตูม ! "
โสมฟินิกซ์ห้าอมตะทันใดนั้นมันก็ยืนขึ้นและไม่ได้อยู่ในรูปลักษณ์ของฟินิกซ์ แต่กลับสู่รูปแบบโสมดั่งเดิมของมัน - ราชันโสม ใบขนาดใหญ่ปรากฏบนตัวของมันและมีร่างขนาดเล็กจำนวนมาก
ช่วงเวลาที่มันเปิดเผยอำนาจ มันไม่ได้ซ่อนพลังและความแข็งแกร่งอีกต่อไป ด้วยไฟศักดิ์สิทธิ์ที่เปล่งประกายห้าสี มันราวกับเทพเซียนยืนเบื้องหน้าหลี่ฉีเย่
" ตึก ตึก ! " หลานอวิ๋นจู คนที่ยืนอยู่ในตอนแรก ถูกแสงศักดิ์สิทธิ์ห้าสีจากการระเบิดอำนาจของโสมพลักดันนางให้ถอยไป มันได้ปลูกฝังความหวาดกลัวและกับเหล่าผู้ชมทั้งหมดที่ทำให้แม้แต่บรรพชนเที่ยงธรรมยังต้องสยอง !
ในเวลานี้มีมังกรคำรามและฟินิกซ์กรีดร้องและร่ายรำอยู่ในอากาศ สัตว์ศักดิ์สิทธิ์ทั้งสี่ที่หาตัวจับยากได้ห้อมล้อมรถม้าของหลี่ฉีเย่และทะยานขึ้นฟ้า กำเนิดเป็นสายรุ้ง อำนาจของรถม้าได้ระเบิดออกมาในที่สุด
ด้วยกลิ่นอายอมตะจากรถม้า พวกมันปิดกลันกลิ่นอายดุร้ายจากโสมนี้ทั้งหมด นั้นทำให้หลี่ฉีเย่ไม่ได้รับผลกระทบแม้แต่น้อย
หลี่ฉีเย่ยงคงยิ้มเมื่อโสมได้เผยรูปร่างที่แท้จริงของมัน แม้มันจะน่ากลัวแต่หลี่ฉีเย่ก็ยังยืนนิ่งบนรถม้าราวกับว่าไม่มีอะไรเกิดขึ้น
" น่าเสียดาย ที่เจ้าเคลื่อนไหวผิดพลาดและไม่ยอมรับน้ำทิพย์หมื่นดาราจากข้า " หลี่ฉีเย่ประกาศอย่างไม่หยุดหย่อน " เจ้ารู้เรื่องนี้หรือไม่ ? ผู้คนในสมัยโบรารได้จับสมุนไพรอมตะที่แท้จริงของมันออกมาและนำรากของมันมาทำเป็นน้ำชา ! เจ้านั้นแข็งแกร่ง แต่ไม่แข็งแกร่งพอที่จะเป็นตัวตนอมตะ ข้ายืนอยู่ทีนี่นี้และมีห้าวิธีอย่างน้อยที่จะฆ่าเจ้าได้ในหนึ่งลมหายใจ ทว่าข้าเป็นผู้ที่รักสงบและสันติ ไม่ต้องการให้สิ่งที่สวรรค์สร้างมาต้องพินาศ "
" ควับ ! " หลี่ฉีเย่ทันใดนั้นก็หยิบโลงศพขนาดเล็กออกมาจากฝ่ามือ ด้วยเสียง ' แกร๊ก ' โลงศพที่มีขนาดเท่ากับฝ่ามือทันใดนั้นก็กลายเป็นมีขนาดเท่ากับปกติ หลี่ฉีเย่ลูบโลงศพและเอ่ยช้าๆ " การฆ่าสมุนไพรอมตะที่แท้จริงนั้นเป็นเรื่องเสียประโยชน์และน่ารังเกียจใช่หรือไม่ ? เช่นนั้นพวกเราก็มาเล่นเดิมพันกัน เจ้าคิดว่าข้าจะเปิดโลงศพนี้หรือไม่ ? ข้ารู้ว่าเจ้าจะต้องรู้จักมันไม่หนึ่งก็สองอย่าง "
ราชันโสมนั้นถอยหลังทันทีที่เห็นหลี่ฉีเย่ถือโลงศพออกมา ดูเหมือนมันจะหวาดกลัวโลงศพในมือหลี่ฉีเย่อย่างมาก
หลานอวิ๋นจูนั้นตกตะลึงและไม่คาดว่าโลงศพนี้จะทำให้ราชันโสมนั้นกลัวได้
โลงศพนี้เป็นโลงศพเล็กๆที่หลี่ฉีเย่ แลกเปลี่ยนกับภูติปีศาจก่อนหน้า และตอนนี้มันมีรูปลักษณ์ที่ใหญ่กว่า
" นี้เจ้าพยามจะขู่ข้า ? " โสมนั้นไม่ได้เปิดปาก แต่ส่งเสียงของมันออกมาทางความคิด
หลี่ฉีเย่อมยิ้มขณะที่แบกโลงศพ " เจ้ากล่าวถูก ข้ากำลังข่มขู่เจ้า เจ้าอยากจะลองดุไหม ? ข้าเชื่อว่าข้าสามารถเปิดโลงศพนี้ได้โดยไม่ยากเย็นอะไร แม้ว่ายามเปิดออกมาโลงศพนี้อาจจะสร้างความลำบากให้ข้าเล็กน้อย แต่เจ้าจะน่าอนาถมากกว่า เจ้าคิดว่าเจ้ามีโอกาสจะหนี ? ข้าเชื่อว่าหากเจ้าไม่สามารถหนีได้ชะตากรรมของเจ้าจะน่าเวทนามาก เชื่อข้าเถอะ มันจะไม่ได้พบกับจุดจดที่สวยงามแน่ๆ ! "
โสมนั้นจ้องหลี่ฉีเย่อย่างจริงจัง ถ้ามันมีใบหน้าแน่นอนว่าการแสดงออกของมันตอนนี้คือใบหน้าที่น่าเกลียด
" ข้ามีห้าวิธีการในการฆ่าเจ้า แต่พวกมันเต็มไปด้วยความซับซ้อนและยุ่งยากดังนั้นข้าจึงไม่ใช่มัน พวกเรามาใช้วิธีตรงๆกันดีกว่า ข้าจะให้เจ้าสองทางเลือก เจ้าสามารถปฏิเสธมันหรือเห็นด้วยกับข้าก็ได้ " หลี่ฉีเย่ยิ้มอย่างสนุกสนาน
หลานอวิ๋นจูนั้นไม่รู้จะเอ่ยสิ่งใดหลังจากยืนอยู่ด้านหลัง นางตอนนี้ก็เข้าใจได้แล้วว่าเขาเป็นอันธพาลที่ชอบฉ้อโกง เป็นเรื่องน่าสงสารอย่างมากสำหรับคนที่มีของที่เขาต้องการ !
" เจ้าต้องการอะไร ? " โสมนั้นเอ่ยด้วยเจตจำนงศักดิ์สิทธิ์ สมุนไพรอมตะที่แท้จริงนั้นทรงพลังอย่างมาก แต่วันนี้ มันถูกแบล็กเมล์จากผู้ฝึกตนเผ่ามนุษย์ ส่วนที่แย่ที่สุดก็คือมันไม่มีทางเลือกอื่นนอกจากยอมรับ
หลานอวิ๋นจูนั้นประหลาดใจ นางนั้นไม่คิดว่าโสมนี้จะยอมรับข้อเรียกร้องของหลี่ฉีเย่ นางนั้นค่อนข้างสงสัยสิ่งที่อยู่ภายในโลงศพและทำให้โสมนี้หวาดกลัว
หลี่ฉีเย่ไม่รู้ประหลาดใจกับผลลัพธ์นี้ก่อนจะเอ่ย " หากข้าบอกให้เจ้าติดตามข้าไป แน่นอนว่าเจ้ายอมไม่เห็นด้วย ข้าไม่ใช่คนที่โหดร้ายเช่นนั้นและค่อยข้างมีน้ำใจ หากเจ้ายินดีให้ความร่วมมือกับข้า ข้าจะไม่ทำให้เจ้ายุ่งยาก เหมือนดังก่อนหน้า ข้าต้องการห้ารากของโสม และแต่ละรากต้องมาจากกิ่งหลัก "
หลี่ฉีเย่ชี้ไปที่ห้ารากของโสม รากขนาดใหญ่เหล่านี้ไม่เหมือนกับรากของโสม พวกมันเหมือนกับรากศักดิ์สิทธิ์มากกว่า พวกเขามันปล่อยแสงระยิบระยับและกลิ่นหอมพอที่จะล่อลวงคน
" เจ้า ! " โสมฟินิกซ์ห้าอมตะเต็มไปด้วยความโกรธ แน่นอนถ้ามันมีใบหน้ามันจะหน้าแดงด้วยความโกรธ มันรู้ว่าความต้องการของหลี่ฉีเย่นั้นมากเกินไป รากเหล่านี้เป็นรากที่ดีที่สุดที่โสมนั้นมีอยู่ โสมตามปกติไม่มีทางยอมรับเพื่อแลกกับน้ำทิพย์หมื่นดาราแน่นอน
" คิดมันให้ดี ? เจ้าต้องการให้ข้าเปิดโลงศพนี้งั้นรึ ? หรือเจ้าต้องการแลกรากโสมทั้งห้ากับความปลอดภัย ? " หลี่ฉีเย่ยงคงเอ่ยเพิ่ม " แน่นอนมันยังมีทางเลือกอื่น นั้นก็คือพยามจะโจมตีข้าดู ทว่าข้านั้นสงสัยยิ่งว่าเจ้ามีความมั่นใจในการโจมตีข้าให้ตายก่อนข้าจะเปิดโลงศพหรือไม่ ? นี้ไม่ใช่ข้าดูถูกเจ้า แต่เจ้าเพียงลำพังไม่มีทางทำลายการป้องกันของข้าได้ ! "
ขณะที่โสมนั้นจ้องไปยังรถม้า เหมือนอย่างที่หลี่ฉีเย่กล่าวก่อนหน้า มันนั้นตั้งใจจะโจมตีหลี่ฉีเย่ ทว่ามันไม่มีทางโจมตีรถม้าให้พังได้ในครั้งเดียว ถ้ามันล้มเหลวจุดจบของมันย้อมไม่สวยแน่นอน
หลี่ฉีเย่ยังคงเอ่ยต่อ " ข้าเสีนใจที่ต้องกล่าวว่าเจ้าไม่สามารถทำมันสำเร็จในการเคลื่อนไหวเพียงครั้งเดียว จากนั้นข้าก็จะเปิดโลงศพ แม้ว่าจะเปิดมันเพียงนิดเดียว ผลของมันยอมไม่มีอะไรดีสำหรับเจ้า เจ้ารู้เรื่องนี้ดี "
โสมนั้นเงียบลง ขณะที่จิตใจของมันเต็มไปด้วยความเสียใจ หากมันรู้ว่าเรื่องจะเป็นแบบนี้มันยอมตัดสินใจแรกกับน้ำทิพย์หมื่นดาราในตอนแรกเสียยังดีกว่า
" เอาไป ! " โสมนั้นถอนรากของมันออกมาห้ารากที่เก่าแก่ที่สุดก่อนจะโยนไปให้หลี่ฉีเย่ พร้อมกล่าวด้วยน้ำเสียงที่เต็มไปด้วยความโกรธ
รากของโสมทั้งห้าหล่นลงบนมือของหลี่ฉีเย่ราวกับห้ารากศักดิ์สิทธิ์ ราชันโสมอายุสามล้านปีหรือกระทั้งบรรพชนโสมก็ยังไม่สามารถเทียบกับรากเดียวของของชิ้นนี้ได้
" ข้าชอบการแลกเปลี่ยนของพวกเรามากจริงๆ " หลี่ฉีเย่ยิ้มอย่างมีความสุขและเก็บโสมทั้งห้าเข้าไป แม้ว่าพวกมันจะมีเพียงเล็กน้อยแต่มันก็มีอายุเก่าแก่มากที่สุดจากโสมฟินิกซ์ห้าอมตะ ประสิทธิภาพของมันน่ากลัวยิ่งกว่าบรรพชนโสมเสียอีก ของสิ่งนี้สร้างความโลภให้แม้แต่จักรพรรดิอมตะ มันท้าทายสวรรค์เกินไปและรากโสมอื่นๆไม่มีทางเทียบได้
โสมฟินิกซ์ห้าอมตะนั้นเต็มไปด้วยความโกรธต่อหลี่ฉีเย่ มันนั้นคับแค้นอย่างมากที่ถูกหลี่ฉีเย่ล่อลวงเอารากที่เก่าแกที่สุดของมันไป จากนั้นมันก็หันหลังและกลับไปยังรัง
หลี่ฉีเย่จากนั้นขึ้นไปขี่มาและมอบมันให้หลานอวิ๋นจูก่อนจะเอ่ย " นี้ให้เจ้า "
" ให้ข้า ? " หลานอวิ๋นจูเต็มไปด้วยตกตะลึงและยืนนิ่ง นี้มันไม่ใช่สิ่งของธรรมดา มันเป็นสมบัติสมุนไพรอมตะที่แท้จริง แม้แต่เหล่าคนตายหรือตัวตนในตำนานก็ยังบ้าคลั่งเมื่อเห็นมัน
เพียงรากของมันก็เพียงพอแล้วที่จะสร้างสงครามให้กับทั้งเก้าโลก เพราะคุณค่าของมันได้น้อยกว่าอาวุธจักรพรรดิ สำหรับเหล่าคนตายพวกมันมีค่ายิ่งกว่าอาวุธจักรพรรดิระดับแท้จริง
" รับมันไป บางทีเมื่อเจ้าขึ้นไปยังระดับสูง เจ้าอาจจะมีโอกาสได้ใช่มัน บางทีในสักวันหนึ่งเจ้าอาจจะมีโอกาสได้ใช้มัน " หลี่ฉีเย่ยิ้มก่อนจะเอ่ย " จำไว้ อย่าได้บอกวใคร ไม่ว่าจะเป็นใครใกล้ชิดหรือญาติสหายของเจ้า "
นางนั้นสูดลมหายใจเข้าลึกและไม่สามารถเก็บอารมณ์ความตื่นเต้นไว้ได้แม้ว่านางจะเคยเห็นสมบัติมาเป็นจำนวนมาก หลังจากผ่านไปนาน นางก็เอ่ยอย่างเคร่งขรึม " อย่าได้กังวล มีเพียงท่านและข้าและสวรรค์เท่านั้นที่จะรู้เกี่ยวกับเรื่องนี้ "
นางนั้นเข้าใจความสำคัญของเรื่องนี้เป็นอย่างดี สมุนไพรอมตะที่แท้จริงนั้นจะทำให้ทุกคนกลายเป็นบ้า สำหรับสิ่งนี้ แม้แต่ครอบครัวหรือลูกหลานพวกเขาก้อาจจะเปลี่ยนเป็นศัตรูและสังหารกันเพื่อแย่งชิงมัน !
หลี่ฉีเย่จากนั้นก็ตะโกนไปยังโสมที่พึงเดินจากไปและเอ่ย " เอาละ พอว่าข้าเป็นใครจิตใจดี ข้าจะเตือนให้เจ้าออกไปจาสถานที่นี่ในตอนนี้ ไม่เช่นนั้นข้าไม่สามารถรับประความปลอดภัยของเจ้าได้ "
" นี้เจ้ากำลังจะทำอะไร ? " โสมนั้นเอ่ยถามอย่างสงสัย
" ข้ากำลังจะเปิดโลงศพ " หลี่ฉีเย่อมยิ้ม ก่อนจะชี้ไปยังศาลไม้ที่ซ่อนอยุ่ภายในพลังงานต้นกำเนิด และเอ่ย " ข้าต้องการที่จะกำราบศาลานั้นและต้องการของภายใน..."