วันที่สองที่อาศัยอยู่บนเขาลูกเดิม นายหญิงไปที่สวนในช่วงเช้าแต่ก็ยังตกใจกับสิ่งที่เห็น
เพราะว่ามันมีแมลงมีพิษมากมายอยู่ที่สวย แม้แต่ราชันปีศาจเช่นนางก็อดไม่ได้ที่จะตกใจเมื่อเห็น
หลี่ฉีเย่ได้โปรยผงระยิบระยับลงบ่อน้ำขนาดเล็กในสวน ข้างในนั้นมี ตะขาบตัวยาวกว่าสามเมตรกำลังดื่มน้ำอยู่ ใต้อ่างก็ยังมีงูพิษที่ปกคลุมไปด้วยไฟเล่นอยู่ในโคลน ภายในอ่างชามใหญ่ก็เต็มไปด้วยแมงป่องยักษ์อยู่ในบรรยากาศพิษ เหมือนกำลังทำยาพิษอยู่ก็ไม่เชิง...
ภาพที่ได้เห็นทำให้นายหญิงรู้สึกสะท้านไปถึงสันหลัง เหมือนสวนของนางกลายเป็นรังพิษไปได้แค่ชั่วข้ามคืน ! เท่าทำให้นางต้องเดินอ้อมๆ หลังจากเห็นสิ่งมีชีวิตที่น่ากลัวและทรงพลังเช่นนี้ โชคยังดีที่พวกสัตว์เหล่านั้นไม่คิดจะทำร้ายนาง
อีกด้านหนึ่งที่สวนเล็กๆ นางก็ได้พบกับนายท่านของนาง เขากำลังนอนอยู่ตรงนั้นและแผ่รังสีแห่งความตายสีเทาออกมา
แม้ว่านางจะไม่รู้ดีนักว่าเขาทำอะไรอยู่ นางก็ไม่ได้รบกวนและเข้าไปรอข้างๆ อย่างเงียบๆ เท่านั้น
ความเงียบปกคลุมเข้าเนิ่นนอน หลี่ฉีเย่ฟื้นฟูพลังความตายของเขาและปลูกหญ้าจิตวิญญาณไว้ตรงสถานที่นี้
“ ทำไมนายท่านเลือกที่จะปลูกหญ้าจิตวิญญาณไว้ตรงนี้กัน? ” นายหญิงเอ่ยถามหลังจากพบเห็นหญ้าจิตวิญญาณมากมาย นอกจากนี้นางไม่เคยเห็นพืชประเภทนี้มาก่อนและไม่รู้ว่าเอาไว้ทำอะไร
หลี่ฉีเย่ยิ้มและกล่าวต่อ “ อาณาจักรปรุงยาไม่เพียงแต่อุดมสมบูรณ์ในเรื่องของยาจิตวิญญาณเท่านั้น แต่สำหรับผู้ที่เข้าใจเต๋าแห่งการปรุงยาจะรู้ว่าสถานที่นี้ยังเต็มไปด้วยสัตว์ร้ายมีพิษทรงพลัง ที่หลบซ่อนอยู่ในเมืองปรุงยา ! ผู้ฝึกตนทั่วไปไม่มีความสามารถในการมองเห็นพวกมัน ”
“ นายน้อยต้องการ ทำให้สัตว์มีพิษเหล่านี้เชื่อง ?” นายหญิงถามต่ออย่างสงสัย นางเคยได้ยินมาว่า การทำให้สัตว์มีพิษเชื่องเป็นแม้ว่าโลกสมุนไพรหินจากทั้งเก้าโลกจะถูกรู้จักกันในชื่อของสถานที่ของนักปรุงยา สายเลือดที่รู้จักกันดีในด้านนี้มีเพียงหนึ่งเดียวหมู่บ้านบึงแมลง ก่อตั้งโดยนักปรุงยาจักรพรรดิบึงแมลง
“การทำให้สัตว์มีพิษเชื่องก็แค่หนึ่งในความสามารถเล็กๆของข้าเท่านั้น ” หลี่ฉีเย่ยิ้มน้อยๆ “ เพียงแค่เรื่องสนุกๆ เท่านั้น อาณาจักรปรุงยานั้นมีนักปรุงยาระดับตำนานมากมายที่ซุ่มอยู่รอบๆ คงไม่สนุกนักถ้าจะฆ่าโดยไม่ใส่ของเล่นอะไรไว้บ้างเลย ”
ไหล่ของนายหญิงสั่นเล็กน้อยหลังจากได้ยินปสิ่งนี้ การใช้ความสามารถในการปรุงยาเพื่อฆ่าเป็นสิ่งนางเคยได้ยินมาก่อนแต่ก็ไม่เคยเห็นด้วยตาของตน ว่ากันว่ามีเพียงนักปรุงยาในตำนานเท่านั้นที่สามารถใช้เต๋าแห่งการปรุงยาในการฆ่าได้
“ อาณาจักรปรุงยาไม่ได้มีแต่เต๋าแห่งการปรุงยาที่เก่งกาจ” นายหญิงรู้สึกกังวลเมื่อนึกถึงนายท่าน
ในโลกสมุนไพรหิน มีเพียงไม่กี่เชื้อสายและคนไม่กี่คนเท่านั้นที่กล้าเป็นศัตรูกับอาณาจักรปรุงยา โดยเฉพาะในเขตของเมืองปรุงยา นี้จะเป็นการรนหาที่ตาย
ชื่อเสียงของอาณาจักรปรุงยาเป็นที่รู้จักกันทั่วโลก อย่างไรก็ตาม พละกำลังและความสามารถที่ซุกซ่อนไว้นั้นแข็งแกร่งกว่าเต๋าแห่งการปรุงยามาก หนึ่งนิกายสามจักรพรรดิ-ไม่ใช่แค่คำพูด ในอาณาจักรนั้นเคยมีผู้คาดเดาไว้ว่ามี ราชันเทพอยู่ในปัจจุบันอยู่และอาจจะไม่ได้มีเพียงหนึ่ง
การต่อต้านอาณาจักรภายใต้เงื่อนไขเต๋าแห่งกาปรุงยาเพียงอย่างเดียวนั้นเป็นไปไม่ได้
ถึงกระนั้น ตัวหลี่ฉีเย่ก็ไม่ได้สนใจ เขาพียงได้ยิ้มเอ่ย “ไม่เป็นไร เจ้าสัตว์มีพิษเหล่านี้ก็แค่การเล่นสนุก มันเป็นเรื่องดีหากอาณาจักรเล็งมาที่ข้า ข้าจะได้ฆ่าพวกมัน ! ข้าจะให้มันลิ้มรสซึ่งที่ข้าซ่อนอยู่ ! ” เขากล่าวพร้อมหรี่สายตาลง
ในฐานะที่นายหญิงฉีเยียนติดตามหลี่ฉีเย่มานาน นางพอจะรู้การแสดงออกของเขา
“ นายน้อยอยากจะลักพาตัวเทพธิดาหมิงจากพวกเขา ? ” นายหญิงกล่าว นางสงสัยเกี่ยวกับสถานของหมิง เย่เสวียที่มีอยู่ในใจของนายน้อย
“ ลักพาตัว? ” หลี่ฉีเย่หัวเราะ “ ฉีเหยียน เจ้าเรียกว่าการลักพาตัวงั้นหรือ? คนที่รักสันติอย่างข้ายินดีจะพูดคุยหากอาณาจักรต้อองการ ! แต่การตัดสินใจนี้ไม่ได้อยู่ได้อำนาจของข้ามันขึ้นอยู่กับอาณาจักร และข้ายินดีหากพวกเขาจะไม่ใช่ ”
นายหญิงรู้สึกช่วยไม่ได้ที่จะเศร้าอยู่ภายใน ก็อย่างที่นายน้อยว่าเรื่องนี้จะคลี่คลายไปในทางใดก็ขึ้นอยู่กับอาณาจักร
แต่นายก็เข้าใจว่าเหตุใดนายน้อยถึงเตรียมการใหญ่เช่นนี้ นางสงสัยว่าอาณาจักรจะเตรียมพร้อมรับมือกับพายุที่กำลังจะมาถึงหรือไม่ !
“นายน้อย ตัวข้าที่ต่ำต้อยกลับมาแล้ว” เป็นเวลาเดียวกับที่เทียยี่โผล่ออกมาจากที่ใดสักแห่ง
“ ข้าทำงานหนักสมควรแก่รางวัล ตัวข้าแสนต่ำต้อยนี้ได้ทำการค้นทุกซอกทุกมุมของเมืองปรุงยาและพบข้อมูลที่ท่านน่าจะใช้ประโยชน์ไ ด้” เทียยี่ยิ้มให้สมกับสิ่งที่ได้รับมา
หลี่ฉีเย่เหลือบมองเขาและ “ ข้ารู้ดี เจ้าทำหน้าที่ได้เป็นอย่างดีเพราะฉะนั้นไม่จำเป็นต้องพูดให้มากความ”
เทียยี่ได้แต่กระแอ่มไอ และไม่กล่าวเพ้อเจ้ออะไรต่อ เขาพูดเร็วๆว่า “ข่าวส่วนแรกเกี่ยวกับการชุมนุมปรุงยา มู่เฉาจากอาณาจักรจะไม่เข้าร่วมแต่นักปรุงยาผมขาวและโจกัวเยาจะเข้าร่วม..”
“ ต่อไป ” หลี่ฉีเย่โบกมือ ชัดเจนว่าเขาไม่ได้สนใจข่าวนี้นัก เขารู้ดีว่าจะเป็นเช่นนี้ เพราะชัยชนะจะต้องตกเป็นของเขาแน่ๆ ใครจะสนใจว่าอัจฉริยะเด็กน้อยพวกนั้นจะเข้าร่วมหรือไม่ สำหรับเขา ไม่ต้องพวกถึงพวกนักปรุงยารุ่นเยาว์แม้แต่นักปรุงยาในตำนานจากรุ่นก่อนก็ยังไม่มีปัญหา
เทียยี่เปลี่ยนหัวข้อโดยไว “ พวกหุบเขากลืนสวรรค์ส่งคนมามากมาย ได้ยินมาว่าจะมีพวกระดับสูงมากด้วย ภายนอกพวกเขาอาจจะเพื่อปกป้องโจกัวเย้า ข้าเกรงว่าพวกมันจะมีจุดประสงค์อื่น และทหารของเย่ฉิงเฉินก็อยู่ที่นี้ บางทีตัวเขาอาจจะมาที่เมืองปรุงยาด้วย”
สิ้นคำ เทียยี่มองไปยังหลี่ฉีเย่วูบหนึ่งอย่างอดไม่ได้ เรื่องราวระหว่างหลี่ฉีเย่และหุบเขากลืนสวรรค์และเย่ฉิงเฉิน ไม่ได้เป็นความลับ หากพวกมันไม่ได้มาเพื่อการชุมนุมแล้วละก็ พวกเขาจะมาเพราะหลี่ฉีเย่อยู่ที่นี่
หลี่ฉีเย่ไม่ได้ใส่ใจเท่าไหร่ จะเป็นใครก็ไม่ได้มีปัญหากับเขาอยู่แล้ว ถึงพวกมันจะกล้ามา หากมีคนขว้างเส้นทางเขาก็ฆ่าพวกมันทิ้ง หากเทพขว้างสังหารเทพ หากปีศาจขว้างขยี้ปีศาจ
“ และอีกเรื่องเกี่ยวกับอาณาจักรปรุงยา” ท่าทีของเทียยี่เปลี่ยนแปลงไปเล็กน้อย และพูดต่อ “ไพ่ตายของตระกูลหวังฟู่ บรรพชนที่แข็งแกร่งที่สุดของพวกเขาออกมาจากหินหยดเลือดแล้ว นอกจากบรรพชนศักดิ์สิทธิ์ยังไปหาบรรพชนเสาหลักโลก - แหล่งข่าวนี้เชื่อถือได้เป็นอย่างมาก "
หลี่ฉีเย่ไม่ได้มีปฏิกิริยาอะไรกับข่าว ในระหว่างที่นายหญิงก็เริ่มกล่าวต่อ “ แม้แต่บรรพชนศักดิ์สิทธิ์ก็กลับมามีชีวิต ! ข้าได้ยินมาว่าเขาเป็นปรมาจารย์ระดับตำนานและอยู่ระดับสูง บางคนเรียกเขาว่าเทพบรรชน !”
“ และนั้นยังไม่ใช่ส่วนที่น่ากลัวที่สุด ” เทียยี่เสริมด้วยท่าทีเคร่งเครียด “ที่น่ากลัวที่สุดคือบรรพชนเสาหลักโลกได้แต่งกับนายหญิงน้อยจากตระกูลหวังฟู่ แต่บรรพชนของเขามาจากอาณาจักรสายตรง นอกจากนี้พวกเขายังมีบรรพชนที่ถูกฝังไว้ใต้ดินแดนบรรพบุรุษ และได้ยินมาอีกว่าตำแหน่งของเขาไม่ใช่ตำแหน่งเล็กๆในอาณาจักร ! ”
นายหญิงลอบมองไปยังนายน้อยอย่างช่วยไม่ได้ แค่เทพบรรพชนจากตระกูลหวังฟู่ก็แย่พอแล้ว แต่หากบรรพชนขจองอาณาจักรออกมาอีก นั้นอาจจะหมายถึงว่าทั้งอาณาจักรจะเป็นศัตรูของเขา
ในตอนนี้เองที่นางก็ตระหนักได้ว่าสถานการณ์อาจจะร้ายแรงมากกว่าที่นางคิดนัก
“ผู้สืบทอดตระกูลเซียน งั้นรึ ? ” หลี่ฉีเย่ถูคางอย่างครุ่นคิดและหัวเราะก่อนจะกล่าวต่อ “จะหนึ่งหรือสองบรรพชน ...ก็น้อยเกินไป นี้ยังไม่สนุกเท่าไหร่ ”
นายหญิงช่วยไม่ได้ที่จะข่มขื่น มีเพียงนายท่านของนางที่กล้าพูดเช่นนี้ นางก็ได้แต่ตอบกลับอย่างอ่อนโยนว่า “นายท่าน ข้าไม่ทราบเกี่ยวกับบรรพชนตระกูลเซียนมากนัก..แต่บรรพชนศักดิ์สิทธิ์จากตระกูลหวังฟู่..นี้เป็นเทพบรรพชนที่ทีทรงพลัง ”
“ ก็แค่เทพปลอมที่ไม่สามารถยังจุดสูงสุดได้” หลี่ฉีเย่ยิ้มและกล่าว “ เทพที่แท้จริงอาจจะน่าสนใจ แต่สำหรับเทพปลอมไม่ควรค่าแม้แต่จะเอ่ยชื่อด้วยซ้ำ”
นายหญิงจะกล่าววอะไรต่อได้? นี้เป็นเทพบรรพชน! ถึงจะไม่ได้ถูกแต่งตั้งเป็นเทพบรรชน เขาก็ยังเป็นปรมาจารย์ในตำนาน แม้แต่บรรพชนเที่ยงธรรมจากรุ่นก่อนก็ยังสั่นสะท้านที่ได้ยินชื่อนี้ ไม่ต้องพูดถึงพวกรุ่นเยาว์
“นายน้อย หากผู้สืบทอดตระกูลเซียนเข้ามาเกี่ยวจ้องและนายน้อยฆ่าเขา จะไม่เป็นการตีผึ้งให้แตกรังรึ ? ” เทียยี่พูดแนะนำ “ ถอยหลังสักก้าวและปล่อยให้ทุกสิ่งเป็นไปตามทาง นายน้อยไม่เห็นจำเป็นจะต้องสู้กับอาณาจักร แค่เล่นเบาๆหน่อย สัตว์ประหลาดอย่างอาณาจักรอาจจะไม่ออกมาอาละวาดเพื่อตระกูลหวังฟู่แน่ๆ การต่อสู้กับอาณาจักรทั้งอาณาจักรดูไม่ใช่อะไรที่ฉลาดนัก
เที่ยยี่ยากที่จะกล่าวคำเหล่านี้ แม้แต่ตัวเขาก็ยังกังวลกับการเป็นศัตรูกับสัตว์ประหลาดอย่างออาณาจักรนักปรุงยา คนมากมายในโลกสมุนไพรหินล้วนรู้ดีว่ามันไม่ใช่เรื่องที่ฉลาดนัก
“ ไม่เห็นจะเป็นไร” หลี่ฉีเย่หัวเราะอีกครั้ง พลางกล่าว “ ข้าไม่ได้ฆ่าล้างนิกายมานานแล้ว ช่วงหลังๆเลยทำให้ข้ารู้สึกเบื่อ ข้าจะดีใจมากข้าใครสักคนมาเคาะประตูบ้านข้า ! ” สิ้นคำเขาก็มองไปยังภูเขาแสนไกล
เส้นเลืขอดออาณาจักรนักปรุงยา สถนาที่แห่งนั้นปกคลุมไปด้วยความลับมากมาย หลังจากคิดถึงตอนตรงนี้หลี่ฉีเย่อดไม่ได้ที่จะยิ้ม อาณาจักรนั้นโชคดีมากที่เขาไม่ได้ลงมือ ทว่าหากลูกหลานของอาณาจักรไม่รู้จักรักชีวิต เขาก็ยินดีที่จะทำให้ประวัต์ศาสตร์ซ้ำรอย !