ตอนที้ 737 สุดยอดทักษะไร้ที่เทียบ

“อ๊ากกก...” เสียงกรีดร้องที่น่าสงสารของชายหนุ่มดังไปทั่วชั้นฟ้า ร่างของเขาถูกบิดไปครึ่งหนึ่งโดยเริ่มจากกระดูกสันหลังของเขา ร่างกายเขาตกอยู่ในห้วงของความทรมาน

แม้ว่าพรสวรรค์ที่แท้จริงของเขาจะถูกย้อมไปด้วยพิษ เขาก็ยังมีสติและตะโกนออกมา “ ท่านพ่อ ปล่อยข้า ! ”

“ไม่ ลูกพ่อ เจ้าต้องอดทนไว้ ! ” บรรพชนกล่าวอย่างลุกลนและเร่งรีบ “ ข้าจะตามหาคนมารักษาพิษให้เจ้า ”

“ ผู้อาวุโสผู้ที่มีความสามารถทางด้านนี้ได้มาอยู่ตรงหน้าท่านแล้ว เหตุใดท่านจึงยังต้องไปเสาะแสวงหาที่อื่นอีก ” หยวนไฉ่เหอผู้มีเมตตา มองไปยังเด็กหนุ่มที่ไม่ต้องการมีชีวิตอยู่บนความเจ็บปวดตรงหน้า นางเอ่ยเตือนสติบรรพชน

บรรพชนเงยหน้าขึ้นมามองหยวนไฉ่เหอ หลังจากพูดออกมาไม่นาน เขาก็นึกถึงผู้ทืนางกล่าวถึง เขารีบลุกขึ้นทันใดแล้วไปจับมือ หลี่ฉีเย่ “ นายน้อยหลี่ บรรพชนคนนี้มีตาหามีแววไม่ ก่อนหน้านี้ที่ข้าปฏิเสธท่าน ได้โปรดยกโทษให้ข้าด้วย ตราบที่นายน้อยสามารถช่วยลูกชายของข้าได้ ท่านสามารถทุบตีข้าได้ตามต้องการได้เลย ! ”

“ บรรพชนพูดเกินไป” หลี่ฉีเย่ส่ายหัวและเอ่ย “ ข้าไม่ได้มีเรื่องใดๆที่โกรธแค้นท่าน ทำไมข้าต้องทำร้ายหรือฆ่าท่านด้วย ? นอกจากนี้ทักษะการรักษาของข้าก็ไม่ได้ดีอะไรนัก ”

บรรพชนรู้สึกใจหายทันทีที่ได้ยินเช่นนั้น แต่เขาไม่มีหนทางอื่นอีกแล้วในเวลานี้ เขาไม่สามารถช่วยเหลือได้ แต่ส่งสายตาไปยังหยวนไฉ่เหอเพื่อขอความช่วยเหลือ

ในที่สุดนางก็เห็นใจ นางถามหลี่ฉีเย่อย่างสุภาพว่า “ พี่ใหญ่ ท่านเป็นคนที่มีเมตตาโปรดช่วยลูกชายของบรรพชนด้วย ”

“ ไฉ่เหอคำพูดของเจ้านั้นผิดแล้ว ข้าไม่ได้มีเมตตาเช่นนั้น ข้าคือคนคนหนึ่งที่ฆ่าคนได้ทันทีโดยยังไม่ทันได้กระพริบตา ” หลี่ฉีเย่ส่ายหัวไปมาและยิ้ม เขาลูบเส้นผมนางอย่างทะนุถนอมและกล่าวต่อว่า “ ทว่าในเมื่อเจ้าขอร้อง ทำไมข้าจะไม่ช่วยเขา ? ”

“ ข้ารู้อยู่แล้วว่าพี่ใหญ่จะต้องไม่ปล่อยให้ใครตายต่อหน้าโดยไม่ยื่นมือเข้าไปช่วย” หยวนไฉ่เหอยิ้ม ถึงแม้ยิ้มของนางจะไม่ใช่รอยยิ้มงามล่มเมือง แต่ก็เป็นรอยยิ้มที่อบอุ่นอ่อนโยนงดงามราวกับว่าจะแก้ปัญหาได้ทุกสิ่ง

หลี่ฉีเย่ ก้าวเท้าออกมาและเอาเขี้ยวออกมาจากบาดแผลของเด็กหนุ่ม เขาโยนทิ้งลงบนพื้นและเอ่ยเบาๆ “ เป็นความจริงที่เขาถูกโจมตีจากปลิงโลหิตปีศาจพิษของมันเป็นอันตรายถึงชีวิต แต่นี่ไม่ใช่ส่วนที่ร้ายแรงที่สุดของเจ้าปลิงนั่น ความจริงเขาไม่มีทางตายแม้จะโดนพิษของปลิง "

“ ทำไมเป็นเช่นนั้น ” บรรชนเอ่ยถาม “ ถ้าพิษนั่นไม่สามารถพรากชีวิตบุตรชายข้าได้ เช่นนั้นทำไมเขาจึงเจ็บปวดถึงเพียงนี้ ? ”

“โดยปกติแล้ว พิษนี้สามารถฆ่าเขาได้อย่างแน่นอน แต่บางสิ่งในตัวของเขานั้นไม่ต้องการให้เขาตาย” หลี่ฉีเย่ตอบ “ มันต้องการใช้ร่างกายของลูกชายท่านในการแพร่พันธุ์เป็นเจ้าของร่างให้กับมัน ! แม้ว่าพิษนี้จะกระจายไปทั่วร่างแต่มันยังทำให้เขามีชีวิตอยู่ต่อไป "

“ ท่านว่าอะไรนะ ? ” บรรพชนรู้สึกสยดสยองที่ได้ยินเช่นนั้น เขาสามารถจินตนาการถึงความทรมานของลูกชายของตนที่ต้องมาใช้ชีวิตต่อไปนับจากนี้

“ นี่คือปลิงนอน ”หลี่ฉีเย่กล่าว “ เป็นปีศาจเผ่าพันธุ์ปรสิตที่พบเจอได้ยากมากๆ หายากยิ่งกว่า ปีศาจปลิงโลหิตปีศาจโดยทั่วไปมันจะอาศัยอยู่ในเขี้ยวของปลิงโลหิตปีศาจและกินอาหารที่เหลือในเขี้ยว ถ้าหากเจ้าหนอนพวกนี้มันต้องการที่จะวางไข่ พวกมันก็จะควบคุมปลิงโลหิตปีศาจเพื่อจะให้โจมตีเหยื่อ! ”

“ และเหยื่อนั้นจะต้องเป็นสิ่งมีชีวิตที่แข็งแรง เช่น ผู้ฝึกตนที่ทรงพลัง หรือสัตว์อสูร ! ” หลี่ฉีเย่กล่าวต่อ “ นี่เป็นเหตุผลที่หนอนต้องใช้ทั้งพิษของปลิงเเละร่างของเหยื่อในการฟักไข่! หลังจากที่ปลิงต่อสู้ หนอนก็จะปล่อยพิษจากเขี้ยวของปลิงเข้าสู่เหยื่อและฝังตัวเข้าไปภายในทันที เพราะเหตุนี้หลังจากที่พิษถูกปล่อยออกมา เขี้ยวก็จะหลุดออกมาด้วย และติดเเน่นเข้ากับร่างกายของเหยื่อ! ”

ในตอนนี้หลี่ฉีเย่ได้มองไปยังเขี้ยวที่ตกอยู่บนพื้นเเล้วพูดว่า “ มีปลิงน้อยมากที่มีปรสิตพวกนี้อยู่ มีเพียงพวกนักปรุยาโง่ๆเท่านั้นที่คิดว่าบาดเเผลเหล่านี้เกิดมาจากพิษของปลิง ทั้งที่จริงเเล้วไม่ต้องรู้ชนิดของพิษก็ได้ พวกหนอนก็จะกัดกินจนมันอุดมสมบูรณ์. หลังจากที่ดูดซับพิษและพลังของเจ้าของร่าง ไข่ก็จะสามารถฟักออกมาตอนไหนก็ได้ และนั่นก็คือสัญญาณบอกว่าถึงเวลาตายของเจ้าของร่าง!! ”

“ เช่นนั้นแล้วก่อนที่เรื่องราวจะจบลง เจ้าของร่างจะต้องได้รับประสบการณ์ที่ทนทุกข์ทรมานที่อยู่ไม่สู้ตายเสียยังดีกว่า “ หลี่ฉีเย่กล่าว “ ดังนั้นหลังจากที่ถูกหนอนเข้าร่างไปแล้วนั้น เจ้าของร่างหลายต่อหลายคนจึงเลือกทีจะจบชีวิตของพวกเขาเองก่อนเวลาอันควร ”

หลังจากฟังหลี่ฉีเย่เช่นนั้น บรรพชนรู้สึกเสียวไปทั่วกระดูกสันหลังของเขา วิธีการฆ่าของพวกปรสิตนั้นน่ากลัวมากเกินไปแล้ว! บรรพชนนั้นเป็นผู้ เต็มไปด้วยองค์ความรู้มากมายเหลือคณานับทั่วทั้งเขตแดน แต่ก็กลับยังไม่เคยได้ยินเรื่องรายของปลิงนอนมาก่อน

“เช่นนั้นเราจะช่วยเขาได้อย่างไรกัน ? ” พระองค์ทรงตรัสอย่างกระวนกระวาย “ เราต้องผ่าเปิดหน้าอกของเขาเข้าไปยังพรสวรรค์ของเขาหรือว่าจะล้างเนื้อของเขาให้สะอาด !? หากนายน้อยสามารถชำระล้างพิษในพรสวรรค์ที่แท้จริงได้ เช่นนั้นลูกชายของข้าก็สามารถปลดปล่อยร่างกายของตนได้ ตราบเท่าที่พรสวรรค์ของเข้าไม่เป็นไร ข้าสามารถช่วยเขาสร้างร่างใหม่ได้ "

“ ไม่มีความจำเป็นที่จะต้องเปิดหน้าอกของเขาหรือล้างพรสวรรค์ ”หลี่ฉีเย่ยิ้มแล้วเอ่ย “ นั่นเป็นเพียงการกระทำนักปรุงระดับต่ำ นักปรุงยาจริงจะใช้กระถางสวรรค์ของพวกเขาเอง - นี่เป็นอุปกรณ์ที่สำคัญที่สุด สัตว์ร้ายเช่นปลิงนอนหาใช่พวกดุร้ายไม่และยังสามารถจัดการกับมันได้โดยง่ายอีกด้วย ถ้าเราเปิดพรสวรรค์ออกมาแม้จะจัดการกับหนอนได้ เมื่อเราเจอกับต้นตอของพิษที่แท้จริงเราไม่ต้องทำลายพรสวรรค์ที่แท้จริงเลยรึ ? ”


รากบรรพชนรีบคุกเข่าลงกับพื้นเอ่ยปากขอร้อง “ นายน้อยโปรดช่วยลูกข้าด้วยบรรพชนคนนี้จะไม่ลืมบุญคุณของท่านไปชั่วชีวิต….”


หลี่เอ่ยอย่างเเผ่วเบา “ โปรดยืนขึ้น ไฉ่เหอเป็นคนขอร้องข้า ข้าจะช่วยเขาเอง ”


เมื่อกล่าวเช่นนั้น เขาก็เรียกหมื่นกระถางสวรรค์ออกมาเเละควบคุม ผู้คนเห็นเปลวไฟที่บิดเกลียวร่วงลงสู่ฝ่ามือขอหลี่ฉีเย่เขาวางฝ่ามือลงหน้าอกของชายหนุ่ม ราวกับว่าเปลวไฟนั้นกำลังพุ่งเข้าสู่ร่างกายของเขา


ชั่วพริบตาเดียว ร่างของชายหนุ่มก็ราวกับโคมไฟโปร่งใส ใต้แสงของไฟจากฝ่ามือที่บิดเป็นเกลียวคลื่น ทำให้เห็นสิ่งที่อยู่ภายในได้โดยง่าย รวมไปถึงกล้ามเนื้อและกระดูกของเขาด้วย


แม้ว่าไฟจะเข้าไปลุกลามชายหนุ่มแต่ก็ไม่ได้ทำร้ายเขาแม้แต่น้อย เกลียวคลื่นพุ่งเข้าสู่ร่างกายของเขาเป็นธรรมชาติอย่างไม่น่าเชื่อ


“ นี่...นี่มันเป็นไปไม่ได้!” นักปรุงยา หลายต่อหลายคนประหลาดใจกับภาพอันน่าอัศจรรย์ที่เห็นอยู่เบื้องหน้าเพราะพวกเขาไม่อาจเข้าใจในสิ่งที่เกิดขึ้นตรงนี้ได้

ทุกคนรู้ดีว่าแหล่งกำเนิดไฟของกระถางถูกสร้างขึ้นจากเปลวไฟที่แตกต่างกันหลายชนิด แต่ละชนิดของไฟกระถางก็แตกต่างกัน แต่สิ่งหนึ่งที่มั่นใจได้แน่ ก็คือสามารถกลั่นน้ำทิพย์ได้นั้นความสามารถของเขาย่อมน่าตกตะลึง

แต่วินาทีต่อมาหลี่ฉีเย่สามารถควบคุมไฟและนำมันเข้าไปสู่ร่างกายของคนที่มีชีวิตโดยที่ไม่เกิดความเสียหายแม้แต่น้อย เรื่องประหลาดเช่นนี้ไม่ควรเกิดขึ้นในโลกแห่งความเป็นจริง

ถึงแม้ว่าพวกนักปรุงยาจะไม่พอใจกับหลี่ฉีเย่ พวกเขาก็ยังหดหู่ที่เห็นทักษะการใช้เปลวไฟที่ไม่เป็นสองรองใครในโลก

หลังจากที่เห็นสิ่งนี้แล้วการแสดงของเจ้ากระถางกลายเป็นบิดเบี้ยว เนอกจากตกใจแล้วเขาก็ยังอิจฉาเป็นอย่างมาก เขาผู้ถูกเรียกว่าเจ้ากระถาง เพราะความสามารถในการควบคุมกระถางของเขาแต่เขากลับไม่รู้ถึงเทคนิคของหลี่ฉีเย่
ต่อให้ได้รับการสอนสั่งเขาก็ไม่อาจเลียนแบบทักษะแบบนี้ได้ นี่เป็นการควบคุมกระถางระดับสูงสุด!!!

ใต้แสงของเปลวไฟที่บิดเป็นเกลียว หนอนปลิงในร่างของชายหนุ่มก็เผยตัวออกมา มันซ่อนอยู่ภายในมุมของร่างกาย
หลังจากที่ถูกประกายแสงของไฟแล้ว มันก็ส่งเสียงกรีดร้องที่น่ากลัวออกมา แม้ว่ามันจะเรียวเล็กราวกับเส้นไหม ก็ยังคงน่ากลัวอยู่ดี

ในไม่ช้าที่หนอนถูกค้นพบ เปลวไฟก็พวยพุ่งโหมกระหน่ำเหมือนกฎหมายของจักรวาลเข้าไปจับกุมหนอนทันที ทุกๆคนได้ยินเสียงที่ดังเมื่อหนอนถูกดึงออกจากร่างกายของเด็กหนถ่มด้วยเปลวไฟ


“ซี่….” พวกหนอนพยายามสู้ไฟด้วยพร้อมกับหนีไปด้วยความว่องไว หลายคนเกิดอาการสั่นเมื่อเห็นความดุร้ายของเจ้าหนอนที่บางเพียงเส้นผมเท่านั้น ตอนนี้พวกเขาสามารถจินตนาการได้แล้วว่ามันจะน่ากลัวแค่ไหนหากเจ้าหนอนนี่มาอยู่ในร่างกายของพวกเขาเอง

“ ตูม! ” ในวินาทีนั้น เปลวไฟก็เข้ามาจับหนอนร้ายเข้าสู่เปลวเพลิงที่น่ากลัวที่สุดบนโลกใบนี้ ด้วยเสียงเพียงเล็กน้อย หนอนร้ายก็ถูกเผาทันทีเหลือไว้แต่เพียงขี้เถ้าเท่านั้น

หลังจากเห็นหลี่ฉีเย่กำจัดปลิงออกไปแล้ว บรรพชนถอนหายใจโล่งอก ทว่าเขาอดไม่ได้ที่จะเอ่ยถามหลังจากเห็นพิษเหลืออยู่ " นายน้อยหลี่ แล้วเกี่ยวกับพิษในร่างกายลูกชายข้า ? "

" เรื่องนี้ง่ายอย่างมาก " หลี่ฉีเย่อมยิ้มก่อนจะควบคุมกระถางและเปลวไฟ

เส้นใยที่อยู่ภายในร่างของชายหนุ่มนั้นติดไฟอีกครั้ง พริบตาต่อมาร่างกายของเขาก็ติดไฟราวกับถูกเผา

บรรพชนหวาดกลัวความปลอดภัยของลูกชายและเอ่ยถาม " นายน้อยหลี่ลูกชายของข้าจะไม่เป็นไร ? "

หลี่ฉีเย่กล่าวอย่างสบายๆ " อย่ากังวลนี้เป็นเพียงการเผาพิษ ลูกของท่านจะไม่เป็นไร "

ภายในเปลวไฟร่างกายขอชายหนุ่มเริ่มคายพิษสีเขียวออกมา ขวัญสีเขียวกระจายตัวออกมาหลังจากผ่านไปไม่นาน

หลังจากนั้นเปลวไฟทั้งหมดทั่วร่างก็ค่อยๆลดลง ชายหนุ่มเหมือนจะดูมีชีวิตชีวาใบหน้าของเขากลายเป็นสีชมพูอีกครั้ง

หลี่ฉีเย่เก็บกระถางของเขาไปและเอ่ย " เอาละ มันขึ้นอยู่กับท่านแล้ว บาดแผลบนหน้าอกนั้นสามารถรักษาให้หายได้โดยใช้ผงอมตะ "

หลังจากเห็นผิวของบุตรชายดีขึ้นพร้อมกับที่พิษที่ออกไป บรรพชนต่างตะโกน " เร็วเข้า ไปนำผงอมตะออกมา ! "