สมบัตินี้ ระฆังภาพภูเขาทำให้สายตาของหลี่ฉีเย่เป็นประกาย สายตาของเขาจ้องมองระฆังที่อยู่เหนือหัวของยอดเซียนอย่างกระหาย
หลานอวิ๋นจูนั้นเข้าใจหลี่ฉีเย่ดีที่สุด และนางทันใดนั้นก็ตระหนักได้ว่ามีบางคนกำลังเจอกับหายนะ
ทุกคนต่างกลั้นลมหายใจขณะมองดูฉากบนท้องฟ้า ในเวลานี้ หลี่ฉีเย่ , ยอดเซียน และยอดเซียนผี ต่างเผชิญหน้ากันด้วยบรรยากาศที่น่าสยดสยอง มันให้ความรู้สึกว่าบรรยากาศรอบตัวของพวกเขาสั่นไหว ระฆังภาพภูเขาของยอดเซียนและระฆังปีศาจของยอดเซียนผี ทำให้ขาของทุกคนอ่อนแอลง
ระฆังภาพภูเขานั้นเป็นสุดยอดสมบัติและระฆังปีศาจนั้นเป็นอาวุธจักรพรรดิ แม้ว่าจะมีพลังงานที่ชั่วร้ายรอบตัวมัน แต่ก็ยังมีกลิ่นอายของจักรพรรดิอมตะคงอยู่
ภายใต้การปราบปรามของพลังงานชั่วร้ายและกลิ่นอายจักรพรรดิ เหล่าผู้ฝึกตนที่อ่อนแอต่างล้มลงบนพื้นดิน
แม้แต่ราชันเทพสวรรค์ก็ยังต้องตื่นตระหนกหากเผชิญกับแรงกดดันจากอาวุธจักรพรรดิทั้งสอง การรวมพลังของพวกเขาไม่ใช่เรื่องล้อเล่น แม้แต่บรรพชนเที่ยงธรรมก็อาจจะบาดเจ็บหนักได้
" หยิบอาวุธของเจ้าออกมา ไม่เช่นนั้นมันจะไม่มีโอกาสออีกหลังจากนี้ ! " ยอดเซียนมั่นใจว่าเขาได้รับชัยชนะอย่างสมบูรณ์และเอ่ยอย่างเย็นชา
เกี่ยวกับความสามารถของหลี่ฉีเย่ ยอดเซียนและยอดเซียนผีล้วนมั่นใจในอาวุธที่อยู่ในมือของตน แม้ว่าหลี่ฉีเย่จะนำอาวุธอออกมา ได้มันก็ไม่สามารถต้านทานอาวุธจักรพรรดิทั้งสองได้ แม้ว่าหลี่ฉีเย่จะมีอาวุธจักรพรรดิระดับแท้จริง มันก็ทำได้เพียงเทียบเท่ากับระฆังภาพภูเขา
ถึงตอนนี้ หลายคนมองมาที่หลี่ฉีเย่ น้อยคนที่จะเห็นเขาใช้อาวุธตั้งแต่อดีต ในการต่อสู้ที่เผ่าเงาหิมะที่ผ่านมาเขาใช้เพียงมือเปล่าเท่านั้น แม้แต่ดาบและกระบี่ของเขาก็ยังทำมาจากโลหะธรรมดา
ฝูงชนเริ่มคาดเดาว่าเขามีอาวุธทีท้าทายสวรรค์อยู่ในมือหรือไม่ หากไม่ เช่นนั้นเขาก็ไม่มีโอกาสที่จะต้านทานตี๋เชาหรือว่าเทียนหุยหลี่ได้
คนอื่นๆรู้ดีว่าหลี่ฉีเย่แข็งแกร่งกว่ายอดเซียนและยอดเซียนเล็บจันทร์เสี้ยว แต่หากปราศจากอาวุธจจักรพรรดิ เขาจะต้องโดยทำลายโดยระฆังปีศาจและระฆังภาพภูเขา
" อาวุธ ? " หลี่ฉีเย่มองยังทั้งสองคนและเอ่ยช้าๆ " ข้าจำเป็นต้องใช้อาวุธเพื่อสู้กับพวกเจ้าทั้งสองด้วยงั้นเหรอ ? ระดับพวกเจ้าแค่มือเปล่าก็เพียงพอแล้ว " หลังจากนั้น เขาก็สะบัดมือไปมา
คำตอบของเขาทำให้ฝูงชนโกรธ
" ช่างไม่เจียมตัว ! " ฝูงชนนั้นแน่นอนว่าเคยเห็นความหยิ่งยโสของเขามาก่อน แต่การใช้มือเปล่าสู้กับสองอาวุธจักรพรรดินั้นเป็นเรื่องไร้สาระเกินไป ไม่ต้องกล่าวถึงหลี่ฉีเย่ แม้แต่หลงซู่เทียน - ที่มีกายาเซียนขั้นสมบูรณ์ก็ยังไม่กล้าจะกล้าเช่นนี้
ยอดเซียนนั้นระเบิดเสียงหัวเราะและคำราม " เจ้าโง่ ! ตายซะ ! " จากนั้นเขาก็ใช้พลังทั้งหมดบังคับระฆังปีศาจ นี้ทำให้พลังงานชั่วร้ายระเบิดออกมา เสียงหึ่งหึ่งดังออกมานับไม่ถ้วน ก่อนจะปรากฏแมลงปีศาจจำนวนมากออกมา
มันเต็มไปด้วยความน่าเกลียดและน่ากลัว มีกระดูกงอกออกมาจากหน้าผากของมันจนทำให้คนอื่นรู้สึกกลัว ปีกทั้งสองของมันกระพือด้วยพลังงานไร้สิ้นสุดราวกับจะเปลี่ยนเขตน้ำให้กลายเป็นรังปีศาจ
แม้ว่าพลังงานปีศาจจะปกคลุมทั่วชั้นฟ้า แต่ระฆังปีศาจก็ยังมีเต๋าของจักรพรรดิอมตะที่บดบังชั้นฟ้าอยู่ พลังงานทั้งสองนั้นผสมเข้าหากัน ทำให้แม้แต่ราชันเทพสวรรค์ก็ยังต้องหน้าซีด ผิวหนังและจิตวิญญาณของพวกเขาสั่นหลังจากเห็นแมลงยักษ์เหล่านี้
ผู้ฝึกตนเกือบทุกคนสูญเสียจิตใจเมื่อเผชิญกับความแข็งแกร่งของระฆังปีศาจ แมลงปีศาจนั้นบินออกมาอยู่เหนือหัวพร้อมด้วยแรงกดดันที่แม้แต่องค์รักษ์เทพสวรรค์ก็ไม่สามารถต้านทานได้
" ตูม ! " หลังจากที่ยอดเซียนผีพลังอำนาจให้กับระฆังปีศาจ ยอดเซียนเล็บจันทร์เสี้ยวก็รีบเปิดใช้ระฆังภาพภูเขาด้วยพลังงานในสายเลือดของเขา
" ติ้งงง ! " เสียงระฆังนั้นสั่นออกมาและทำเลยจิตวิญญาณของเทพ ด้วยเสียงของพวกเขามัน ยอดเซียนผีและยอดเซียนผีแมลงลงมือโจมตีหลี่ฉีเย่พร้อมกัน
ระฆังภาพภูเขานั้นลอยเหนือชั้นฟ้า แม้ว่าระฆังภาพภูเขาจะไม่ได้ขนลุกเหมือนกับระฆังปีศาจ แต่ไม่มีใครประมาทพลังของมัน - พบเทพสังหารเทพ , พบปีศาจสังหารปีศาจ !
หลี่ฉีเย่สุดท้ายก็ลงมือเมื่อเห็นสองอาวุธจักรพรรดิเข้ามาใกล้ มิติมีการผันผวนขณะที่หลี่ฉีเย่พุ่งเข้าหาระฆังภาพภูเขาด้วยความเร็วที่น่าเหลือเชื่อ
แม้แต่หลานอวิ๋นจูก็ยังตกตะลึงเมื่อเห็นภาพนี้ ดังนั้นไม่ต้องเอ่ยถึงคนอื่น คนอื่นอาจจะวิ่งหนีหลังจากเห็นอำนาจของมัน แต่หลี่ฉีเย่เลือกที่จะวิ่งเข้าใส่
นอกจากนี้ ทางเลือกแรกของเขาควรจะเป็นการโจมตีระฆังปีศาจ ไม่ใช่ระฆังภาพภูเขาที่แข็งแกร่งกว่า
หลี่ฉีเย่นั้นไม่ได้สนใจเผชิญหน้ากับคู่ต่อสู่ที่อ่อนแอและมุ่งเข้าหาระฆังภาพภูเขา มือของเขาทันใดนั้นก็จับไปยังตัวระฆัง
ทุกคนตกสู่ความงุนงง พวกเขาล้วนคิดว่ามือของหลี่ฉีเย่จะต้องฉีกร่าง และร่างของเขาจะต้องอาบไปด้วยเลือดเมื่อปะทะกับอำนาจของระฆัง
ทว่าสิ่งที่ไม่น่าเชื่อก็เกิดขึ้น หลี่ฉีเย่พร้อมกับมือของเขาจับเขาที่ระฆังก่อนที่จะมั่นจะสั่นและเริ่มหมุนรอบตัวเขา เขานั่นใช้การเคลื่อนไหวของระฆังเพื่อสยบมันแทนการใช้กำลังปะทะโดยตรง
การกระทำของเขากล่าวได้ว่าสมบูรณ์ แม้แต่การโจมตีจากมังกรที่แท้จริงก็ยังเปลี่ยนเส้นทางโดยมือของเขา การเปลี่ยนที่เรียบง่ายและไร้ที่ตินี้ทำให้ไม่มีการเคลื่อนไหวใดๆเสียเปล่า
ยอดเซียนเล็บจันทร์เสี้ยวรู้สึกตกตะลึง ใบหน้าของเขาเปลี่ยนไปอย่างมาก เพราะว่าด้วยการใช้กำลังของหลี่ฉีเย่ ระฆังภาพภูเขาไม่ได้เคลื่อนไหวตามการบังคับของเขาอีกต่อไป และเปลี่ยนวิถีของมัน
นี้เป็นหมัดปราบมังกร เทคนิคโบราณที่มีต้นกำเนิดน่าตกตะลึงที่หลี่ฉีเย่ได้รับจากหวังเจียงฟู่
มันมีสองผลกระทบที่น่าอัศจรรย์ ประกายแรกคือการหยุดอาวุธ และประการที่สองคือใช้ความนุ่มนวลสงบการเคลือ่นไหว
หากมีคนต้องการจะหยุดการโจมตีจากอาวุธ หากใช้พลังที่อ่อนกว่าหยุดมันแน่นอนร่างของพวกเขาจะต้องระเบิด
ทว่าการใช้ความนุ่มนวลของมันจะทำให้เกิดผลที่แตกต่าง หลี่ฉีเย่เป็นการเคลื่อนไหวตามธรรมชาติของหลี่ฉีเย่ที่เต็มไปด้วยความลึกซึ้งเพื่อใช้ในการควบคุมอาวุธ
" ตูม ! " บรรยากาศโดยรอบบิดเบี้ยวเมื่อแมลงปีศาจพุ่งไปด้านหน้า แม้ว่าก่อนที่กระดูกตรงหน้าผากของพวกมันจะถูกศัตรู ก็ยังสร้างความหวาดกลัวจนศัตรูไม่สามารถต่อสู้กลับได้
แม้แต่ราชันเทพสวรรค์ก็ยังไม่สามารถหยุดการโจมตีจากระฆังปีศาจนี้ได้ การโจมตีนี้เต็มไปด้วยพลังงานชั่วร้ายและอำนาจจักรพรรดิ
ทว่าหลี่ฉีเย่ไม่ได้สนใจระฆังปีศาจ เมื่อของเขายังคังเหวี่ยงระฆังภาพภูเขาและใช้มันปะทะกับพลังงานปีศาจ
เมื่อมันปลิวออกไป พลังงานในสายเลือดของหลี่ฉีเย่ปะทุคลุมชั้นฟ้า เขาจากนั้นก็ใช้ ' ทำลายโชติช่วง ' เพื่อดันระฆังให้มันส่องประกายขึ้น
ระฆังนี้ทันใดนั้นก็หายไป ในดินแดนทะเลไร้ที่สิ้นสุด ภูเขาขนาดยักษ์ทันใดนั้นก็ปรากฏราวกับผู้พิทักษ์ของทั้งเก้าโลก
ด้วย ทำลายโชติช่วง การโจมตีของภูเขานั้นกลายเป็นแข็งแกร่งมากยิ่งขึ้นราวกับจักรพรรดิอมตะเป็นผู้ใช้มัน การโจมตีครั้งนี้อาจจะทำให้ลายโลกทั้งเก้าและแม้แต่บรรพชนเที่ยงธรรมก็ต้องถูกขยี้เป็นผุยผงหากพยามจะหยุดมัน
การเปลี่ยนแปลงอย่างฉับพลันนี้ทำให้ทุกคนตกตะลึง รวมถึงเหล่าบรรพชนจากนิกายทรงอำนาจ ในวินาทีนี้ ภาพลวงตาของจักรพรรดิอมตะก็ปรากฏราวกับเขามาด้วยตัวเอง ทำให้เหล่าคนสั่นสะท้าน ไม่มีใครกล้าที่จะหยุดการโจมตีจากระฆังภาพภูเขา
" ปังงง ! " ในเวลานี้ เสียงระเบิดที่น่าสยดสยองดังออกมา ยอดเซียนได้สูญเสียการควบคุมระฆังของเขาและมันถูกใช้ต่อต้านระฆังปีศาจ
การโจมตีนี้ทำให้โลกสั่นสะเทือน แม้แต่ผู้ฝึกตนจากเขตอื่นก็ยังสั่นสะท้านด้วยความหวาดกลัว
เสียงกรีดร้องดังออกมาจาก แมลงปีศาจก่อนที่มันจะสลายกลายเป็นชิ้นๆ จากนั้นระฆังภาพภูเขาก็ยังกระแทกไปยังระฆังปีศาจ เสียงระเบิดดังออกมาและเกือบทำให้โลกใต้พิภพศักดิ์สิทธิ์แยกออก แม้แต่เหล่าบรรพชนก็ยังไม่สามารถยืนได้จากการระเบิดนี้
อาวุธทั้งสองนั้นปะทะเข้าหากัน แต่ระฆังภาพภูเขาถูกใช้ด้วยคนที่แข็งแกร่งและการโจมตีที่ท้าทายสวรรค์ ดังนั้นแม้ว่าระฆังปีศาจจะเป็นสมบัติจักรพรรดิอมตะระดับชีวิต - มันก็ยังไร้ประโยชน์
ระฆังปีศาจนั้นถูกทำลายเป็นชิ้นๆ ส่งผลสะท้อนถูกผู้ใช้มันอย่างยอดเซียนผี การโจมตีนี้ทำให้ร่างกายของเขากลายเป็นฝนเลือด เขาไม่มีโอกาสแม้แต่จะกรีดร้อง....