ตอนที่ 734 รากบรรพชน

นักปรุงยาหลายคนที่เห็นเหตุการณ์ต่างก็ตกใจ เมื่อเห็นนายหญิงตกเจ้านักปรุงยานั้นประเด็นไปแล้ว หลายคนรู้สึกหวาดกลัวจนกระทั่งไม่แม้จะหายใจเสียงดัง ความเกรี้ยวกราดของราชันเทพสวรรค์ทำให้นักปรุงยาทั้งหลายรู้สึกสยอง

เจ้ากระถาง, นักปรุงยามือปีศาจ ศิษย์ของบรรพชนต่างก็สั่นไปด้วยความสั่นกลัวเช่นกัน แม้ว่าพวกเขาจะแข็งแกร่งและมีชื่อเสียงมากมาย แต่ก็ในเรื่องของการปรุงยาเท่านั้น แต่ในเรื่องของการฝึกตนพวกเขาก็ยังอ่อนแอกว่านายหญิงมากนัก

ศิษย์ของบรรพชนทมีความรู้สึกหวาดกลัว แต่เมื่อนึกถึงท่านอาจารย์ของคือรากบรรพชนก็ทำให้รู้สึกมีความกล้ามากขึ้น จึงกล่าวกับนายหญิงด้วยเสียงเย็นชาา “ ฝ่าบาทฉีเหยียน สถานที่แห่งนี้คือคฤหาสน์ของท่านบรรพชนไม่ใช่สถานที่ที่ท่านจะทำสิ่งใดตามใจ ! ”

นายหญิงจ้องไปยังคนหนุ่มคนนั้นและกล่าวอย่างช้าๆ “ หากเจ้ายังคิดว่าตัวเองเป็นศิษย์ของรากบรรพชน เช่นนั้นก็อยู่เงียบๆ ”

กลิ่นอายแห่งทรราชที่มาจากนายหญิงทำให้หัวใจของเขารู้สึกหนาวสั่น กลิ่นอาายผู้ปกครองของนางทำให้เขาหวาดกลัวอย่างมาก

เมื่อตอนหลี่ฉีเย่มาถึงที่คฤหาสน์นี้ รากบรรพชนกำลังเดินไปเดินมาในห้องรับแขกของเขา เขารู้สึกเป็นกังวลตอนที่กำลังรอข่าวสาวจากหยวนไฉ่เหอ เขากังวลว่านางจะช่วยรักษารากศักดิ์สิทธิ์ของเขาเอาไว้ไม่ได้ ทันใดนั้น หญิงชราก็ได้ก้าวออกมา ทำให้เขารู้สึกประหลาดใจนัก “ ท่านยาย ไป๋ อะไรกันที่ทำให้ท่านมาที่นี่กัน ? ”

รากบรรพชนที่กำลังกังวลใจใจเย็นลงอย่างรวดเร็วเพื่อทักทายหญิงชราที่ปรากฏออกมา และเขาได้ผสานมือคาราวะ

หญิงชราคนนี้เป็นคนเดียวกับที่มาพร้อมกับ หมิงเย่เสวีย นางเป็นคนที่มีชื่อเสียงภายในเชื้อสายราชวงศ์ เป็นบรรพชนที่น่าตกตะลึง แม้แต่บรรพชนเช่นเขาก็ยังเป็นเพียงเด็กน้อยเมื่อเทียบกับนาง

“ไม่จำเป็นจะต้องมาพิธีนัก, ตอนนี้มีแขกที่น่านับถือมาเยือนสถานที่ของท่านอยู่ตอนนี้ ชื่อของเขาคือ หลี่ฉีเย่” หญิงชราไม่ได้กล่าวอะไรมากความ และด้วยความเย็นชาทำให้นางต้องเข้าประเด็นในทันที “ คำสั่งของนายหญิง เจ้าจะต้องดูแลเขาเป็นอย่างดี ถ้าเกิดอะไรขึ้น ข้ากลัวว่านายหญิง คงจะไม่ปกป้องเจ้า ! ” สิ้นคำหญิงชราก็หายไปอย่างไรร่องรอย

หลังจากได้ยินคำสั่ง รากบรรพชนก็พุ่งออกไปด้านนอกทันที เขาไม่สามารถคิดอะไรในระยะเวลาสั้นๆได้

ณ สวน ในเวลาเดียวกันนั้นศิษย์ของบรรพชนก็สูดลมหายใจเข้าลึก เขาหวาดกลัวต่อราชันเทพสวรรค์เช่นนายหญิง แต่จากการครุ่นคิดทั้งหมดแล้ว เขาก็ยังเป็นศิษย์ของอาณาจักรปรุงยา ! มีการสนับสนุนที่ยิ่งใหญ่เช่นนั้น จึงทำให้เขาเกิดความกล้า

เขายังคงรักษาความกล้าและความแข็งกร้าวเอาไว้ พร้อมกล่าวว่า “ ฝ่าบาทฉีเยียนคฤหาสน์ของเรายินดีตอนรับแขกทุกเวลาและยินดีเราต้อนรับแขกที่มาสถานะอย่างท่านอยู่เสมอ แต่อย่างไรก็ตาม เราจะไม่ต้อนรับคนบางคน เพราะฉะนั้นไสหัวออกไปจากที่นี่ ! ”

“อ่า, ฉีเหยียน เจ้าทำได้ดีแล้ว แต่ก็ยังมีพวกโง่ไม่กี่คนที่ไม่ยอมเข้าใจสักที ” หลี่ฉีเย่ยิ้มร่าและส่ายหน้าอย่างอ่อนโยน “ข้าไม่สนหรอกว่าจะเป็นแขกของรากบรรพชนหรือไม่ ข้ามาที่นี้เพียงแค่มาพบกับไฉ่เหอ ”

นายหญิงก็ส่ายหน้าเบาๆ โดยไม่ได้พูดอะไรเพิ่มเติม นางจะไม่เข้าใจสถานการณ์เช่นนี้ได้อย่างไร ? นายน้อยของนาง จะไม่ทำร้ายคนนี้ราวกับคำอวยพรจากสวรรค์ แต่ก็มีคนที่เข้ามาเพื่อยั่วยุเขา

ตัวนางเองก็ไม่ใช่พวกหาเรื่องทะเลาะกับใคร ลูกตบของนางเมื่อสักครู่ก็เพื่อดับอารมณ์โกรธของนายน้อย แต่ใครก็ไปรู้เล่าว่าเจ้าศิษย์ของรากบรรพชนจะไม่รู้จักหยุด ? หากเป็นเช่นนี้ต่อไป ก็เพียงแต่จะนำหายนะมายังคฤหาสน์นี้เท่านั้น !

“ เทพธิดาหยวนเป็นแขกที่ได้รับเกียรติสูงสุดของคฤหาสน์ของเรา สุนัขหรือแมวจรจัดไม่สามารถเจอนางได้” ศิษย์คนนั้นกล่าวด้วยน้ำเสียงเย็นชา “ เจ้าออกไปจะดีกว่า ไม่เช่นนั้นอย่าหาว่าพวกเรารุนแรง ”

หลี่ฉีเย่ก็ยังคงตอบกลับด้วยท่าทีสบายๆ เอาไว้ ด้วยรอยยิ้มจนตาแทบจะยิ้มตามไปด้วย

นายหญิงลอบถอนหายใจเบา เมื่อเห็นท่าทีของนายน้อย นางเข้าใจดีว่า ใกล้จะถึงเวลาตายของใครบางคนแล้ว อาจจะมีสักคนที่รอดพ้นจากภัยธรรมชาติ แต่ไม่มีใครรอดพ้นจากภัยพิบัติที่มาจากตนเองได้ !

“ เจ้าพวกโง่ ! ” เสียงคำรามดั่งสายฟ้าฟาดปรากฏพร้อมกับชายชราที่เข้ามาใกล้ขึ้น

ผู้เยาว์คนล้วนแล้วแต่รู้สึกยินดีเมื่อเห็นชายชรา เขาคิดไว้แล้วว่าความช่วยเหลือได้มาถึงแล้ว เขากล่าวโดยทันทีว่า “ ท่านอาจารย์ ท่านมาถึงพอดี ! เจ้าเด็กนี้พยามจะแสดงความโหดร้ายในคฤหาสน์และทำลายแขกนักปรุงยา... ”

ถ้าท่านอาจารย์ของเขาอยู่ที่นี่ ก็ไม่มีเหตุผลอะไรที่จะต้องหวาดกลัวนายหญิงอีก

กลุ่มของท่านเจ้ากระถางก็ดีใจที่เห็นรากบรรพชนด้วยเช่นกัน ดูเหมือนว่าท่านบรรพชนอยากจะสั่งสอนเจ้ามนุษย์ที่ไม่รู้จักฟ้าสูงแผ่นดินต้ำนี้

“เพี๊ยะ ! ” แต่สิ่งที่ไม่คาดคิดก็เกิดขึ้น เมื่อมาถึงบรรพชนตบศิษย์ของตนอย่างไม่ลังเลจนเลือดกบปาก แทบจะจินตนาการไม่ได้เลยว่าตบของเขารุนแรงมากแค่ไหน

“ท่านอาจารย์ ... ” ศิษย์คนนั้นรู้สึกงงงวยหลังจากถูกท่านอาจารย์ของเขาตบ เขาไม่ทราบเลยว่า ตัวเขานั้นทำอะไรผิด
อันที่จริง นักปรุงยาหลายคนที่อยู่ตรงนี้รวมถึงกลุ่มของเจ้ากระถางก็งงกับการลงโทษด้วยการตบของเขาเช่นกัน แต่ก็คิดเหตุผลอื่นใดไม่ออกว่าทำไมรากบรรพชนถึงตบศิษย์ต่อหน้าทุกคน !

“ เจ้าพวกเด็กสารเลวรีบขอโทษ นายน้อยหลี่ เดี๋ยวนี้ ! ” รากบรรพชนตะคอก เขาเป็นยอดผู้เชี่ยวชาญ ดังก่อนปลดปล่อยกลิ่นอายของเขาทำให้หลายคนเหมือนอยู่ในพายุ แม้แต่นักปรุงยาทั้งหลายก็รู้สึกหวาดกลัว

ศิษย์คนั้นก็ยังยืนอยู่อย่างโง่งม นี้เป็นครั้งแรกที่พวกเขาเห็นท่านอาจารย์โกรธเขาเช่นนี้ แต่ก็ยังไม่เข้าใจอยู่ดีว่าพวกเขาทำอะไรผิด

“ บัดซบพวกเจ้าอย่ามัวแต่ยืนทื่อ ! ” บรรพชนคำรามอีกครั้งเดียวเสียงกึกก้อง

เสียงตะโกนของบรรพชนทำให้ศิษย์คนั้นได้สติ เขาใจเย็นลงและรู้สึกหวาดกลัว เขารู้สึกการกระทำรุนแรงของท่านอาจารย์ แม้จะไม่รู้ว่าผิดอะไรก็ตาม แต่ก็รู้แล้วว่า เขาตกที่นั่งลำบากแล้ว

“ น้องชายคนนี้ชอบเย่อหยิ่งและทำตัวหยิ่งยโสต่อนายน้อย ขอนายน้อยโปรดลงโทษข้า ! ” ศิษย์คนนี้เป็นคนเด็ดเดี่ยวเขากล่าวพร้อมกับคุกเข่าลงบนพื้นทันทีเพื่อรับข้อผิดพลาด

บรรพชนหันมากล่าวขอโทษหลี่ฉีเย่ทันที “ ศิษย์ของข้ามีตาแต่ไร้แวว เป็นเพียงแค่คางคกที่อยู่ใต้บ่อน้ำ เขากล้าต่อต้านนายน้อยหลี่เช่นนี้ ของให้นายน้อยลงโทษได้ตามใจ ”

รากบรรพชนกล่าวขอโทษหลี่ฉีเย่ด้วยตนเอง ทำให้นักปรุงยาทุกคนในที่นั้นตกอยู่ในความงุนงงและแทบไม่เชื่อสายตาตนเอง ! ผู้ที่มีสถานะถูกในอาณาจักรปรุงยาเช่นบรรพชนแต่มาขอโทษต่อผู้เยาว์คนหนึ่งด้วยตัวเอง นี้มันน่าตกตะลึงเกินไป

เขาเป็นผู้เชียวชาญ ราชันเทพสวรรค์ที่น่าทึ่ง ! อาจจะกล่าวได้ว่าบรรพชนเที่ยงธรรมสามัญไม่มีใครสามารถหยุดเขาได้ ด้วยพลังอันแข็งแกร่งของราชันเทพสวรรค์ สถานะของเขาสูงส่งกว่าขุนนางหรือผู้นำนิกายซะอีก

และที่สำคัญกว่านั้น เขามีค่ามากต่อเชื้อสายราชวงศ์อย่างมาก ไม่ต้องเอ่ยถึงราชันเทพสวรรค์ธรรมดาหรือผู้ปกครองหรือแม้แต่สายเลือดของจักรพรรดิก็จะต้องปฏิบัติต่อเขาด้วยความเคารพ !

แต่ตอนนี้ เขามาขอโทษผู้เยาว์ด้วยตนเอง แม้ว่าท่านเจ้ากระถางหรือนักปรุงยามือปีศาจก็คงไม่ได้รับเกียรติเช่นนี้

หลี่ฉีเย่ มองดูบรรพชนและหายโกรธ เขาได้แต่โบกมือผ่านๆอย่างขี้เกียจ ก่อนจะกล่าวว่า “ เอาละ คนไม่รู้ย่อมไม่ผิดยืนขึ้น”

“ ข้ารู้สึกซาบซึ้งในความใจกว้างของนายน้อยที่มีต่อศิษย์ของข้านัก” บรรพชนโค้งคำนับให้อย่างรวดเร็ว ขณะเดียวกันศิษย์ของเขาจะยังพูดอะไรได้อีก ? ก็ได้แต่โค้งคำนับให้เช่นกันเท่านั้น

หลังจากได้รับการให้อภัยจากหลี่ฉีเย่ บรรพชนรีบเอ่ย “ การมาถึงของนายน้อยทำให้สถานที่อันต่ำต้อยของข้าได้รับประกายแสง ช่างเป็นเกียรติของเรานัก หากนายน้อยต้องการให้เกียรติพวกเราสักนิดโปรดพักที่นี่ บรรพชนตัวน้อยเช่นข้าจะเป็นเจ้าบ้านและดูแลท่านยามอยู่ในเมืองนักปรุงยาอย่างดี ! ”

ความสุภาพอ่อนน้อมของรากบรรพชนทำให้นักปรุงยาทั้งหลายรู้สึกโง่งง แม้แต่อัจฉริยะเช่นเจ้ากระถางยังไม่ได้รับเกียรติเช่นนี้

แม้ว่าท่านเจ้ากระถางและนักปรุงยามือปีศาจจะมีชื่อเสียงในหมู่นักปรุงยารุ่นเยาว์และได้รับการขนานนามว่าเป็นอัจฉริยะ แต่รากบรรพชนผู้เป็นผู้นำของบรรพชนในอาณาจักรปรุงยา แม้ว่าอาจารย์ ผู้นำนิกาาย หรือผู้นำตระกูลก็ยังต้องให้ความเคารพแก่บรรพชน ในฐานะรุ่นเยาว์พวกเขาจะได้รับความเคารพได้อย่างไร ?

หลี่ฉีเย่ไม่สนใจคำเชิญจากบรรพชนนัก แต่การได้รับการต้อนรับอย่างเคารพและสุภาพ แม้แต่หลี่ฉีเย่ก็ยังไม่อยากสร้างปัญหา มีคำยิ่งใหญ่คำหนึ่งได้กล่าวไว้ว่า ไม่ควรตบหน้าคนที่ยิ้ม

หลี่ฉีเย่ส่ายหน้าและกล่าวว่า “ ข้าขอรับความมีน้ำใจของรากบรรพชนไว้ ข้าได้ยินมาว่าเทพธิดาหยวนอยู่ที่นี่ ข้ามาเพื่อพบนาง ”

“เอ่อ..” บรรพชนลังเลหลังจากได้ยินประโยคของหลี่ฉีเย่

เจ้ากระถางฉวยจังหวะนี้เอ่ยวาจาเย็นเหยียบ “ เทพธิดาหยวนเป็นหนึ่งในสี่นักปรุงยาอัจฉริยะ เป็นแขกที่มีเกียรติ เจ้าจะพบนางเมื่อไหร่ก็ได้ตามที่เจ้าต้องการได้อย่างไรกัน ? สายเลือดของตระกูลมากมายต้องการนางและนักปรุงยานับไม่ถ้วนแทบจะต่อคิวเพียงแค่เพื่อชำเลืองมองนาง ฮึ่ม ! นางไม่ใช่คนที่เจ้าจะพบได้ ! ”

เนื่องด้วยหลี่ฉีเย่ได้สังหารคนมากมายจากนิกายผลึกมณีทะเลของเขา เจ้ากระถางเลยดูจะเป็นคนที่มีความแค้นส่วนตัวกับเขา เขาอยากจะสร้างความร้าวฉานระหว่าง หลี่ฉีเย่และบรรพชน ตอนแรกเขาคิดว่าบรรพชนจะจัดการหลี่ฉีเย่ ใครเล่าจะไปคิดว่า เหตุการณ์จะกลายเป็นเช่นนี้ ? จะไม่ให้เจ้ากระถางคับแค้นใจได้อย่างไรกัน ?

“เทพธิดาหยวน ! ” เสียงของนักปรุงยาตะโกนดังขึ้น

ทุกคนต่างมองไปยังต้นเสียงและพบหญิงสาวที่ลงมาจากประตูหลัก นางเป็นหญิงสาวที่สง่างามราวกับดอกบัวบริสุทธิ์ผู้ที่ไม่ถูกแปดเปื้อนใดๆจากโลก !

นางเป็นผู้สืบทอดของสวนแห่งความเงียบ หนึ่งในสี่ของนักปรุงยาอัจฉริยะ หยวนไฉ่เหอ ทุกแววตาจับจ้องไปยังทิศทางของนางทันทีที่นางมาถึง..