หลี่ฉีเย่และหลานอวิ๋นจูจากนั้นก็ออกมาจากสวนของนักปรุงยาอมตะ พวกเขาตั้งใจที่จะออกจากเขตไม้ แต่เพียงเดินผ่านภูเขามาหลายลูก เสียงระเบิดก็ดังขึ้นจนทำให้ทั้งเขตสั่นสะท้าน
" นั้นมันอะไร ? " หลานอวิ๋นจูมองไปยังทิศทางของเสียง
มันมีต้นไม้ที่ไม่น่าเชื่อ ที่สามารถปกคลุมพื้นทั้งเขตได้อยู่
หลี่ฉีเย่มองไปยังต้นไม้ที่มีขนาดใหญ่โตและเจาะขึ้นชั้นฟ้าก่อนจะหรี่สายตาลง " ต้นไม้ล้ำค่า ? มันต้องการจะลองเสี่ยง ? "
ในตอนแรก หลานอวิ๋นจูไม่รู้จักต้นไม้นี้ ตอนนี่มันใหญ่มากกว่าปกติ เหมือนกับว่าต้นไม้นี่กำลังปลดปล่อยอำนาจที่แข็งแกร่งออกมา
" มันกำลังจะทำอะไร ? " หลานอวิ๋นจูเอ่ยถามอย่างประหลาดใจ
" รอดูเถอะ " หลี่ฉีเย่เอ่ยตอบด้วยรอยยิ้ม
หลี่ฉีเย่และหลานอวิ๋นจูจากนั้นก็เร่งรีบมายังบริเวณใกล้เคียง มีผู้เชียวชาญมากกว่าพันคนอยู่ที่นี่ ทั้งหมดล้วนเป็นผู้นำนิกายของขุมอำนาจที่แข็งแกร่งในเขตไม้ และมีสามบรรพชนอยู่ที่นี่
ทุกคนเฝ้าดูเหุตการณ์ที่ต้นไม้ล้ำค่าได้หยังรากลงบนภูเขาขนาดใหญ่ราวกับมันจะเจาะพื้นผิวอย่างระวัง มันเหมือนกับต้องการจะเจาะทะลุพื้นผิวนี้จนถึงแกนกลาง
" ปัง ! ปัง ! ปัง ! " มันโจมตีด้วยการฟาดอย่างรุนแรงอีกครั้งหนึ่ง ทำให้พื้นดินสั่นสะเทือนและผู้คนกังวลว่าเขตจะพังทลายหรือไม่
หลานอวิ๋นจูมองไปยังต้นไม้ที่พยามจะแกนกลางภูเขาและเอ่ยกระซิบ " ภูขาอาณาจักรอมตะต้อองการทำอะไร ? "
หลี่ฉีเย่เอ่ย " พวกเขากำลังพยามจะตามหาบางสิ่งบางอย่างที่ภูเขาอาณาจักรอมตะมักจะตามหาเสมอ "
" อะไรคือสิ่งที่พวกเขาต้องการ ? " นางทันใดนั้นก็นึกถึงตำนานที่กระจายไปทั่วโลกใต้พิภพศักดิ์สิทธิ์เป็นเวลานานจนถึงตอนนี้ และเอ่ย " หรือมันจะเป็นอีกครึ่งที่เหลือของวิธีการมีชีวิตนิรันดร์ ? "
" หากมันมีวิธีการเช่นนั้นอยู่ในโลกจริงๆ เช่นนั้นข้าคงเป็นคงแรกที่จะไปยึดมันไว้ " หลี่ฉีเย่อมยิ้มและเอ่ย " มันยังคุ้มค่าแม้ว่าจะต้องฆ่าเทพหรือเหล่าตัวตนอมตะเพื่อของชิ้นนี้ ! "
หลานอวิ๋นจูรู้สึกหงุดหงิดอยู่ชั่วครู่ก่อนจะเอ่ยถามอย่างมีเหตุผล " เช่นนั้นมันเป็นอะไร ? หากไม่ใช่ วิธีการมีชีวิตนิรันดร์ ? "
ในโลกใต้พิภพศักดิ์สิทธิ์มีข่าวลือว่าภูเขาอาณาจักรอมตะมีวิธีการมีชีวิตนิรันดร์อยู่ครึ่งหนึ่ง
" นี้เป็นสิ่งที่จักรพรรดิอมตะตี๋หยู่ต้องการเมื่อนานามาแล้ว " หลี่ฉีเย่เอ่ย " มันเริ่มตั้งแต่ยุคเริ่มต้นของเวลา ในอดีต จักรพรรดิได้รับบางสิ่งที่ล้ำค่าจากหลุมฝังศพแห่งลางร้าย ต่อมาเขาก็ต้องขุ่นเคืองเมื่อตระหนักว่าของชิ้นนี้ไม่สมบูรณ์ ดังนั้นเขาจึงต้องการจะกลับมายังหลุมฝังศพอีกครั้ง ทว่าจักรพรรดิได้สูญเสียโอกาสในการเปิดหลุมฝังศพอีกครั้ง ดังนั้นเขาจึงไม่สามารถหามันได้ "
" จากนั้นเป็นต้นมา ภูเขาอาณาจักรอมตะก็ยังมักจะตามหาของชิ้นนี้มาตลอด น่าเสียดายที่มันไร้ประโยชน์ " เขาหยุดชั่วครู่และเอ่ยต่อ " ก่อนหน้านี้พวกเขานั้นเข้าใจ ตอนนี้พวกเขาฉลาดขึ้นและตระหนักได้ถึงสองสิ่ง "
หลานอวิ๋นจูมองไปต้นไม้ที่กำลังเจาะเข้าภูเขาและเอ่ยถาม " ต้นไม้นั้นจะหามันพบหรือไม่ ? "
หลี่ฉีเย่พยักหน้าและเอ่ย " พวกเขานั้นค้นหามาเขตแล้วและตอนนี้พวกเขาก็พบจุดที่ถูกต้องในเขตไม้ " เขามองไปที่ต้นไม้ขนาดใหญ่และกล่าว " หากต้นไม้นั้นสามารถทำลายอุปสรรคปราการสุดท้ายได้ พวกเขาจะสามารถหยังรากลึกลงไปในปฐพี โดยไม่ต้องคาดเดาใดๆ ภูเขาอาณาจักรอมตะจะประสบความสำเร็จ สวรรค์นั้นไม่ทอดทิ้งคนที่พยาม พวกเขาจะค้นพบมัน "
" ตูม ! " เสียงระเบิดเกิดขึ้นอีกครั้ง ต้นไม้นั้นยังโจมตีปฐพีขณะที่ผู้เชียวชาญที่ชมอยู่รอบนอกต่างสูดลมหายใจเข้าลึก พวกเขานั้นเข้าใจได้ว่าอาณาจักรอมตะกำลังตามหาบางอย่างที่ใต้ดิน ดังนั้นบางคงจึงมีความคิดชั่วร้าย
" ตูม ! " เสียงระเบิดอีกเสียงดังออกมาทำให้ทั้งโลกต้องสั่นสะเทือน พลังงานโลกพุ่งออกมาจากปฐพีราวกับน้ำพุ
" พวกเขาทำได้แล้ว ? " ทั้งกลุ่มตระหนกได้ถึงบางอย่างและพวกเขามองหน้ากันและกัน
" โฮกกกก ! " ในเวลานี้ ขณะที่คนอื่นๆกำลังคาดเดา เสียงคำรามของมังกรและฟินิกซ์ก็ปรากฏขึ้น พลังงานโลกที่พุ่งขึ้นมาสร้างเป็นภาพฟินิกซ์และมังกรร่ายรำ แม้ว่าพวกมันจะไม่ใช่ตัวจริง แต่กลิ่นอายศักดิ์สิทธิ์ของสัตว์ในตำนานยังกระจายไปทั่ว
ในเวลานั้น แสงสีทองก็พุ่งขึ้นมาจากพื้นดินพร้อมกับระอองทรายสีทองที่กระจายอยู่เต็มชั้นฟ้า
" สิ่งของอมตะกำลังจะปรากฏ ! " บางคนตะโกนหลังจากเห็นฉากนี้
ในวินาทีนี้ ร่างเงาหลายร้อยร่างพุ่งเข้าไปหาแสงสีทองอย่างรวดเร็ว พวกเขานั้นเป็นตัวตนที่ยิ่งใหญ่จากนิกายและประเทศต่างๆ และใช้ประโยชน์จากต้นไม้นี้เพื่อแย่งชิงสมบัติอมตะ
" วูบบ ! " แต่ก่อนที่พวกเขาจะเข้าไปถึงสมบัติ ต้นไม้ล้ำค่าสะบัดกิ่งขอองมันที่คล้ายกับแส้ศักดิ์สิทธิ์หวดฟาดพวกเขา
" อ้ากก ! " เสียงกรีดร้องโหยหวนดังขึ้นพร้อมกับเลือดที่สาดกระจายไปทั่วทุกที่ การโจมตีอย่างฉับพลันของต้นไม้ทำให้ผู้เชียวชาญตื่นตระหนกและไม่สามารถตอบโต้ได้
" วูบบ ! " มิติทันใดนั้นก็ผันผวนขณะที่ผู้เชียวชาญถูกโจมตี เงาสายหนึ่งที่มีความรวดเร็วราวกับมังกรได้พุ่งทะยานไปข้างหน้า ทุกยางก้าวของเงานั้นเคลื่อนไหวยางไร้ที่ติเพื่อหลบกิ่งที่หวดเข้ามาและวิ่งเข้าหาสมบัติ
มีกลิ่นอายอมตะลอยออกมา หลานคนกลายเป็นซีดขาวและบางคนอุทาน " บรรพชนขุมอำนาจ ! " การระเบิดของกลิ่นอายอมตะนี้ทำให้ผู้คนตระหนักได้ว่า แม้แต่เหล่าคนตายของขุมอำนาจอื่นก็ยังไม่สามารถแย่งชิงสมบัติกับคนคนนี้ได้
ทว่าเมื่อชายคนนี้ใกล้ถึงเป้าหมาย เสียงระเบิดดังขึ้นอีกครั้ง มือขนาดใหญ่กดทับลงมาจากต้นไม้ล้ำค่า ฝ่ามือนี้มีอำนาจผนึกสวรรค์และปฐพี กลิ่นอายของจักรพรรดิอมตะออกมาจากมันและกำราบทุกสิ่งมีชีวิตภายใต้ฝ่ามือนี้
" ตูม !! " เงาดำที่กำลังวิ่งอยู่นั้นกลายเป็นตกตะลึงและซัดฝ่ามือเพื่อป้องกันฝ่ามือขนาดยักษ์นี้ ในเวลาไม่โลกก็สั่นสะเทือนจากการปะทะ เงาสายหนึ่งพุ่งออกอมาเหมือนกับสายรุ้ง
เงานี้หายไปอย่างรวดเร็วและกระแทกเขากับภูเขาด้านหลังจนมันพังทลาย เนื่องจากอาหารบาดเจ็บครั้งนี้ชายคนนี้ได้ยอมแพ้และหนีไป
ขณะเดียวกัน เจ้าของฝ่ามือขนาดยักษ์จากบนต้นไม้ล้ำค่า ไม่ได้สนใจการหลบหนีและยื่นมือเข้าไปในปฐพี
" อาณาจักรอมตะยังมีบรรพชนอยู่กับพวกเขาด้วย ! " แม้ว่าฝูงชนจะไม่สามารถมองเห็นบนต้นไม้ แต่พวกเขาก็ยงรู้สึกสั้นเมื่อเห็นมือนั้น
ก่อนหน้านี้บรรพชนจากขุมอำนาจไม่สามารถต้านทานฝ่ามือนั้นและถูกซัดกระเด็ดนออกไป ถึงคนจึงตระหนักได้ว่าอาณาจักรอมตะได้นำบรรพชนมาด้วยเป็นการลับ
คิดว่าเกี่ยวบรรพชนของเชื้อสายจักพรรรดิอย่างภูเขาอาณาจักรอมตะทำให้ทุกคนสั่นสะท้าน แม้ว่าจะไม่มีใครรู้ว่าทำไมบรรพชนถึงได้มาด้วย ในฐานะหนึ่งนิกายสองจักรพรรดิ บรรพชนของพวกเขาแน่นอนว่าจะต้องเป็นตัวตนที่ท้ายทายสวรรค์และบรรพชนจากนิกายธรรมดาไม่สามารถเทียบได้ บรรพชนของอาณาจักรอมตะแน่นอนว่าจะต้องเป็นหนึ่งในตัวตนอมตะ !
แสงสีทองนั้นสว่างขึ้นและยิ่งมากขึ้น ขณะที่ทุกคนจ้องมองต้นไม้หยิบมันขึ้นมา ไม่มีใครกล้าที่จะลงมือทำอะไรและทำได้เพียงดู
ด้วยบรรพชนของอาณาจักรอมตะอยู่ที่นี่ ทุกคนสันหลังเย็นวาบ แม้แต่ผู้เชียวชาญจากเชื้อสายจักรพรรดิก็ยังไม่กล้าส่งเสียง
" พวกเขาทั้งหมดหวาดกลัวแล้ว " หลี่ฉีเย่หัวเราะกับฉากตรงหน้า " ด้วยบรรพชนของอาณาจักรอมตะอยู่ที่นี่ล้วนไม่มีใครกล้าเคลื่อนไหว ยกเว้นยอดยุคอาณาจักรโบราณหรือบัลลังก์หมื่นกระดูกมาด้วยตัวเองและอยากจะเริ่มสงครามกับภูเขาอาณาจักรอมตะ "
หลานอวิ๋นจูเห็นด้วยกับเรื่องนี้ เหล่านิกายและขุมอำนาจที่ยิ่งใหญ่ล้วนต้องคิดอย่างรอบคอบหากจะลงมือด้วยบรรพชนของอาณาจักรอมตะที่อยู่ที่นี่ แม้แต่เชื้อสายจักพรรดริก็ยังไม่มีใครกล้าขัดแย้งกับอาณาจักรอมตะ
หลี่ฉีเย่ยิ้มก่อนจะส่ายหัวและเอ่ย " มาเถอะ การแสดงจบลงแล้ว " จากนั้นทั้งสองก็ออกไปยังเขตน้ำ
หลานอวิ๋นจูต้องการจะพบกับผู้อาวุโสของนิกายพันแม่น้ำ แต่ขณะที่พวกเขามาถึงเขตน้ำ ผู้คุ้มกันจากนิกายก็รีบมาติดต่อพวกเขาทันที
เมื่อเห็นหลี่ฉีเย่และหลานอวิ่นจู ผู้พิทักษ์รีบรายงานอย่างรวดเร็ว " นายน้อย , เทพธิดาหลาน ผู้นำนิกายและผู้อาวุโสไม่ได้อยู่ที่เขตน้ำแล้ว พวกเขาไปยังเขตไฟ "
" ไปยังเขตไฟ ? " หลานอวิ๋นจูถามอย่างประหลาดใจ " ผู้นำนิกายพับรังของปลาคาร์ฟยอดเพรชแล้ว ? "
" พวกเราไม่เพียงพบมัน..." ผู้พิทักษ์รู้สึกตื่นเต้นเมื่อกล่าวถึงเรื่องวนี้ " พวกเราได้รับการเก็บเกี่ยวที่ยิ่งใหญ่และสมบัติจำนวนมาก เวลานี้นิกายของพวกเราได้รับโชคที่มหาศาล ! "