ในเวลานี้ ยอดเซียนเล็บจันทร์เสี้ยว , ยอดเซียนผีแมลง และเจ้าหญิงฟินิกซ์ประกายศักดิ์สิทธิ์อยู่ในจุดที่มึนงง ก่อนหน้านี้ทั้งสามโอ้อวดด้วยความเย่อหยิ่ง ตอนนี้ความสำเร็จของหลี่ฉีเย่เป็นการตบหน้าพวกเขาอย่างจัง
ลูกหลานเชื้อสายจักรพรรดิทั้งสองไม่สามารถยิ่มได้อีกต่อไป มีเพียงความน่เกลียดอยู่บนใบหน้าของพวกเขา ใบหน้าของเจ้าหญิงฟิกนซ์ประกายศักดิ์สิท์เหมือนเคลือบด้วยน้ำแข็ง
นางนั้นคิดต่างกับลูกหลานทั้งสอง ด้วยการก้าวหกสิบก้าวของหลี่ฉีเย่ นางแน่ใจแล้วว่าเขาเป็นศัตรูที่แข็งแกร่งของสามี ไม่ว่าจะอย่างไรนางต้องทำลายหลี่ฉีเย่และขจัดภัยคุกคามที่ยิ่งใหญ่ให้กับสามี
" ท่านทำได้อย่างไรกัน ? " หลานอวิ๋นจูถามด้วยอารมณ์ นางนั้นไม่แปลกประหลาดกับปาฏิหาริย์ที่เขาสร้าง แต่การก้าวหกสิบก้าวนี้ทำให้นางประหลาดใจ
" หนึ่งก้าวเท่ากับหนึ่งโลก " หลี่ฉีเย่อมยิ้มเอ่ย " ข้าสามารถสร้างโลกทั้งสามพันได้ ดังนั้นหนึ่งก้าวเท่ากับหนึ่งโลกไม่มีอะไรหยุดข้าได้ "
หลานอวิ๋นจูไม่ได้เอ่ยสิ่งใดหลังจากได้ยินเรื่องนี้ หลี่ฉีเย่นั้นมีสิบสองวงแหวนนับว่าน่ากลัวมากอยู่แล้ว มันหมายความว่าเขาจะสามารถสร้างสวรรค์จากวงแหวนเหล่านั้นได้ เมื่อมันไปถึงขั้นสมบูรณ์ เขาจะมีสวรรค์เป็นของตัวเอง สิ่งที่ผู้คนทำได้เพียงจินตนาการเท่านั้น
ในเวลาเดียวกันราชินีมณีวารีฟื้นคืนสติของนางหลังจากเห็นความสำเร็จของหลี่ฉีเย่และถอนหายใจเบาๆ " มันไม่ได้ขึ้นอยู่กับการบ่มเพาะแต่เป็นความลึกซึ้ง " นางนั้นสั่นไหวยามเอ่ยประโยคนี้ แม้ว่าเผ่าจิตวิญญาณเสน่ห์จะมีการบ่มเพาะที่แข็งแกร่งและมีสัมผัสศักดิ์สิทธิ์ การก้าวสามสิบก้าวโดยไม่มีสมบัติช่วยเหลือเป็นความท้าทายสำหรับนางแล้ว ทว่าแม้ว่านางจะมีสมบัติช่วยนางก็ไม่สามารถไปได้ถึงหกสิบก้าวได้อย่างสบายใจเหมือนกับหลี่ฉีเย่
ถึงตอนนี้หลี่ฉีเย่มองไปยังลูกหลานทั้งสองอย่างไม่แยแส " ตอนแรกข้าอยากจะก้าวต่อ แต่ในเมื่อพวกเจ้าก้าวได้เพียงสามสิบก้าว มันจะเสียพลังงานเปล่าแม้ว่าข้าจะได้ก้าวได้แปดสิบหรือเก้ากิบก้าว เพียงหกสิบก้าวก็พอแล้ว "
แน่นอนว่านี้ทำให้ใบหน้าของลูกหลานเชื่อสายจักพรรรดิทั้งสองกลายเป็นน่าเกลียด ตอนแรกพวกเขาต้องการจะใช้โอกาสนี้สร้างชื่อเสียง - ให้เป็นที่ยอมรับ อีกครั้งที่พวกเขาวางแผนใช้หลี่ฉีเย่เป็นหินลองเท้า ใครจะคาดว่าด้วยการช่วยเหลือจากสมบัติจักรพรรดิ พวกเขาจะยังแพ้หลี่ฉีเย่อีก ?
หลี่ฉีเย่ไม่ได้สนใจพวกมันทั้งสองก่อนจะหันไปมองเจ้าหญิงและเอ่ย " เจ้าหญิงฟินิกซ์ ถึงตาเจ้าจะท้าทายข้าแล้วละมั้ง ? "
ดวงตาของเจ้าหญิงฟินิกซ์หรี่ลงและการแสดงออกเปลี่ยนเป็นเย็นชา นางนั้นไม่เอ่ยตอบ หลงซู่เทีบยเอ่ยขึ้นมาแทน " ให้ข้าท้าทายเจ้าแทนนางเป็นอย่างไร ? "
หลงซู่เทียนเคลื่อนไหวไม่ใช่ว่าปราศจากเหตุผล เขานั้นเป็นอัจฉริยะที่หาตัวจบยาก ดังนั้นเขาจึงรู้ดีว่าเจ้าหญิงไม่ใช่คู่มือกับหลี่ฉีเย่ แม้จะมีการช่วยเหลือจากสมบัติ นางก็ไม่มีทางก้าวได้ถึงหกสิบก้าว ดังนั้นเขาจึงออกหน้าแทน
หลี่ฉีเย่มองไปที่เขาและเอ่ยด้วยรอยยิ้ม " ตราบใดที่นางไม่ขัดข้อง ข้าก็ไม่มีอะไรขัดข้อง ก้าวผ่านหกสิบก้าวได้ให้ก่อน จากนั้นค่อยมาท้าทายข้า "
หลงซู่เทียนมองไปยังเจ้าหญิงฟินิกซ์ ในเวลานี้นางรู้สึกหวาดกลัวจริงๆ หลี่ฉีเย่เป็นปีศาจที่อยู่เหนือความคิดของนางไปมาก
แม้แต่อัจฉริยะอย่างหลงซู่เทียนก็ยังไม่กล้ารับปากว่าเขาจะเอาชนะหลี่ฉีเย่ได้ เขาจึงเอ่ย " นางหญิง ให้ข้าไปลองดู บางทีอาจจะมีโอกาส " เขานั้นกล่าวกระตุ้นนางแม้ว่ามันจะไม่มีความหวังเลยก็ตาม
เจ้าหญิงฟินิกซ์นั้นถอนหายใจและเอ่ยหลงซู่เทียน " เช่นนั้นข้าต้องขอให้ท่านหลงซู่เทียนช่วยแล้ว ความภาคภูมิใจของเผ่าพันธ์ผีขึ้นอยู่กับท่าน "
หลงซุ่เทียนนั้นทำเพียงส่ายหัวและรู้สึกเสียใจอยู่ภายในใจ เจ้าหญิงนั้นคำนวนทุกสิ่งมากเกินไป นางกล่าวเพื่อให้เขาใช้กำลังทั้งหมดออกมา
ในสายตาของเขาคนที่เต็มไปด้วยแผนการและคำนวนต่างๆอย่างเจ้าหญิงฟินิกซ์นั้นไม่เหมาะกับผู้ฝึกตน การคำนวนที่มากไปจะทำให้การบ่มเพาะของนางช้าลง
ในเวลานั้นมีเสียงที่ลึกลับปรากฏขึ้น " หากมันเกี่ยวข้องกับศักดิ์สิทธิ์ของเผ่าพันธ์ผีเช่นนั้นข้าจะพลาดได้อย่างไร " มีคนคนหนึ่งบินมาพร้อมกับแรงกดดันที่ยอดเยี่ยมและกดขี่ผู้คน
การปราฏตัวของเขาเต็มไปด้วยกลิ่นอายลึกลับที่ผู้คนไม่สามารถหยั่งได้และราวกับกำลังถูกดูดกลืน
" เทียนหุยหลี่ ! " ผู้ฝึกตนเผ่าพันธ์ผีตะโกนหลังจากเห็นผู้มาใหม่คนนี่
หนึ่งในสามวีรบุรุษของโลกใต้พิภพศักดิ์สิทธิ์ ลูกหลานขอองยอดยุคอาณาจักรโบราณ เทียนหุยหลี่มาถึงแล้ว ข่าวลือว่าเขานั้นได้เข้าไปยังพระราชวังเขตไฟดังนั้นไม่มีใครคาดว่าเขาจะออกมาเร็วเช่นนี้
ตัวตนที่ยิ่งใหญ่บางคน ยามเห็นเขาเอ่ยด้วยอารมณ์ " มันดูเหมือนว่าเขาจะได้รับสมบัติที่ดีภายในเขตนั้น เป็นยอดอัจฉริยะอย่างแท้จริง "
เผ่าพันธ์ผีกลายเป็นร่าเริงหลังจากที่เห็นเขา บางคนกล่าวอย่างมีความสุข " ในเมื่อเทียนหุยหลี่สามารถเข้าไปยังพระราชวังเทพไฟได้ บ่อน้ำนี้ก็ไม่น่าเป็นปัญหาสำหรับเขา หากบ่อน้ำนี้ไม่ได้สนใจระดับการบ่มเพาะ เช่นนั้นเทียนหุยหลี่จะต้องผ่านมันไปได้อย่างแน่นอน ! "
ในเวลานี้ สมาชิกเผ่าพันธ์ผีจำนวนมากต่างตั้งความหวังไว้กับเทียนหุยหลี่ แม้แต่บรรพชนก็ยังไม่ต้องการแพ้ให้กับหลี่ฉีเย่
ความโกรธของพวกเขาไม่สามารถระงับได้หลังจากที่พวกเขาแพ้หลี่ฉีเย่ ยอดเซียนเล็บจันทร์เสี้ยวและยอดเซียนผีแมลงได้พ่ายแพ้ไปแล้ว ไม่มีคนอื่นท้าทายจนกระทั้งเทียนหุยหลี่ปรากฏ
" ท่านเทียนหุยหลี่ ท่านจะต้องเอาชนะและสั่งสอนบทเรียนให้กับเจ้ามนุษ์นี้ ทำให้เขารู้ว่าเผ่าพันธ์ผีของเรานั้นมีอัจฉริยะจำนวนมากและสามารถกำราบพวกเขาได้ ! " ผีบางคนอุทาน
" ถูกต้อง ! แสดงให้เขาเห็นว่าอย่าได้มาหยิ่งยโสต่อหน้าพวกเรา ! " แม้แต่ตัวตนที่ยิ่งใหญ่ก็ยังโห่ร้อง
เผ่าพันธ์ผีนั้นได้รับการกดขี่ที่หนักหน้าเกินไปจากเหตุการณ์ก่อนหน้ารวมถึงการสังหารหมู่ที่น่าอับอาย...แม้แต่ลูกหลานเชื่อสายจักรพรรดิก็ยังพ่ายแพ้ต่อหน้าเขา ดังนั้นเผ่าพันธ์ผีไม่สามารถยอมรับความโกรธแค้นที่อัจฉริยะจำนวนมากไม่สามารถเอาชนะมนุษย์คนเดียวได้
ทว่าการมาถึงของเทียนหุยหลี่เป็นเหตุให้พวกเขาฟื้นคืนความหวังและความเชื่อมั่น
เทียนหุยหลี่นั้นเดินไปด้านหน้าพร้อมกับกลิ่นอายที่ลึกลับและเอ่ย " ขออภัยด้วยและขอให้ข้าได้เรียนรู้จากสหายหลี่ ก่อนท่านหลงซุ่เทียนได้หรือไม่ ? " คำกล่าวของเขาเต็มไปด้วยท่วงทำนองลึกลับ การหน้านี้เทียนหุยหลี่นั้นเป็นที่รู้จักน้อย แต่การแสดงอออกของเขาต้อนมีแรงกดดันไม่แพ้กับตี๋เชา
หลงซู่เทียนมองไปยังเทียนหุยหลี่และเอ่ยด้วยอารมณ์ " คลื่นลูกใหม่จะกลืนคลื่นลูกเก่า ข้านั้นแก่แล้ว และนี้เป็นเวทีของเหล่าอัจฉริยะรุ่นเยาว์ " จากนั้นเขาก็เดินกลับไปด้านข้างเจ้าหญิง
เจ้าหญิงนั้นทำได้เพียงถอนหายใจ ก่อนเผชิญหน้ากับหลี่ฉีเย่ทำให้นางกดดันอย่างมาก นางนั้นมั่นใจในตัวเองเสมอ แต่ตอนนี้นางไม่มั่นใจในชัยชนะ ทว่าเมื่อเทียนหุยหลี่ปรากฏ สถานการณ์ทุกอย่างจะเปลี่ยนไป
นางมีความกระตือรือร้นมากทขึ้นที่เห็นเทียนหุยหลี่ท้าทายหลี่ฉีเย่ นางจะใช้โอกาสนี้ในการศึกษาเทียนหุยหลี่ให้กับสามีของนาง
เทียนหุยหลี่มองไปยังหลี่ฉีเย่และเอ่ยอย่างสงบ " สหายหลี่มีชื่อเสียงเหมือนกับสายฟ้าคำรามที่ข้างหู วันนี้ข้าได้ให้เจ้าแล้วทำให้ยิ่งมั่นใจอย่างมาก "
หลี่ฉีเย่มองไปยังเขาก่อนจะเอ่ยอย่างสบายๆ " ข้าเกรงว่านี้จะไม่ใช่การพบกันครั้งแรกของพวกเรา "
นี้เป็นความจริง ทั้งสองนั้นพบกันมาก่อนหน้าโดยไม่มีการทักทายกัน
เทียนหุยหลี่ไม่ได้โกรธ เขาทำเพียงยิ้มและปลดปล่อยกลิ่นอายที่ลึกลับ
" ความจริงเป็นเช่นนั้น แต่นั้นเป็นเพียงพริบตาและข้าไม่มีโอกาสเอ่ยทักทายสหายหลี่ " เทียนหุยหลี่เอ่ย " การพบกันวันนี้นับว่าเป็นเกียรติของข้าจริงๆ "
หลี่ฉีเย่เอ่ยอย่างใจเย็น " เริ่มแรกหากเจ้าต้องการท้าทายข้า ก้าวให้ได้มากกว่าหกสิบก้าวเสียก่อน "
" เช่นนั้นก็ขอล่วงเกินแล้ว " เทียนหุยหลี่นั้นไม่กล้าประมาทศัตรู เขานั้นสูดลมหายใจเข้าลึกก่อนที่ดวงตาของเขาจะปล่อยแสงศักดิ์สิทธิ์และเดินเข้าไปในบ่อ
ในเวลานี้ผู้ฝึกตนเผ่าพันธ์ผีจำนวนมากสูดลมหายใจ ทุกสายตาของพวกเขาจ้องมองที่เทียนหยุหลี่ พวกเขาหวังว่าจะให้เทียนหุยหลี่เอาชนะหลี่ฉีเย่กู้คืนชื่อเสียงของเผ่าพันธ์
สายตาของเทียนหุยหลี่นั้นส่องประกายกระพริบ บางครั้งสว่างราวกับดวงอาทิตย์ บางครั้งก้มืดมนราวกับหลุมดำ
เขานั้นใช้สายตาศักดิ์สิทธิ์ของเขาสื่อสารกับบ่อน้ำและเริ่มจะทำความเข้าใจมัน
ราชินีมณีวารีกล่าวด้วยความประหลาดใจ หลังจากเห็นสิ่งที่เกิดขึ้นในสายตาของเขา " น่าประทับใจยิ่ง สมแล้วที่เป็นหนึ่งในสามวีรบุรุษ เขานั้นสามารถทำความเข้าใจกับบ่อน้ำได้ในเวลาสั้นๆ นี้ทำให้สัมผัสศักดิ์สิทธิ์ของข้ายังต้องอาย "
แม้แต่หลี่ฉีเย่ก็ยังพยักหน้าของเขาและเอ่ย " สมกับที่เป็นอัจฉริยะ ความรู้ในการเชื่อมต่อเต๋าของเขานั้นอยู่ในระดับสูงสุด การเหยียบบ่อน้ำนี้ไม่ได้ขึ้นเกี่ยวกับการบ่มเพาะ เว้นแต่จะเป็นจะเป็นตัวตนระดับสูงอย่างเทพแท้จริงหรือจักรพรรดิอมตะ ! "