" ตูม !! " เสียงระเบิดกระหึ่มดังออกมา แสงอมตะไร้สิ้นสุดส่องออกมาจากบ่อ แหล่งกำเนิดอยู่ที่ศูนย์กลางของมัน
" ดูที่ตรงนั้น นั้นมันหลี่ฉีเย่ ! " ภายในแสงอมตะปรากฏคนผู้หนึ่งอยู่ตรงกลางบ่อ - นั้นคือหลี่ฉีเย่
" เขาเข้าไปยังศูนย์กลางของบ่อแล้ว ! " ทุกคนมองเขาที่ยืนอยู่กลางบ่ออย่างจริงจัง เพราะว่ามีข่าวลือว่าสมบัติของเขตน้ำอยู่ที่ศูนย์กลางของบ่อน้ำนี้
ผู้เชียวชาญผีมองดูและรู้สึกว่าตัวเองพึงกินแมลงวันตัวหนึ่งเข้าไป ก่อนหน้านี้พวกเขาโกรธเกรี้ยว แต่ตอนนี้กลางแสดงออกของพวกเขาทั้งหมดถูกแช่แข็ง
ความหวังของพวกเขาก่อนหน้านี้ถูกตบอย่างรุนแรงด้วยการปรากฏตัวของหลี่ฉีเย่
" เขาออกมาพร้อมกับสมบัติ ! " ในแสงสว่างอมตะ หลี่ฉีเย่ถือบางอย่างไว้ มันเป็นหินที่ดูคล้ายกับตอไม้ยาวและปลดปล่อยแสงอมตะออกมา ในเวลานี้แสงนั้นได้เปลี่ยนรูปแบบของตัวเองกลายเป็นน้ำแข็ง...แต่กลิ่นอายของมันยังเต็มไปด้วยความศักดิ์สิทธิ์และอมตะ !
ทุกคนล้วนเต็มไปด้วยความอิจฉาและโลภหลังจากเห็นฉากนี้ เผ่าพันธ์ผีทั้งหมดตาแดงก่ำด้วยความบ้าคลั่ง แต่พวกเขาไปไม่หาญกล้าพอจะชักกระบี่ออกมาแย่งชิงสมบัติกับหลี่ฉีเย่ในตอนนี้
หลายคนไม่เต็มใจที่จะเห็นหลี่ฉีเย่ครอบครองสมบัติ บางคนถามด้วยความโกรธ " นั้นเป็นสมบัติของเขตน้ำจริงๆ ? "
เหล่าคนตายที่ซ่อนตัวอยู่ในเงามืดล้วนจ้องมองไปยังก้อนหินในมือของเขา เหล่าผู้ที่มาจากเชื้อสายจักพรรรดิล้วนมองไปด้วยแววตาที่น่ากลัว
พวกเขานั้นสามารถระงับความโลภได้หากเป็นสมบัติทั่วไป แต่หินอมตะที่สามารถยืดอายุขัยของหลี่ฉีเย่ไม่สามารถห้ามจิตสำนึกของพวกเขาได้ไม่ว่าหลี่ฉีเย่จะมีพื้นหลังอย่างไร
เจ้าหญิงฟินิกซ์คนที่ผ่อนคลายอยู่ก่อนหน้า เปลี่ยนการแสดงออกทันทีที่เห็นแสดงอมตะในมือหลี่ฉีเย่ นางมีคำสั่งทันที " เรียกราชันผีแมลงกระดองมาช่วยข้า และบอกเขาว่าบัลลังก์หมื่นกระดูกจะไม่รุกรานพวกเขาอีกต่อไป "
หลงซู่เทียนทำเพียงส่ายศีรษะของเขาขณะมองดูนาง เขารู้ว่านางต้องการจะทำอะไร ในสายตาของอัจฉริยะเช่นเขา เขาไม่สนับสนุนแผนการของนางเพราะเห็นว่ามันเป็นวิธีการที่ต่ำต้อยและน่าอับอาย ไม่ว่าอย่างไรเขาก็ไม่ได้หยุดนาง
สมาชิกของเผ่าพันธ์ผีทั้งหมดกลายเป็นอิจฉา นี้ไม่ใช่เพราะว่าหินอมตะที่อยู่ในมือหลี่ฉีเย่ แต่เป็นคนที่ได้รับมันคือหลี่ฉีเย่คนที่ตบหน้าพวกเขาไปหลายครั้ง
ขณะเดียวกันเทียนหุยหลี่ทำเพียงถอนหายใจเมื่อเห็นการเก็บเกี่ยวของหลี่ฉีเย่ เขานั้นไม่ได้ดำเนินการต่อไปและเลือกที่จะออกมาแทน มันไม่มีความหมายอะไรเลยเพราะผู้ชนะถูกตัดสินแล้ว หากเขาเดินได้มากกว่าร้อยก้าวแล้วจะเป็นอะไร ? หากเขาไม่สามารถกำราบหลี่ฉีเย่ได้แล้วนี้ก็เป็นเพียงการสร้างความอัปยศให้กับตัวเอง
ในกรณีนี้หากเขาสามารถเข้าไปยังศูนย์กลางของบ่อหรือเขาไปในส่วนลึกที่สุดได้ มันก็ยังเป็นหลี่ฉีเย่ที่เขาไปถึงเป็นคนแรกและใช้เวลาสั่นกว่ามาก
ทว่าสิ่งที่เทียนหุยหลี่กลัวที่สุดไม่ใช่ความเร็วขอองหลี่ฉีเย่ แต่อำนาจยอดเต๋าของเขาภายในบ่อน้ำ เทียนหุยหลี่มั่นใจยอดเต๋าของเขาในการสร้างเส้นทาง เขาอาจจะก้าวเข้าไปได้ไกลภายในบ่อ - หนึ่งก้าวหนึ่งโลก
แต่หลี่ฉีเย่นั้นต่างกัน สถานการณ์ตอนนี้ย้อนกลังและบ่อน้ำนี้ไม่สามารถควบคุมได้อีก หลี่ฉีเย่เป็นคนที่เข้าใจการเปลี่ยนแปลงของมัน มันไม่ได้เป็นโลกที่บ่อน้ำสร้างขึ้นแต่เป็นโลกที่หลี่ฉีเย่สร้างขึ้นมาแทนที่
นั้นหมายความว่าจะไม่มีอะไรหยุดยั้งการก้าวเดินของหลี่ฉีเย่ ภายในบ่อไม่ว่าจะมีสมบัติอะไร จะไม่มีใครเดินได้ไกลกว่าเขา
หัวใจของเทียนหุยหลี่นั้นมืดมน ในฐานะนักคำนวนและคนที่เฝ้าระวัง หลี่ฉีเย่ตอนนี้กลายเป็นศัตรูลำดังหนึ่งของเขาแล้ว เขากระทั้งอาจจะแข็งแกร่งกว่าตี๋เชา ความมั่นใจของเขาในยอดเต๋านั้นไปสู่ระดับสูงสุด เขานั้นเชื่อมันว่าจะได้รับเจตจำนงแห่งสวรรค์ตราบที่เดินเส้นทางนี้ ยอดเต๋าของเขาจะกลายเป็นเต๋าสวรรค์ และคัมภีร์ของเขาจะกลายเป็นคัมภีร์เจตจำนงแห่งสวรรค์
ทว่ายอดเต๋าของหลี่ฉีเย่ได้ทำลายความมั่นใจของเขาทั้งหมด หากยอดเต๋าของเทียนหุยหลี่จะกลายเป็นเต๋าสวรรค์ในอนาคต เช่นนั้นยอดเต๋าของหลี่ฉีเย่ก็เหนือยิ่งกว่าเต๋าสวรรค์ - นี้เป็นเหตุที่ทำให้เทียนหุยหลี่รู้สึกกลัว หลี่ฉีเย่นั้นน่ากลัวเกินไป ! หากเทียนหุยหลี่ต้องการจะกลายเป็นจักรพรรดิอมตะ หลี่ฉีเย่จะกลายเป็นหนึ่งในอุปสรรคที่ยิ่งใหญ่ของเขา !
ผู้ฝึกตนเผ่าพันธ์ผีทุกคนอยู่ในความเงียบเมื่อเห็นเทียนหุยหลี่ออกมาจากบ่อ ในเวลานี้ไม่มีใครกล้าตำหนิเขาแน่นอนว่าไม่มีใครมีคุณสมบัติทำเช่นนั้น แม้แต่บรรพชนบางคนก็ยังไม่มีความสามารถเทียบกับเทียนหุยหลี่ !
มันไม่ใช่ว่าคนของพวกเขานั้นอ่อนแอเกินไป แต่เป็นว่าศัตรูของพวกเขามันเป็นสัตว์ประหลาดมากเกินไป !
ความรู้สึกของเผ่าพันธ์ผีตอนนี้คือสิ้นหวังอย่างมาก พวกเขาถูกหลี่ฉีเย่ตบหน้ามาหลายครั้งแต่หลายครั้ง ทุกการแก้แค้นของพวกเขาล้วนล้มเหลว เริ่มแรกเป็นการต่อสู้ของเจ้าหญิงฟินิกซ์ หลี่ฉีเย่ได้สร้างปาฏิหาร์ย ข้าคนนับหมื่นด้วยตัวคนเดียว ตอนนี้ยออดเซียนผีแมลง ยอดเซียนเล็บจันทร์เสี้ยว รวมถึงเทียนหุยหลี่ก็ยังพ่ายแพ้ต่อเขา
เผ่าพันธ์ผีนั้นแทบจะร้องไห้ แต่น้ำตาของพวกเขากลับไหลไม่ออกนับตั้งแต่อัจฉริยะของเผ่าพันธ์อย่างเทียนหุยหลี่ก็ยังแพ้ต่อหลี่ฉีเย่ พวกเขานั้นต้องการจะสู้กลับแต่ไม่รู้จะทำอย่างไร ไม่มีใครมีคุณสมบัติเท่ากับเทียนหุยหลี่ และแม้แต่ตี๋เชาก็ไม่ได้ดีกว่ามากนัก
เกี่ยวกับพรสวรรค์และความสามารถ กระทั้งบรรพชนจากรุ่นก่อนก็ยังยากที่จะหาคนที่มีพรสวรรค์เทียนเท่ากับเทียนหุยหลี่
" ให้บรรพชนของนิกายทรงอำนาจมาฆ่าหลี่ฉีเลยเป็นอย่างไร ? " ความโกรธของเหล่าพันธ์ผีไม่ได้ลดลงและมีความคิดนี้ออกมา ความตั้งใจที่โหดร้ายเริ่มปรากฏขึ้นที่ละคน พวกเขาเห็นพ้องกันว่าหลี่ฉีเย่มีความสามารถที่ท้าทายสวรรค์ แต่หากบรรพชนเที่ยงธรรมลงมันก็เป็นเรื่องง่ายที่จะสยบและฆ่าเขา
ปัญหาคือพวกเขาต้องหาบรรพชนที่ยอมรับเรื่องนี้ โดยปกติแล้วไม่มีบรรพชนคนใดต้องการขัดแย้งกับนิกายพันแม่น้ำหวน นอกจากนี้บรรพชนที่มีความสามารถที่เทียบได้กับนิกายพันแม่น้ำหวนมีเพียงบรรพชนจากดินแดนเล็บจันทร์เสี้ยวและเชื้อสายราชันผีแมลง ซึ่งทั้งสองไม่ได้โง่ที่จะลงมือแน่นอน
" หากมันเป็นเรื่องความแข็งแกร่งแล้ว ท่านเทียนหุยหลี่แน่นอนว่าจะต้องสามารถฆ่าหลี่ฉีเย่ได้ แม้ว่าหลี่ฉีเย่จะเข้าใจความลึกลับของบ่อน้ำ นั้นก็ไม่ได้หมายความว่าการบ่มเพาะของเขาจะแข็งแกร่งกว่าท่านเทียนหุยหลี่ " เผ่าพันธ์ผีบางคนคิด " ท่านเทียนหุยหลี่คือจักรพรรดิที่กลับชาติมาเกิด คนที่สามารถฝึกสุดยอดคัมภีร์จักรพรรดิทั้งสองได้ หลี่ฉีเย่แน่นอนว่าไม่ใช่่คู่มือเขา ! "
ขุนนางเผ่าพันธ์ผีคนหนึ่งมีความคิดที่เหมือนกันเอ่ย " หากเทียนหุยหลี่ลงมือ เขาสามารถฆ่าเจ้ามนุษย์นั้นได้ ในความเห็นข้าการบ่มเพาะของเขาอย่างมาก็เพียงแค่องค์รักษ์เทพสวรรค์ ไม่ใช่ราชันเทพสวรรค์ "
แน่นอนว่าเทียนหุยหลี่ไม่ใช่คนที่พวกเขาจะควบคุมได้ หากเขาไม่ต้องการ แม้ว่าพวกเขาจะพยามอย่างไรก็ไร้ความหมาย
ในระยะเวลาสั้นๆ สมาชิกผีต้องการจะฆ่าหลี่ฉีเย่ หากเขายังมีชีวิตอยู่ เผ่าพันธ์ผีไม่สามารถแบกความอับอายนี้ได้ !
หลี่ฉีเย่นั้นกลับมาไม่นานเทียนหุยหลี่ก็ออกมา หลานอวิ๋นจูโล่งใจที่เห็นเขากลับมาอย่างปลอดภัยและวิ่งไปหาเขา นางเอ่ยอย่างมีความสุข " ท่านได้รับสมบัติใดที่ยิ่งใหญ่มา ? "
" ไม่ จริงๆแล้วการเข้าไปในบ่อน้ำได้ไม่มีอะไรรับประกันว่าจะได้รับสมบัติที่ยิ่งใหญ่ มันขึ้นอยุ่กับโชคของพวกเขาด้วย " หลี่ฉีเย่อมยิ้มเอ่ย " แต่ข้าได้พบบางอย่าง "
" ท่านได้พบอะไร ? " หลานอวิ๋นจูเอ่ยถามอย่างอยากรู้อยากเห็น
ทว่าหลี่ฉีเย่ไม่ได้เอ่ยตอบเพราะเทียนหุยหลี่เดินเข้ามาใกล้พร้อมด้วยกลิ่นอายลึกลับ เขาจากนั้นก็เอ่ย " สหายหลี่ ข้ายอมรับความพ่ายแพ้อย่างสมบูรณ์ ยอดเต๋าของเจ้านั้นหาใดเปรียบอย่างแท้จริง.." หลังจากเขาแพ้เทียนหุยหลี่ก็ยังกล่าวอย่างสงบ และมองหลี่ฉีเย่อย่างล้ำลึก
หลี่ฉีเย่ไม่ต้องการพูดถึงยอดเต๋าของเขา จากนั้นเขาก็ตัดบทเทียนหุยหลี่เอ่ย " เช่นนั้นก็ดำเนินการตามข้อตกลงของพวกเราด้วย "
เทียนหุยหลี่กล่าวด้วยน้ำเสียงที่จริงจัง " เจ้าสามารถมั่นใจเรื่องนี้ได้ ข้ารับประกันว่ายอดยุคอาณาจักรโบราณของข้าจะออกจากความขัดแย้งนี้ และไม่ได้มีส่วนเกี่ยวข้องใดๆ "
สุดท้ายเทียนหุยหลี่ก็คือเทึยนหุยหลี่ ลูกหลานของยอดยุคอาณาจักรโบราณ คำกล่าวของเขานั้นทรงพลังอย่างแท้จริง
เขาจากนั้นก็มองไปยังกลุ่มของนิกายทรงอำนาจและเอ่ยอย่างจริงจัง " นี้เป็นข้อตกลง ข้านั้นแพ้สหายหลี่เพราะความอ่อนแอของข้า ข้าหวังว่าพันธมิตรของยอดยุคออาณาจักรโบราณและสหายข้างเคียงจะออกจากความขัดแย้งนี้ แน่นอนหากวพวกท่านไม่เต็มใจ ข้าจะไม่บังคับ ตัดสินใจตามเจตนาของตัวเองได้เลย "
การประกาศของเทียนหุยหลี่ทำให้ขุมอำนาจทั้งหลายล้วนมองหน้ากันโดยเฉพาะในเขตแม่น้ำเขียว ยอดยุคอาณาจักรโบราณนั้นเป็นผู้ปกครองเขตนี้และมีอำนาจอย่างมาก
สุดท้ายนิกายและประเทศทรงอำนาจก็ประกาศเจตนาของพวกเขา " พวกเรายินดีจะติดตามเจ้าและทำตามคำตัดสินใจของเจ้า ! "
" ประเทศสามหลุมศพยินดีทำตามคำตัดสินใจของเจ้า ! "
" นิกายไผ่หลุมศพยินดีจะออกจากความขัดแย้งนี้และปฏิบัติตามคำสั่งของเจ้า โดยไม่นำสมบัติใดๆออกไป "