ตอนที่ 713 ทักษะกำราบจักรพรรดิ

" ใครจะสามารถหยุดการที่สวรรค์จะลดอายุขัยได้ ? ไม่ต้องกล่าวถึงราชันเทพ แม้แต่เทพที่แท้จริงที่มีเลือดของสวรรค์ไหลผ่านในร่างกายของพวกเขาก็ยังไม่สามารถทำได้ " หลี่ฉีเย่กล่าวอย่างสบายๆ

" ราชันเทพ " นั้นเป็นฉายาสำหรับผู้ฝึกตนระดับสูง ในระดับบรรพชนเที่ยงธรรม แต่ละระดับของพวกมันมีฉายาที่ต่างกันออกอไป

ของเหล่านี้จะถูกแบ่งออกโดยความแข็งแกร่งและความอ่อนแอ บรรพชนทรงอำนาจ , ปรมจารย์ในตำนาน , ตัวตนนิรันดร์ , สุดยอดตัวตน

บรรพชนทรงอำนาจนั้นเป็นบรรพชนเที่ยงธรรมธรรมดา ปรมจารย์ในตำนานแข็งแกร่งกว่าบรรพชนธรรมดา

ตัวตนนิรันดร์นั้นต่างออกไป เพื่อที่จะได้รับฉายาตัวตนนิรันดร์ บรรพชนเที่ยงธรรมจะต้องได้รับฉายาศักดิ์สิทธิ์หรืออสร้างประเทศของตัวเอง

สุดยอดตัวตน มันมีการแบ่งออกเป็นหลายแนวคิด บางคนพิจรณาว่าเทพบรรชนเป็นสุดยอดตัวตน ขณะที่บางคนกล่าวว่าราชันเทพเป็นสุดยอดตัวตน

แน่นอนมีคนที่คิดว่าเทพบรรชนนั้นมีระดับเดียวกับตัวตนนิรันดร์ นอกจากนี้ยังมีความแตกต่างในฉายา หากบรรพชนคนนั้นถูกแต่งตั้งโดยจักรพรรดิอมตะ บรรพชนคนนั้นก็จะเป็นสุดยอดตัวตน

หากจะให้กล่าว ให้เทพบรรชนเป็นคนตั้งฉายาให้ตัวเองหรือมีคนที่ระดับอ่อนแอกว่ายกให้พวกเขา พวกเขาก็จะเป็นเพียงตัวตนนิรันดร์

ราชันเทพที่แท้จริงนั้นน่าตกตะลึงยิ่งกว่า พวกเขานั้นเป็นตัวตนระดับสูงโดยไม่มีข้อสงสัย ! ราชันเทพที่แท้จริงไม่ได้ถูกแต่งตั้งโดยจักรพรรดิอมตะ พวกเขาจะถูกยอมรับโดยเก้าโลกเช่นเดียวผู้บัญชาการของจักรพรรดิอมตะในเวลานั้น ! นี้คือราชันเทพที่แท้จริง !

ความจริงก็คือราชันเทพที่แท้จริงจะปรากาฏเพียงสองหรือสามคนในแต่ละรุ่น สำหรับคนที่เรียกตัวเองว่า ราชันเทพ หรือถูกคนอื่นเรียก พวกเขาดูเหมือนจะไม่เหมาะสมกับฉายาเหล่านี้

ตัวอย่างเช่นบิดาแห่งต้นไม้แอลป์ได้ปราศจากจักรพรรดิอมตะแต่งตั้งฉายาให้เขา เขาตัดสินใจไม่เรียกตัวเองว่าราชันเทพ ทว่าเขานั้นเป็นคนที่มีคุณสมบัติเพราะเขามีอำนาจระดับราชันเทพ

" แม้ว่าราชันเทพจะไร้ความหวังในการต่อต้านสวรรค์ " บิดาแห่งต้นไม้กล่าวด้วยอารมณ์ " เมื่อสวรรค์ต้องการจบชีวิตพวกเขา แม้แต่เทพที่แท้จริงก็ยังไม่สามารถหยุดมัน ไม่ต้องเอ่ยถึงราชันเทพ ในโลกนี้มีเพียงจักรพรรดิอมตะเท่านั้นที่จะทำเช่นนั้นได้ "

" เทพที่แท้จริง "เป็นอีกหนึ่งฉายา เหมือนกับชื่อของมัน พวกเขาเป็นเทพที่แท้จริง ไม่ได้เป็นเผ่ามนุษย์ , เผ่าปีศาจ หรือเผ่าใดๆ

ตำนานระบุว่าเทพที่แท้จริงเป็นเทพที่ไม่รู้จักการบ่มเพาะ พวกเขานั้นมาเผ่าพันธ์ลึกลับที่ไม่มีใครรู้จัก บางคนเชื่อว่าพวกเขาเกิดมาพร้อมกับเลือดของสวรรค์ ดังนั้นพวกเขาจึงถูกกำหนดให้เป็นเทพเมื่อเกิด ! แม้แต่เผ่าจิตวิญญาณเสน่ห์ที่ถูกยกย่องว่าเป็นลูกรักของสวรรค์ก็ยังไม่สามารถเทียบได้ !

เทพที่แท้จริงไม่เพียงแต่เป็นชื่อที่แสดงถึงอำนาจสูงสุด แต่ก็ยังเป็นตัวตนที่ลึกลับมาก

หากราชันเทพและเทพที่แท้จริง มีความแข็งแกร่งระดับเดียวกัน , สมบัติเหมือนกัน ใช้ทักษะเดียวกัน เทพที่แท้จริงจะได้ประโยชน์จากเลือดสวรรค์ พวกเขามีข้อได้เปรียบที่ผู้ฝึกตนทั่วโลกขาด

หลี่ฉีเย่อมยิ้มและเอ่ย " ไม่จำเป็น บรรดาผู้ที่ทนต่อหายนะของสวรรค์ได้ไม่จำกัดแค่จักรพรรดิอมตะ เจ้าขุนนางสูงสุดบางคนก็สามารถต่อต้านสวรรค์ได้ "

" เจ้าขุนนางสูงสุด..." แม้แต่ตัวตนอย่างบิดาแห่งต้นไม้ก็ยังถอนหายใจหลังจากได้ยินชื่อนี้ " คนที่สามารถที่จะเหยีบย่ำโลกนี้ได้อย่างอิสระและต่อกรกับจักรพรรดิอมตะได้ "

แม้ว่าบิดาแห่งต้นไม้จะมีชีวิตอยู่บนโลกสมุนไพรหินมานานและได้รับการยกย่องจากอาณาจักรนักปรุงยา เขาก็ยังคงปราศจากความมั่นใจ เมื่อชื่อของผู้ต่อต้านจักรพรรดิปรากฏขึ้น

ตัวตนเหล่านี้มีคนน้อยมากที่รู้จัก ความจริงจะมีสักกี่คนในโลกนี้ที่จัดการกับพวกเขาได้ ?

มีหลายแนวคิดเกี่ยวกับเจ้าขุนนางสูงสุด บางคนบอกว่าราชันเทพเป็นเจ้าขุนนางสูงสุด แต่หลายคนไม่เห็นด้วย

มีคนน้อยมาที่สามารถต่อต้านจักรพรรดิอมตะได้ โดยเฉพาะอย่างยิ่งสำหรับผู้ฝึกตนที่ทรงอำนาจ ในสายตาพวกเขา คนที่ต่อต้านจักรพรรดิอมตะได้จะถูกเรียกว่าเจ้าขุนนางสูงสุด ผู้เชียวชาญที่สามารถเหยีบย่ำโลกได้อย่างอิสระ !

บิดาแห่งต้นไม้ถอนหายใจด้วยอารมณ์ แม้แต่เขาก้ไม่กล้าเรียกตัวเองว่าเป็นเจ้าขุนนางสูงสุดหรือผู้ต่อต้านจักรพรรดิ

ท่ามกลางความคิดที่น่าสับสนของบิดาแห่งต้นไม้ เขาาส่ายหัวก่อนจะเอ่ยด้วยรอยยิ้ม " ในเมื่อนายน้อยหลี่ดูเหมือนจะมั่นใจมาก ท่านคงมีทางทีจะรักษาข้าได้แล้ว "

หลี่ฉีเย่เพียงยิ้มอย่างสงบ " สวรรค์นั้นต้องการจะจบชิวิตดังนั้นมันจึงส่งหายนะลงมา ข้ารู้ว่ามีหายนะที่น่าพรึงกลัวถูกทิ้งไว้ที่รากของเจ้า หากเป็นในอดีตมันคงจะมีปัญหามาก และต้องใช้เวลาและความพยามนับพันปี ทว่าดูเหมือนเทพแห่งโชคจะยิ้มให้กับเจ้า ตอนนี้ข้าอยู่ที่นี่เพื่อจัดการปัญหาของเจ้า "

ถึงแม้ว่าบิดาแห่งต้นไม้จะอยู่มากว่าแสนปี เขาก้ยังคงตื่นเต้นและเอ่ยถามอย่างรวดเร็ว " ไม่มีอะไรจะดีไปกว่านี้แล้ว ! นายน้อยหลี่มีเงื่อนไขอย่างไร ? "

" ไม่จำเป็นต้อองรีบเจรจา ก่อนหน้านี้ข้ามีคำถามกับเจ้าก่อน "

" นายน้อยหลี่ต้องการทราบอะไร ? ตราบใดที่ข้ารู้ ข้าจะบอกท่านทุกสิ่ง " บิดาแห่งต้นไม้กล่าวอย่างรวดเร็ว

ในเวลานี้เขาต้องการควาามช่วยเหลือของหลี่ฉีเย่มาก แม้ว่าเขาจะเป็นหนึ่งในสองปีศาจต้นไม้ที่ยิ่งใหญ่ เขาก็ยังต้องสร้างความชอบให้กับหลี่ฉีเย่

" มรดกดังเดิมของเจ้านั้นมาจากทักษะกำราบจักรพรรดิ ! " หลี่ฉีเย่พูดช้าๆและมองอย่างจริงจัง

บิดาแห่งต้นไม้นั้นตกตะลึงและมองหลี่ฉีเย่ราวกับตัวประหลาด " นายน้อยหลี่ทราบได้อย่างไรกัน ? "

" เป็นเช่นนั้นเอง " หลี่ฉีเย่อดไม่ได้ที่จะถอนหายใจ และมองไปยังสถานที่ที่่ห่างไกลอย่างเงียบๆ

นายหญิงฉีเยียนนั้นสะดุ้งกับการแสดงออกของหลี๋ฉีเย่ มันทำให้นางนึกไปถึงตอนที่อยู่ในบ้านหลังเก่าแก่ที่ชานเมือง

" นายน้อยหลี่รู้จักต้นกำเนิดของมรดกชิ้นนี้หรือไม่ ? " บิดาาแห่งต้นไม้อดไม่ได้ที่จะถามด้วยอารมณ์หลังจากเห็นใบหน้าของหลี่ฉีเย่

หลี่ฉีเย่ดึงสติกลับมาก่อนจะมองไปยังบิดาแห่งต้นไม้และเอ่ย " ชื่อวิธีการที่เจ้าบ่มเพาะคือทักษะกำราบจักรพรรดิ เจ้าไม่รู้ต้นกำเนิดของมันรึ ? "

บิดาแห่งต้นไม้ยิ้มอย่างขมขื่นและส่ายหัว " ข้าเกรงว่าเรื่องนี้ยากที่จะเชื่อ แต่ในเมื่อนายน้อยหลี่รู้จักทักษะนี้ข้าก็จะบอกท่าน ข้านั้นเป็นรากของต้นสน เป็นเวลานานมาแล้วที่ข้าได้รับผลกระทบจากอำนาจของเส้นเลือดแอลป์ พลังงานนี้ไม่เพียงพอที่จะทำให้ข้ากลายเป็นปีศาจ แต่มันทำให้เขามีการรับรู้ ถึงอย่างนั้นข้าก็ยังไม่มีสติรับรู้ถึงสิ่งใดๆได้ "

บิดาแห่งต้นไม้หยุดชั่วครู่ก่อนจะเอ่ยต่อ " จนกระทั้งวันหนึ่งมีผู้หญิงมายังภูเขาแอลป์และเปลี่ยนทุกอย่าง แม้ว่าข้าจะไม่สามารถแยกแยะอะไรได้ แต่ข้าไม่มีทางลืมช่วงเวลาที่นางมาถึง "

หลี่ฉีเย่มองไปที่บิดาแห่งต้นไม้และเอ่ย " ปรากฏการแปลกๆที่เกิดขึ้นพร้อมกับเก้าโลก มีแผ่นดินนับหมื่นลอยตัว...แม้แต่เทพที่อยู่บนโลกนี้ และราชันเทพในยุคนั้นก็ยังไม่กล้าที่จะเข้าใกล้ พวกเขาทำเพียงก้มกราบจากระยะไกล เต๋าของโลกไร้สิ้นสุดจมอยู่ใต้ฝ่าเท้าของนาง สวรรค์เบื้องบนทำอะไรไม่ได้นอกจากเงียบดู นางนั้นแบกเจตจำนงแห่งสวรรค์ ภายใต้ความเปล่งประกายของนาง ทุกอย่างล้วนหม่นแสง "

บิดาแห่งต้นไม้ร้องออกมาอย่างประหลาดใจหลังจากได้ยินหลี่ฉีเย่เอ่ย " นายน้อยหลี่รู้ได้อย่างไรกัน ? "

หลี่ฉีเย่เพียงถอนหายใจเบาๆและไม่เอ่ยตอบ

บิดาแห่งต้นไม้ไม่ได้เอ่ยถามอีกต่อไปและจ้องไปยังระยะทางห่างไกลแะเอ่ย " ฉากนั้นช่างน่าจดจำ แม้ว่าข้าจะได้เห็นจักรพรรดิอมตะภายหลัง ข้าเกรงว่านางจะเป็นสิ่งมีชีวิตที่แข็งแกร่งที่สุดเท่าที่ข้าเคยเห็น แม้ว่าข้าจะไม่ได้เห็นด้วยตาและเป็นพยานกับโลกในเวลานั้น..แต่ข้าสัมผัสได้ ทุกตัวตนในโลกสมุนไพรหินล้วนแต่ก้มกราบ แม้แต่ตัวตนที่แข็งแกร่งอย่างอาณาจักรนักปรุงยาก็ยังไม่กล้าปรากฏตัว พวกเขาทำได้เพียงซ่อนอย่างหัวหด ! "

" หลังจากนั้นเกิดอะไรขึ้น ? " หลี่ฉีเย่เอ่ยถาม

บิดาแห่งต้นไม้เอ่ย " ข้าไม่รู้ว่านางเป็นใคร แต่นางยืนบนจูดสูงสุดของภูเขาแอลป์และมองไปยังทิศทางของประเทษไผ่ยักษ์ นางยืนอย่างนั้นเป็นเวลานาน สุดท้ายก่อนนางจะจากไปนางเพียงเหลือบมองข้า ภายใต้การมองนี้ข้ารู้สึกเป็นเพียงมดปลวก และเป็นฝุ่นละอองที่ไม่มีความสำคัญใดๆ "

" ด้วยการเคลื่อนไหวอย่างรวดเร็ว นางได้ทิ้งสุดยอดทักษะไว้บนตัวข้า " บิดาแห่งต้นไม้พยามจะสงบอารมณ์และเอ่ยอธิบาย " ตอนแรกข้าไม่สามารถเข้าใจพวกมันได้ แม้ว่ามันจะดูเรียบง่ายแต่ความลึกลับและซับซ้อนของพวกมันราวกับมหาสมุทร จากนั้นหลายปีข้าพยามศึกษามันและเพราะสิ่งนี้ ข้าจึงสามารถฝังรากไว้ในเส้นเลือดดแอลป์และเป็นหนึ่งเดียวกับมันได้ "

" น่าเหลือเชื่อ แม้ว่าจะไม่มีคนแนะนำแต่เจ้าก็ยังสามารถเข้าใจทักษะกำราบจักรพรรดิได้ ความสำเร็จของเจ้าในวันนี้ไม่ใช่เรื่องบังเอิญ " หลี่ฉีเย่กล่าวชื่นชม

บิดาแห่งต้นไม้ไม่ได้แสดงความหยิ่งยโสใดๆและเอ่ยต่อ " นี้เป็นเพราะว่าข้านั้นโชคดีที่ได้เกิดเหนือเส้นเลือดดำ การหยั่งรากลึกลงไปทำให้ข้ามีชีวิตที่นานขึ้น ข้าสามารถเรียนรู้ทักษะนี้ผ่านแม่น้ำแห่งเวลาที่ไหลผ่าน เมื่อความเข้าใจเกี่ยวกับทักษะนี้ของข้าเติบโต ข้าก็กลายเป็นปีศาจ ยิ่งข้าเข้าใจทักษะนี้มากขึ้นข้าก็ยังทรงอำนาจมากขึ้น..."