ตอนที่ 718 เนตรสายฟ้า

หลี่ฉีเย่หลังจากที่กลับมาถึงหุบเขาก็นำผนึกห้าประตูออกมาใช้ทันที จากนั้นเขาก็นำเมล็ดออกมาจากกล่อง เมล็ดนี้สร้างขึ้นโดยการผสานระหว่างต้นธูปกลิ่นปีศาจและหนอนโลหิตวิญญาณ

มีเสียงปังดังขึ้น หลี่ฉีเย่เปิดวงแหวนของเขา เสาแห่งชีวิตปรากฏ มีเสียง เปรี้ยงในอากาศ เส้นสายฟ้าขนาดเล็กควบแน่นกันจนมีขนาดเท่าฝ่ามือ

เส้นสายฟ้าเหล่านี้รวมตัวกันจนกลายเป็นทะเลสายฟ้า นี้เป็นทะเลที่กว้างใหญ่ที่เกิดจากสายฟ้าบริสุทธิ์ หลี่ฉีเย่วางเมล็ดนี้ลงบนทะเลสายฟ้า ช่วงเวลาที่มันถูกวางมันสัมผัสได้ถึงอันตรายและพยาามจะหลบหนี ทว่าฝ่ามือของหลี่ฉีเย่กำราบมันอย่างรวดเร็ว

ภายใต้การปราบปรามของเขา เมล็ดที่ถูกแช่อยู่ในทะเลทันใดนั้นก็ระเบิดออกมา เมล็ดที่ถูกโยนลงไปในทะเลสายฟ้าราวกับมันจะถูกทำให้ไหม้ภายในเวลาไม่นาน !

ด้วยการตรวจสอบอย่างรอบคอบ พวกเขาจะเห็นหมอกโลหิตในรูปแบบของหนวดขนาดเล็กงอกออกมาจากเมล็ด มันพยามต่อต้ายทะเลสายฟ้า ทว่าเหตุการ์ไม่น่าเชื่อทันใดนั้นก็เกิดขึ้น

หนวดโลหิตเหล่านั้นได้พยามจะกลืนกินสายฟ้าราวกับต้องการจะดูดพวกมันจนแห้ง

กระบวนการนี้เป็นไปอย่างช้าๆ แต่เมื่อเวลาผ่านไป สายฟ้าก็ถูกดูดอย่างต่อเนื่องโดยหนวดเหล่านั้น

หลี่ฉีเย่เพียงอมยิ้มหลังจากเห็นผลลัพธ์นี้ มันเป็นสิ่งที่เขาต้องการ เขามุ่งหวังที่จะเปลี่ยนและปรับแต่งเมล็ดเพื่อสร้างเมล็ดที่ไม่เคยปรากฏมาก่อนบนโลก

เมื่อสายฟ้าถูกเมล็ดดูดอย่างสมบูรณ์ เสาแห่งชีวิตของเขาได้ปลดปล่อยแสงสว่างและกลายเป็นทะเลสายฟ้าอีกแห่ง เมล็ดนั้นอีกครั้งได้เริ่มดูดซับทะเลสายฟ้าอย่างบ้าคลั่ง

การบวนการนี้การขึ้นซ้ำอีกหลายครั้งภายใต้การควบคุมของหลี่ฉีเย่ ปริมาณของสายฟ้าที่ออกมาจากเสาแห่งชีวิตในแต่ละครั้งนั้นมีเพียงพอ

สายฟ้าเหล่านี้จากเสาแห่งชีวิตนั้นอันตรายอย่างมาก หากมันไม่ได้มาในปริมาณที่ถูกต้องเช่นนั้นมันอาจจะทำลายเมล็ดได้ เพราะเหตุนี้หลี่ฉีเย่จึงต้องทำมันอย่างระมัดระวัง เขาปล่อยสายฟ้าปริมาณพอเพียงในแต่ละครั้งเพื่อให้เมล็ดสามารถดูดกลืนได้

หลังจากเวลาผ่านไป เมล็ดนั้นได้ดูดกลืนสายฟ้าจนเพียงพอ มันดูเหมือนจะอวบขึ้นและมีกระแสสายฟ้าวิ่งผ่านตัวของมัน

หลี่ฉีเย่ตรวจสอบอย่างรอบคอบอีกครั้งและยังไม่พบปัญหา เขารีบถอนหายใจและปิดผนึกเมล็ด จากนั้นเขาก็หยิบของอีกสิ่งออกมา มันราวกับเขากำลังถือสายฟ้าอยู่ในมือ

นี้คือเนตรสายฟ้าที่เขาพึงได้รับมา แน่นอนว่านี้เป็นเพียงชื่อที่หลี่ฉีเย่ตั้งขึ้น มันไม่ได้ดวงตาจริงๆ

หลี่ฉีเย่มองไปยังเนตรสายฟ้านี้ หลังจากผ่านไปนานเขาก็ค้นพบหนึ่งหรือสองอย่าง จากนั้นเขาก็เผยรอยยิ้มและเก็บมันกลับ แต่มาเขาก็หยิบผ้าคลุมสีเหลืองออกมา ช่วงเวลาที่เขาหยิบมันออกเงาสีดำขนาดเล็กปรากฏขึ้นอีกครั้ง

" หืม เจ้าคงไม่มีอะไรดีจะพูดกับข้าแน่ๆ " เงาร่างเล็กนั้นกล่าว " อย่าบอกข้านะว่ามีบางสิ่งที่เจ้าไม่เข้าใจและต้องการให้ข้าช่วย ? "

หลี่ฉีเย่อมยิ้มก่อนจะส่ายหัวและเอ่ย " สาวน้อยอย่าได้โม้มากเกินไป แม้ว่าเจ้าอาจจะอยู่มานานแต่เจ้าก็ไม่ได้มีชีวิต หลายล้านปีที่ผ่านมาเจ้าเป็นเพียงแค่เงาที่อยู่ในผ้าคลุมนี้ถูกผนึกไว้ สิ่งที่เจ้ารุ้ล้วนไม่อาจเทียบกับข้าได้ "

" เพ้ยย หากเป็นเช่นนั้นอย่าได้มารบกวนข้า " เงาร่างเล็กแค่นเสียง

หลี่ฉีเย่วางมันไว้และกล่าวอย่างสบายๆ " เจ้าเข้าใจข้าผิดแล้ว วันนี้ข้านั้นอารมณ์ดีและหาคนพูดคุยด้วย พวกเรามาคุยเกี่ยวกับสวรรค์ชั้นสูงหรือยุคโบราณกันเป้นอย่างไร ? "

" คุยเกี่ยวกับสวรรค์ชั้นสูง ? เอ่ยเกี่ยวกับยุคโบราณ ? " เงาร่างเล็กแค่นเสียง " เจ้าจะรู้อะไรเกี่ยวกับสวรรค์ชั้นสูงและยุคโบราณกัน ? อย่ามาหลอกข้า "

หลี่ฉีเย่ไม่ได้โกรธ ก่อนจะอมยิ้มเอ่ย " ถูกต้อง..สวรรค์ชั้นสูงและยุคโบราณ เจ้าคิดว่าข้ารู้มากแค่ไหนกัน ? ในอนาคตข้าจะทำลายสวรรค์ชั้นสูงและกวาดล้างพวกมันทั้งหมด...ข้าจะเรียกพวกมันว่าอะไรดี ? สุดท้ายผู้คนมักจะคิดว่าพวกมันไม่มีตัวตนอยู่จริง "

เงาร่างเล็กนั้นสบถ " ทำลายสวรรค์ชั้นสูง...ช่างเป็นคำที่ใหญ่โต ! "

หลี่ฉีเย่หัวเราะและเอ่ยเสริม " มีอะไรเป็นไปไม่ได้เกี่ยวกับเรื่องนี้ ? ตลอดหลายปีที่ผ่านมา อืมม ข้าอาจจะจำช่วงเวลาไม่ได้ ตำนานระบุว่ามันมีสิ่งที่น่าเหลือเชื่ออยู่ในโลกที่สิบ เจ้ารู้หรือไม่ ? เนินนานมาแล้ว มีอีกาตัวหนึ่งได้กวาดผ่านทั้งโลกและสถานที่ต่างๆ เจ้ารู้ไหมว่าอีกาตัวนี้ทำอะไร ? "

" เจ้ารู้จักโลกที่สิบด้วย ! " เงาร่างเล็กเอ่ยด้วยน้ำเสียงประหลาดใจ

" หืมม ก็แค่เพียงการดำรงอยู่ของพวกมัน " หลี่ฉีเย่ยิ้มและเอ่ย " บางทีข้าอาจจะไม่รู้อะไร นี้เป็นเพียงส่วนหนึ่งของตำนาน มันระบุว่านอกจากเก้าโลกแล้วยังมีโลกที่สิบ ไม่ว่ามันจะจริงหรือไม่ไม่มีใครยืนยันได้เพราะไม่มีคนเคยไปมาก่อน เพราะเหตุนี้โลกที่สิบจึงเป็นเพียงตำนาน "

เงาร่างเล็กน้อยนั้นขมวดิ้วและเอ่ย " ฮึ่มม เจ้ารู้อะไรอีก ? "

หลี่ฉีเย่เอ่ยต่อ " สาวน้อยข้ารู้มากกว่าที่เจ้าคิด เจ้าควรจะรู้ว่าข้าได้รับความลับภายในเสื้อคลุมมาแล้ว สิ่งที่เจ้ารู้ล้วนน้อยกว่าไม่ว่าจะเป็นเหตุการณ์ในยุคโบราณหรือยุคที่ห่างไกลกว่านั้น "

" หากเจ้ารู้อยู่แล้ว เช่นนั้นเจ้าจะมาคุยกับข้าทำไม ? " เงาขนาดเล็กเอ่ยถาม

หลี่ฉีเย่ตอบอย่างสบายๆ " มันมีบางอย่างที่ข้าสามารถรู้ได้ แต่ข้าต้องย้อนอดีตและใช้เวลาเพื่อค้นหามัน แน่นอนมันจะดีกว่ามากหากมีคนพูดเรื่อเหล่านั้นให้ข้าฟัง "

" ข้าไม่ชอบคุยกับเจ้า ! " เงาร่างเล็กแค่นเสียง

หลี่ฉีเย่ยิ้มอย่างผ่อนคลายและเอ่ย " สาวน้อยไม่จำเป็นต้องทำให้เรื่องนี้มันยาก เจ้าควรจะรู้อย่างแน่นอนแล้วจากการคุยกันครั้งก่อน วันหนึ่งเจ้าอยากจะออกมาจากผ้าคลุมนี้ใช่ไหม ? ทว่าเรื่องนี้ก็ยังต้องการความช่วยเหลืออจากข้าถูกต้องหรือไม่ ? "

เงาร่างเล็กนั้ยเอ่ย " หรือนี้จะเรียกว่าการข่มขู่ ? "

หลี่ฉีเย่ระเบิดเสียงหัวเราะและเอ่ย " นี้จะเป็นการข่มขู่ได้อย่างไร ? ข้าเพียงแค่เตือนเจ้าด้วยความหวังดี ข้าจะยืนข้อเสนให้กับเจ้า สิ่งที่ดีที่สุดสำหรับเจ้าตอนนี้คือการเป็นสหายกับข้าใช่หรือไม่ ? หากพวกเราเป็นสหายกันแล้วเรื่องทุกอย่างก็จะต่างออกไป ใช่ไหม ? แน่นอนข้าเป็นคนที่เต็มใจจะช่วยเหลือผู้อื่นแม้ว่าจะไม่ใช่สหายก็ตาม ทว่าธรุกิจก็คือธรุกิจ สหายก็คือสหาย พวกมันล้วนมีราคาที่ต่างกัน "

" เจ้ารู้จักแต่การพูดจาแบบนี้รึไง ? " เงาร่างเล็กพูดอย่างเย็นชาหลังจากได้ยิน

" เมื่อข้าพูดเยอะนั้นหมายความว่าอารมณ์ของข้านั้นดีมาก ไม่เช่นนั้นข้าจะโยนเจ้ากลับไปในแจกันโดยไม่สนใจแล้ว เจ้าคิดว่าข้าจะต้องข้อความร่วมมือใดๆจากเจ้ารึ ? ในเวลานี้ข้าแค่พูดกับเจ้าเพราะอยู่ในอารมณ์ที่ดีเท่านั้น "

เงาร่างเล็กนั้นเงียบก่อนจะเอ่ย " เจ้าต้องการจะคุยเรื่องอะไร ? "

หลี่ฉีเย่ยิ้มเหมือนกับว่านี้เป็นผลลัพธ์ที่เขาคาดหวังและเอ่ย " ควรจะเป็นเช่นนี้สิ พวกเราสามารถพูดคุยเกี่ยวกับอะไรก็ได้ บอกข้าเกี่ยวกับเรื่องในยุคนั้น และข้าจะบอกเจ้าเกี่ยวกับโลกในปัจจุบัน "

สุดท้ายเงาร่างเล็กนั้นก็ยอมแพ้และพูดคุยกับหลี่ฉีเย่ มันดุเหมือนจะเป็นการพูคคุยกันเล็กน้อย ทว่าหากมีคนนอกมาได้ยินบทสนทนาของพวกเขา พวกเขาจะต้องตกตะลึงเพราะว่าแม้จะเป็นเรื่องเล็กน้อยสำหรับพวกเขา แต่มันเป็นเรื่องคนในโลกไม่มีใครรู้ แม้ว่าพวกเขาจะใช้เวลาทั้งชีวิตพวกเขาก็ไม่มีทางรู้ข้อมูลเหล่านี้ได้

สวรรค์ชั้นสูง , ยุคโบราณ , โลกที่สิบ..ทุกอย่างล้วนเป็นตำนานา ทุกคนปฏิเสธการมีอยู่ของพวกมัน แต่ทั้งสองกับพูดคคุยกันอย่างมีความสุข

ไม่ว่าจะเป็นสวรรค์ชั้นสูงหรือโลกที่สิบ มีน้อยคนมากที่จะรู้เกี่ยวกับสิ่งเหล่านี้ ไม่ต้องเอ่ยถึงการโต้เถียงเกี่ยวกับพวกมัน

นี้เป็นเรื่องจริงโดยเฉพาะอย่างยิ่งโลกที่สิบ ผู้ฝึกตนนับไม่ถ้วนไม่เชื่อว่ามันมีอยู่จริงและเป็นเพียงข่าวลือ ทว่าที่โลกไม่รู้คือเรื่องเหล่านี้เป็นตำนานที่เกี่ยวข้องกับหลายนิกาย...