ถึงตอนนี้ หลงซู่เทียนกลับไปหาเจ้าหญิงฟินิกซ์ประกายศํกดิ์สิทธิ์และเอ่ยด้วยน้ำเสียงจริงจัง " นายหญิงมันยังไม่สายหากท่านจะจากไป ข้าจะพาท่านออกไปเอง "
คำกล่าวของเขาทำให้หัวใจของเจ้าหญิงจมลงและเอ่ยถาม " ท่านผู้อาวุโสพยามจะเอ่ยสิ่งใด ? "
หลงซู่เทียนไม่ได้มองไปที่นางแต่มองไปยังหลี่ฉีเย่และเอ่ย " ข้านั้นแก่แล้วและต้องการใช้ชีวิตอย่างสันโดษ ข้าเกรงว่าข้าจะไม่สามารถช่วยสนับสนุนตี๋เชาได้อีกต่อไป แต่ก่อนจาก ข้าสามารถพาท่านออกจากที่นี่ได้อย่างปลอดภัย "
หลงซู่เทียนนั้นระมัดระวังหลี่ฉีเย่อย่างมาก หลังจากการแลกเปลี่ยนกันเมื่อครู่ เขารับรู้ได้ทันทีว่าพบกับศัตรูที่ท้าทายสวรรค์เพราะว่าเขาไม่สามารถบอกได้ว่าหลีฉีเย่บ่มเพาะกายาใด
การถอนห่างของหลงซู่เทียนทำให้การแสดงออกของเจ้าหญิงเปลี่ยนไป นางพยามเอ่ยรักษาหน้าเขา " ผู้อาวุโสหลงล้อเล่นแล้ว ท่านเป็นอัจฉริยะของคนรุ่นก่อน..."
หลงซู่เทียนเอ่ยขัดนาง " นายหญิง ท่านควรจะออกไป "
การแสดงออกของเขาทำให้หลายคนงุนงง ชัยชนะระหว่างเขาและหลี่ฉีเย่ยังไม่ถูกตัดสิน หลายคนยังมองโลกในแง่ดีว่าเขาจะชนะหลี่ฉีเย่ได้อย่างแน่นอน
แต่ตอนนี้ หลงซู่เทียนเลือกที่จะยอมแพ้ เขาไม่ได้แสดงท่าทีภาคภูมิใจอย่างเช่นปกติ นี้ทำให้ทุกคนรู้สึกว่ามีบางอย่างไม่ถูกต้อง ไม่มีใครคิดว่าเขากลัวหลี่ฉีเย่ ในอดีตเขากระทั้งปฏิเสธคำเชิญจากบัลลังก์หมื่นกระดูก เช่นนั้นคนเช่นหลงซู่เทียนคงไม่กลัวหลี่ฉีเย่ นอกจากนี้เขายังมีระดับการบ่มเพาะที่สูงกว่าหลี่ฉีเย่
ทว่าท่ามกลางความประหลาดใจของคนอื่น เขายังคงเลือกที่จะยอมแพ้ นี้คล้ายกับการลดศักดิ์ศรีของตัวเองลงและทำให้ชื่อเสียงในอดีตของเขาแปดเปื้อน
ทำไมเขาถึงได้ตัดสินใจยอมแพ้รวมถึงทำลายชื่อเสียงในอดีต ? ไม่มีใครเข้าใจว่าเพราะเหตุใด แม้แต่เจ้าหญิงฟินิกซ์ เขานั้นผู้แนะนำตี๋เชาและเขาไม่เกรงกลัวผู้ใด แต่ตอนนี้เขาต้องการจะจากไป
นางสูดลมหายใจเข้าลึกก่อนจะส่ายหัวและเอ่ย " ผู้อาวุโสหลง หากท่านต้องการจะไป เช่นนั้นข้าจะไม่รั้งท่านไว้ แต่ข้าจะไม่ถอย ไม่ว่าเจ้ามนุษย์นี้จะแข็งแกร่งแค่ไหน ข้าก็ไม่มีทางให้เผ่าพันธ์ทำแผนการของพวกเขาสำเร็จ ข้าจะไม่ให้หลี่ฉีเย่สังหารผู้เยาว์ของพวกเรา ไม่ใช่เพราะว่าข้าเป็นคนของบัลลังก์หมื่นกระดูก แต่นี้เพื่อประโยชน์ของเผ่าพันธ์ผี ! "
หลงซุ่เทียนทำเพียงส่ายหัวหลังจากได้ยินคำกล่าวของนาง เขานั้นรู้ว่านางต้องการจะทำอะไร เขานั้นถอนหายใจก่อนจะเอ่ยย้ำ " ข้านั้นแก่มากแล้ว...นี้เป็นโลกของคนหนุ่มสาว สิ่งมที่น่าชื่นชมคือความกล้าหาญ "
ไม่มีใครรู้ว่าทำไมเขาถึงเอ่ยด้วยความเศร้า ก่อนจะจากไปเขาได้ทิ้งคำพูดสุดท้ายเอาไว้ " นายหญิงดูแลตัวเองด้วย " จากนั้นเขาก็หายตัวไปในเส้นขอบฟ้า
ฝูงชนจำนวนมากกลายเป็นโง่งมเมื่อเห็นเขาบินหายไป ตั้งแต่ต้นจนจบไม่มีใครรู้ว่าทำไมเขาถึงจากไป เขาแน่นอนว่าไม่ได้อ่อนแอกว่าหลี่ฉีเย่ดังนั้นจึงไม่จำเป็นต้องกลัวเขา
เช่นนั้นเขาจากไปด้วยเหตุผลอะไร ? ทั้งหมดล้วนไม่รู้เหตุผลรวมถึงเจ้าหญิงฟินิกซ์
ในความเป็นจริง เขาเป็นคนที่มีความสามารถอย่างมากในรุ่นของตัวเอง ในวัยเยาว์ เขานั้นไม่ได้อ่อนแอกว่าตี๋เชาหรือเทียนหุยหลี่ !
เขานั้นตกลงที่จะออกจากความสันโดษเพื่อช่วยตี๋เชาเพราะว่าเขาเห็นคุณค่าของตี๋เชา การเห็นตี๋เชาทำให้เขาห้วนนึกถึงตัวในอดีต
เขานั้นเสียใจมากที่เกิดผิดยุคและเกิดมาในยุคเต๋าที่ยุ่งยากซึ่งไม่มีทางได้เป็นจักรพรรดิอมตะ ดังนั้นเขาจึงหวังไว้กับตี๋เชา เมื่อเผชิญหน้ากับเทียนหุยหลี่หรือฉานหยาง เขาก็ยังเชื่อว่าตี๋เชาจะได้นั่งบัลลังก์จักรพรรดิ
แต่วันนี้ความเชื่อมั่นทั้งหมดของเขาพังทลายหลังจากพบชายที่ชื่อว่าหลี่ฉีเย่ เขาเข้าได้สิ่งหนึ่ง - หลี่ฉีเย่มีความสามารถที่เหนือจินตนาการของเขาอย่างมาก แม้ว่าเขาจะไม่สามารถมองเห็นกายาของหลี่ฉีเย่ แต่สัญชาตณาณของเขาบอกว่ามันเป็นกายาอมตะ
ความรู้สึกของเขาบอกว่าหลี่ฉีเย่นั้นมีสองกายาอมตะในตัวเอง แต่สามัญสำนักของทุกล้วนต้องคิดว่าเป็นไปไม่ได้ ทว่าสัญชาตณาณนี้สะท้อนในจิตวิญญาณของเขาอย่างรุนแรง
จะเกิดอะไรขึ้นหากหลี่ฉีเย่มีสองกายาอมตะ ? หลงซู่เทียนไม่กล้าที่จะคิด ด้วยความสามารถของหลี่ฉีเย่เพียงลำพังมันก็ท้าทายสวรรค์เพียงพอแล้วและเทียบได้กับสามวีรบุรุษ หากไพ่ลับของเขาไม่ใช่เพียงสิบวงแหวนและเก้าดวงดารา ไม่คัมภีร์อมตะ แต่เป็นอย่างอื่นเล่า ?
ตัวอย่างเช่นหนึ่งร่างกายแต่มีสองกายาอมตะ ? เขาเชื่อว่านี้เป็นคำอธิบายที่เป็นไปได้มากที่สุด และเขารู้ทันทีว่าตี๋เชาจะต้องพ่ายแพ้อย่างสยดสยอง เขาไม่อยากจะเห็นช่วงเวลาที่ตี๋เชาต้องพ่ายแพ้ !
หลังจากเขาจากไป หลี่ฉีเย่มองไปยังเจ้าหญิงฟินิกซ์และเอ่ย " ตอนนี้ ใครพร้อมจะสู้ร่วมกับเจ้าอีก ? "
" แม้ว่าข้าจะตัวคนเดียว ข้าก็ไม่ถอยหรือประณีประนอม ! " เจ้าหญิงฟินิกซ์สูดลมหายใจเข้าลึกและกล่าวอย่างสง่า " แม้ว่าพลังของข้านั้นจะไม่เพียงพอ แต่ข้าจะยืนหยัดหยุดแผนการชั่วร้ายของเจ้าที่จะทำลายเผ่าพันธ์ผีทั้งหมด ! แม้ว่าข้าจะตายมันจะทำให้เผ่าพันธ์ผีตื่นตัว...จากนั้นความตายของข้าจะไม่สูญเปล่า ! "
เจ้าหญิงนั้นกล่าวอย่างมีศักดิ์ศรี ถ้อยคำของนางนั้นชัดเจนและสะท้อนในฝูงชน
นางนั้นกล่าวราวกับว่าหลี่ฉีเย่เป็นปีศาจ และกระทำความผิดบาป เพื่อให้นางได้รับแรงสนับสนุนจากฝูงชน !
หลี่ฉีเย่ส่ายหัวขณะมองไปยังเจ้าหญิงและเอ่ย " กล่าวตามจริง ข้าเองยังชื่นชมความกล้าหาญของเจ้าไม่น้อย แม้ว่าเจ้าจะรู้ทำอะไรไม่ได้แต่ก็ยังพยาม...ยอดเยี่ยมจริงๆ "
" สำหรับเผ่าพันธ์ผี ชีวิตข้านั้นไม่นับเป็นอันใด " เจ้าหญิงฟินิกซ์กล่าวอย่างภาคภูมิ " แม้ว่าข้าจะต้องเสียสละ ข้าก็จะไม่ปล่อยเจ้าไป "
หลี่ฉีเย่ขัดจังหวะนางเอ่ย " ใช่ ข้ารู้ ข้านั้นเป้นปีศาจที่ชั่วร้าย ไม่ว่าจะเป็นเรื่องของตี๋เชาหรือเผ่าพันธ์ผี ข้าจะทำให้เจ้าตายอย่างมีความหมาย "
เจ้าหญิงมองดูหลี่ฉีเย่ นางนั้นสูดลมหายใจเข้าลึกโดยไม่มีสัญญาณการถอยหนีและเอ่ย " ข้ารู้ว่าเจ้าแข็งแกร่ง แต่ข้าจะลองแม้ว่าข้าจะอ่อนแอ ! ความภูมิใจของเผ่าพันธ์ผียังอยู่กับข้า ! "
ผู้ฝึกตนเผ่าพันธ์จำนวนมากเฝ้าดูฉากนี้ เมื่อเห็นหลี่ฉีเย่เดินเข้ามาใกล้มากขึ้น คนจำนวนมากอดไม่ได้ที่จะกล่าวไปข้างหน้า และกล่าวด้วยอารมณ์ " เจ้าคนแซ่หลี่ หากเจ้าต้องการแตะต้องเจ้าหญิง ข้ามศพของพวกเราไปก่อน ! "
" สมาชิกของเผ่าพันธ์ผีจะไม่ให้เจ้าฆ่าพวกเราได้ตามที่เจ้าต้องการ ! " ขุนนางและผู้นำนิกายจำนวนมากขู่คำราม
ในเวลานี้ มีสองคนลอยขึ้นไปบนฟ้าและยืนเบื้องหน้าของเจ้าหญิงฟินิกซ์เหมือนกับเป็นโล่ป้องกัน พลังงานในส่ายเลือดของพวกเขาราวกับทะเล มันแข็งแกร่งยิ่งกว่ากลุ่มของผู้เชียวชาญที่อยู่เบื้องล้าง
แม้ว่าเหล่าผู้นำนิกายและขุนนางจะเคลื่อนไหว แต่ไม่ใช่พวกเขาทั้งหมดที่ก้าวเท้าออกไป ในทางตรงข้าม มีเหล่าผู้เยาว์มากกว่าขึ้นยืนเคียงข้างนาง
ชายสองคนที่ยืนอยู่บนฟ้าคุ้มครองเจ้าหญิงราวกับผู้คุ้มกันนั้นคือ ยอดเซียนเล็บจันทร์เสี้ยวและยอดเซียนผีแมลง แม้ว่ายอดเซียนทั้งสองจะไม่แข็งแกร่งมาก แต่ด้วยพลังงานในสายเลือดของพวกเขาก็ยังสร้างแรงกดดันให้กับคนอื่น
" พวกเราจะต้องรับผิดชอบในการรุ่งเรืองหรือตกต้ำของเผ่าพันธ์ผี ในฐานะสุภาพบุรุษ พวกเราจะปล่อยให้หญิงสาวคนเดียวต่อสู้ได้อย่างไร ? " ยอดเซียนเล็บจันทร์เสี้ยวเอ่ย " หลี่ฉีเย่ อย่าได้คิดว่าเจ้าจะสามารถแสดงความโหดร้ายของเจ้าได้ทีนี่ ! "
หลี่ฉีเย่มองไปยังยอดเซียนทั้งสองก่อนจะระเบิดเสียงหัวเราะและเอ่ย " โอ้ว ? พวกเจ้าทั้งสองยังไม่จากไปอีกรึ ? หรือดินแดนเล็บจันทร์เสี้ยวกับเชื้อสายราชันผีแมลงไม่ทำตามข้อตกลง ? "
ทั้งสองคนนี้ยังไม่จากไป พวกเขาจับจ้องไปยังเหยื่อของพวกเขาหลี่ฉีเย่และต้องการพลักดันเขาไปสู่ความตาย ทว่าเพราะว่าข้อตกลงพวกเขาจึงยังไม่เคลื่อนไหว
" ข้อตกลงก็เป็นเรื่องหนึ่ง " ยอดเซียนผีแมลงเอ่ย " พวกเรายังไม่ได้สัมผัสกับสมบัติในสถานที่แห่งนี้และสามารถจากไปในเวลาใดก็ได้ ทว่าหากมีคนต้องการจะฆ่าลูกหลานเผ่าพันธ์ผีของพวกเรา ข้าในฐานะสมาชิกของเผ่าพันธ์ผี และลูกหลานเชื้อสายจักรพรรดิ ล้วนมีความรับผิดชอบในการดูแลความปลอดภัย ! "
ยอดเซียนเล็บจันทร์เสี้ยวเอ่ยด้วยน้ำเสียงที่เย็นชา " ดินแดนเล็บจันทร์เสี้ยวจะไม่ปล่อยให้คนที่สร้างอันตรายต่อเผ่าพันธ์ผีไป ! เจ้าหญิงฟินิกซ์นั้นเป็นสตรีที่มีจิตใจกล้าหาญ นางนั้นไม่กลัวที่จะเสียสละตัวเองให้เผ่าพันธ์ผี ! บุรุษอย่างพวกเราควรจะรับผิดชอบมากกว่า ในสายตาข้าชื่อเสียงส่วนตัวไม่นับเป็นอันใด แต่ความเป็นอยู่ของเผ่าพันธ์ผีเป็นเรื่องสำคัญกว่า ! "
" หลี่ฉีเย่เจ้าต้องการจะฆ่าเผ่าพันธ์ผีทั้งหมด แม้ว่าพวกเราจะทำข้อตกลงกัน ดังนั้นหากข้าทำลายและทำให้ตัวเองเสียเกียรติจะเป็นไรไป ? เพื่อความปลอดภัยของเผ่าพันธ์ผี ข้าจะไม่จากสถานที่แห่งนี้ไปและไม่ยอมให้เจ้าสังหารคนของเผ่าพันธ์ผี ! ข้าจะหยุดความโหดร้ายขอเจ้า ! " ยอดเซียนเล็บจันทร์เสี้ยวยังคงเอ่ยด้วยเหตุผล " เจ้าสามารถบอกว่าข้าละทิ้งข้อตกลงและสาปแช่งข้าได้ แต่ยินดีที่จะแบกรับคำหยาบเหล่านี้วไว้ เพื่อแลกกับความกับการกำจัดสิ่งชั่วร้ายและนำความสงบสุขของเผ่าพันธ์ผีกับคืนมา ! "