ตอนนที่ 556 พบกับปลาคาร์ฟยอดเพชรอีกครั้ง

หลี่ฉีเย่และหลานอวิ๋นจูก้าวเข้าสู่ความว่างเปล่าที่ยิ่งใหญ่นี้ การบ่มเพาะในปัจจุบันของพวกเขาทำให้พวกเขาสามารถข้ามมิติได้อย่างง่ายๆ นอกจากนี้นี่ยังไม่ใช่มิติที่อยู่ในเก้าชั้นฟ้าตามปกติ

พวกเขาเดินทางโดยไม่รู้ว่าเดินมานานเท่าไหร่ ก่อนเข้ามาใกล้แสงประกายสีเงินที่ทำให้ดวงตาของพวกเขาพร่ามัว

หลานอวิ๋นจูตกตะลึงกับฉากตรงหน้าดวงตาของนาง กาแลคซี่ต่างล้วนหมุดวนไปมาราวกับน้ำตก พวกมันจากนั้นก็ไหลมารวมกันเป็นจักรวาลไร้ที่สิ้นสุด

แม่น้ำเหล่านี้เต็มไปด้วยแสงสะท้อนสีเงินก่อให้เกิดเป็นทะเลสีเงิน ดวงดาราไร้ที่สิ้นสุดมารวมตัวกันและสร้างเป็นภาพดังในความฝัน

" ที่นี่คือที่ไหนกัน ? " หลานอวิ๋นจูมองไปยังทะเลดวงดาราสีเงินที่อยู่ด้านหน้าและเอ่ยถามอย่างตกตะลึง มันยากที่จะเชื่อว่ามีสถานที่ดังกล่าวอยู่บนโลก

" ข้าก็ไม่รู้เช่นกัน " หลี่ฉีเย่เอ่ย ขณะที่ดวงตาของเขาเต็มไปด้วยประกายระยิบระยับและความลึกลับ ขณะมองไปยังทะเลดวงดาราด้านหน้า

ทะเลดวงดาราไร้ที่สิ้นสุดนี้ถูกสร้างขึ้นโดยธรรมชาติหรือาจจะเป็นใครบางคน แน่นอนว่าไม่มีใครรู้ได้

" ตอนนี้พวกเราจะไปที่ไหนกัน ? " นางไม่รู้ว่าจะเดินไปที่ไหน ตั้งแต่ที่พื้นที่ที่นางอยู่มันดูกว้างใหญ่และเป็นเอกภพที่ไม่มีวันจบสิ้น

" ซุ่มมมม ! " หลังจากคำถามของนาง พวกเขาทันใดนั้นก็ได้ยินเสียงของปลาคาร์ฟขนาดใหญ่กระโดดออกมา มันทำให้ทะเลดวงดาราสั่นไหว เสียงคลื่นสาดออกมาอย่างชัดเจน

" ปลาคาร์ฟยอดเพชร ! " หลานอวิ๋นจูร้องตะโกน หลังจากได้เห็นปลาคาร์ฟกระโดดเพราะนางไม่คาดว่าจะได้เห็นมันที่นี่

มันหายไปในเขตน้ำ หลังจากที่ผู้อาวุโสของนิกายแม่น้ำไล่มันกลับไปยังรัง พวกผู้อาวุโสไม่สามารถหาร่องรอยของมันได้ เป็นอันว่ามันเข้ามาอยู่ภายในส่วนลับของเขตน้ำ

" ซุ่มม ! " ปลาคาร์ฟยอดเพชรกำลังลอยตัวอยู่เหนือทะเลดวงดารา มันกระโดดขึ้นและพุ่งกลับไปในน้ำด้วยความเร็วสูงและเคลื่อนที่ออกไป

" ไล่ล่ามัน ! " หลี่ฉีเย่เรีบกจตุอาชาราชันสงครามออกมาและอุ้มหลานอวิ๋นจูขึ้นก่อนจะไล่ตามมันไป

ปลาคาร์ฟยอดเพชรเคลื่อนไหวอย่างรวดเร็วท่ามกลางทะเลดวงดารา แต่รถม้าของหลี่ฉีเย่ก็ไม่ได้ด้อยกว่า แทนที่จะจับมันหลี่ฉีเย่กับออกคำสั่ง " ตามมันไปอย่างหาให้ห่าง ! "

รถม้ายังคงวิ่งตามปลาคาร์ฟอย่างไม่ห่าง ไม่ว่ามันจะดำน้ำหรือกระโดดขึ้นสูงก็ไม่สามารถสลัดการตามติดนี้ได้

" ปลาคาร์ฟยอดเพชรสามารถพาพวกเราไปยังจุดหมายปลายทางได้ ? " หลานอวิ๋นจูเอ่ยถาม

หลี่ฉีเย่พยักหน้าเอ่ย " แน่นอน มันไม่ใช่แค่ปลาคาร์ฟธรรมดา แม้ว่ามันจะไม่โจมตีคนอื่นก่อน แต่ก็อย่าได้ประมาทมัน "

ในทะเลแห่งดวงดารา ด้วยความเร็วของรถม้าปลาคาร์ฟไม่มีโอกาสที่จะหลุดรอด แม้ว่าปลาคาร์ฟจะมีความเร็วที่น่าอัศจรรย์และกระโดดขึ้นสูงหรือดำลงใต้น้ำ มันก็ยังไม่สามารถหนีจากรถม้าได้

ขณะที่ทั้งสองกำลังติดตามปลาคาร์ฟ ผู้คนนับไม่ถ้วนกำลังสั่นด้วยความโกรธอยู่ด้านนอกบ่อ

เสียงกรีดร้องหนึ่งดังออกมาจากภายในบ่อน้ำ " เจ้าสารเลว แม้ว่าเจ้าจะไม่ออกมา แต่ข้าจะไม่ปล่อยเจ้าไป ! " บรรพชนเล็บจันทร์ฌสี้ยวยอมแพ้ แม้ว่าเขาจะมีอาวุธจักรพรรดิแต่เขาก็ไม่สามารถเข้าไปถึงกลางบ่อได้

ทว่าไม่ใช่เขาเพียงคนเดียว ผู้เชียวชาญคนอื่นๆก็ยอมแพ้ในการเดินไปยังศูนย์กลางเช่นกัน มีเพียงไม่กี่คนที่สามารถก้าวถึงร้อยก้าวได้ จำนวนของคนที่ก้าวมาถึงระดับนี้อาจจะนับได้ด้วยนิ้วมือ

แม้แต่บรรพชนที่ทำทุกอย่างด้วยความระวังก็ยังไม่สามารถหลุดจากขอบเขตนี้ได้ การก้าวได้ถึงห้าสิบถึงหกสิบก้าวก็นับว่าเพียงพอแล้ว

นี้ไม่ใช่แสดงว่าหลี่ฉีเย่เป็นปีศาจเท่านั้น แม้แต่ความสามารถของเทียนหุยหลี่ ผู้ได้ชื่อว่าอัจฉริยะในหมู่อัจฉริยะก็ยังคงพ่ายแพ้เขา เหล่าบรรพชนไม่มีทางเลือกอื่นนอกจากยอมรับมัน

บางคนถอนหายใจเบาๆขณะมองไปยังน้ำวนก่อนจะเอ่ย " ไม่มีใครได้รับโอกาสนี้แม้ว่าพวกเขาจะเป็นผู้นำนิกายในตำนานก็ตาม "

ทว่าเหล่าตัวตนเช่นนั้นไม่ใช่ว่าจะเคลื่อนไหวได้โดยง่าย แม้แต่บรรพชนเองก็ยังไม่ต้องการใช้ชีวิตของพวกเขา ไม่ต้องเอ่ยถึงผู้นำนิกายในตำนานที่อยู่เหนือกว่า

ผู้คนเริ่มจะเปลี่ยนความสนใจของพวกเขาไปยังกำแพงปลาที่สร้างจากน้ำและเต่าที่มีจารึก " กลุ่มของปลาและเต่าที่มีจารึกนี้แน่นอนว่าจะต้องมีความลึกลับอย่างมาก ! "

แม้ว่าพวกเขาจะไม่สามารถเข้าถึงศูนย์กลางของบ่อได้ แต่เต่าที่มีจารึกนั้นสามารถไปได้ทุกที่ และเพราะสิ่งนี้ เมื่อมันเข้ามาใกล้ ผู้คนพยามจะใช้ทักษะที่ยอดเยี่ยมจับมัน

ทว่าเนื่องจากมันถูกสร้างขึ้นมาจากน้ำ ใครก็ตามที่พยามจะจับมันมือถึงตัวมันจะคว้าได้เพียงของเหลวและน้ำแตกกระจายกลับไปยังบ่อ หลังจากนั้นเต่าก็จะปรากฏตัวขึ้นอีกครั้ง และมุ่งไปยังทิศทางอื่นราวกับว่ามันไม่เคยถูกจับมาก่อน

ผู้นำนิกายบางคนมองดูเต่าตัวนี้และนึกถึงบางอย่างที่บันทึกไว้ในตระกูลก่อนจะเอ่ย " เต่าตัวนี้ไม่มีตัวตน มันเป็นส่วนหนึ่งของบ่อน้ำนี้ ! "

" บางทีมันอาจจะต้องการกุญแจเพื่อเปิดบ่อ และจะต้องใช้กุญแจหลุมฝังศพแห่งลางร้ายเพื่อจับมัน " แม้ว่าจะเป็นเพียงข้อสันนิษฐาน เหล่าขุมอำนาจต่างๆก็เห้นด้วยกับข้อความนี้ เชื้อสายจักรพรรดิรู้สึกว่ามันเป็นเรื่องที่เป็นไปได้

ทว่าแม้ว่าพวกเขาจะกล่วาถูกต้อง มันก็ยังไร้ประโยชน์เพราะกุญแจอยู่ในมือของหลี่ฉีเย่ หลังจากได้ยินเรื่องนี้ เหล่าผู้คนกัดฟันด้วยความโกรธ โดยเฉพาะดินแดนเล็บจันทร์เสี้ยวและเชื้อสายราชันแมลง ฟันของพวกเขาแทบกัดจนปากแตกและคำรามด้วยความโกรธ " เจ้าคนแซ่หลี่ เรื่องของพวกเรามันยังไม่จบ ! "

ดินแดนเล็บจันทร์เสี้ยวศักดิ์สิทธิ์นั้นสูญเสียเป็นอย่างมาก ลูกหลานที่พวกเขาพยามปลูกฝังมาตายโดยน้ำมือของหลี่ฉีเย่ ทว่าสิ่งที่ทำให้พวกเขาเดือดดานมากที่สุดก็คือเรื่องของระฆังภาพภูเขา เรื่องนี้ไม่ควรเกิดขึ้นเพราะแม้แต่บรรพชนเที่ยงธรรมก็ไม่สามารถตัดการเชื่อมต่อระหว่างเจ้าของกับสมบัติได้ แต่หลี่ฉีเย่สามารถทำได้ การที่ดินแดนศํกดิ์สิทธิ์โกรธเช่นนี้ถือได้ว่าเป็นเรื่องสมควร

ทุกคนรู้ว่ามีสมบัติอยู่ในบ่อ แต่พวกเขาก็ไม่สามารถเดินเข้าไปลึกกว่านี้ได้ นี้คือสิ่งที่แม้แต่บรรพชนเที่ยงธรรมทำไม่ได้ไม่ต้องเอ่ยถึงคนอื่น

มีคนหนึ่งเดินเข้ามาใกล้ และนั้นคือเทียนหุยหลี่ที่ต่อสู้กับหลี่ฉีเย่ก่อนหน้า ทุกคนได้เห็นพลังของเขา แม้ว่าเขาจะพ่ายแพ้แต่เขาก็สามารถไปได้ไกลกว่าคนอื่น

บังเอิญเขายังอยู่ที่นี่และเฝ้ามองจากระยะไกล ตัวตนทรงอำนาจจากเผ่าพันธ์ผีต้องการจะสนับสนุนเขา

" หลานชายที่ดี ความสามารถของเจ้าเรียกได้ว่าหาตัวจับได้ยาก ทำไมเจ้าไม่ลองเข้าไปในบ่อเพื่อดูว่าสามารถหาสมบัติได้หรือไม่ ? " ตัวตนจากรุ่นก่อนเอ่ย

เทียนหุยหลี่ผู้ที่ถูกปกคลุมไปด้วยกลิ่นอายลึกลับ ทำเพียงฉีกรอยยิ้มและเอ่ย " สหายหลี่และข้าทำข้อตกลงกัน ดังนั้นข้าไม่มีอะไรเกี่ยวข้องกับบ่อ "

" หลานชายที่ดีเจ้าเข้าใจเรื่องนี้ผิดแล้ว " ตัวตนที่ยิ่งใหญ่จากรุ่นก่อนเอ่ยอย่างรวดเร็ว " ข้อตกลงนี้ได้รับการยกเลิกเพราะเจ้าหญิงฟินิกซ์ หลี่ฉีเย่นั้นเป็นปีศาจและต้องการจะทำลายเผ่าพันธ์ผี หลานชายนั้นเป็นวีรบุรุษของเผ่าพันธ์ผีของพวกเรา ผู้นำของหมู่คนรุ่นเยาว์ ด้วยความสามารถของ..."

" ข้าขออภัยด้วย " เทียนหุยหลี่เอ่ยขัดจังหวะเขา " ข้าตกลงนี้เป็นโมฆะหรือไม่ไม่เกี่ยวอะไรกับข้า คำพูดของข้าเมื่อกล่าวไปแล้วจะไม่สามารถกลับคืนได้ ไม่ว่าอย่างไรข้าจะไม่มีกลับมัน ! "

เขานั้นพูดอย่างชัดเจนและตรงไปตรงมาเพื่อไม่ให้ตัวตนที่ยิ่งใหญ่โน้วน้าวเขาอีกต่อไป

ทว่าขณะที่ตัวตนที่ยิ่งใหญ่เหล่านั้นกำลังผิดหวัง เทียนหุยหลี่ได้เผยรอยยิ้มลึกลับและเอ่ย " แต่ตี๋เชาได้ออกมาจากป่าช้าสวรรค์แล้ว ดังนั้นบรรพชนจากบัลลังก์หมื่นกระดูกอาจจะมาที่นี่ในอีกไม่นาน "

เมื่อได้ยินเช่นนี้ ตัวตนที่ยิ่งใหญ่ได้ฟื้นจิตวิญญาณของพวกเขา โดยเฉพาะผู้ฝึกตนเผ่าพันธ์ผีที่เกลียดชังหลี่ฉีเย่

หลี่ฉีเย่นั้นสร้างความอับอายให้กับพวกเขาในระดับที่ไม่สามารถให้อภัยได้ หากตี๋เชาและบัลลังก์หมื่นกระดูกมา พวกเขาเชื่อว่าหลี่ฉีเย่จะต้องตายแม้ว่าจะแข็งแกร่งแค่ไหน !

ตัวตนที่ยิ่งใหญ่จากไป เทียนหุยหลี่ยังคงมองไปยังบ่อน้ำด้วยรอยยิ้มลึกลับ ตอนนี้เขาไม่ต้องการจะต่อต้านหลี่ฉีเย่ แต่เขายังคงสนุกในการดูคนอื่นสู้กับเขา นอกจากนี้จตี๋เชาและหลี่ฉีเย่ก็มีข้อขัดแย้งที่ยากประณีประนอมกันได้

" ต้นไม้ที่สูงสุดที่ในป่าจะถูกทำลายด้วยลมที่รุนแรง " เทึยนหุยหลี่พึมพำ การแสดงออกของเขานั้นกลายเป็นมืดมนหลังจากจำได้ถึงสุดยอดเต๋าของหลี่ฉีเย่ในบ่อ เขาไม่ยิ้มหรือทำตัวสงบอีกต่อไปเพราะว่าเขามีความมั่นใจในสุดยอดเต๋าของตัวเอง หากเจตจำนงแห่งสวรรค์ยอมรับสุดยอดเต๋าได้เพียงหนึ่ง เทียนหุยหลี่มั่นใจอย่างมากว่ามันจะไม่ใช่เขาแต่เป็นหลี่ฉีเย่

คลื่นของผู้ฝึกตนเผ่าพันธ์ผีจากไป แต่ตั้งแต่บรรพชนเริ่มเคลื่อนไหวไม่ต้องเอ่ยถึงพวกเขา ทว่ามีบางคนยังอยู่ที่บ่อ เพื่อต้องการรอให้สักคนเปิดบ่อน้ำ บางทีพวกเขาอาจจะได้รับสมบัติเล็กๆน้อยๆ

เหล่าผู้ฝึกตนที่วิ่งเข้าไปในบ่อตอนแรก ยามกลับออกมาพวกเขาพบว่าหลายคนหายตัวไป ผลของมันเหมือนก่อนหน้า หลายคนได้ตายโดยไม่ทิ้งศพไว้...