ด้วยเหตุนี้ หลี่ฉีเย่ทำได้เพียงแต่ส่งยิ้ม “ ข้าจะจำคำของท่านไว้ ท่านเดินทางมาไกลนัก จะต้องเหนื่อยเป็นแน่”
บรรพชนอดเป็นห่วงไม่ได้หลังจากเห็นหลี่ฉีเย่ไม่ได้ใส่ใจนัก เขาเสริมเพิ่ม “ มีหลายเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น และเปลี่ยนแปลงอยู่ตลอดเวลาในช่วงนี้ ถ้านายน้อยไม่รังเกียจ น่าจะมาพักผ่อนที่บ้านของข้าสักพัก”
การเชื้อเชิญของ Monarch เต็มไปด้วยเจตนาที่ดี คำร้องขอนี้เกิดขึ้นจากการที่หลี่ฉีเย่ช่วยชีวิตลูกชายของเขา
เขาตระหนักว่าจะต้องมีใครบางคนมีเป้าหมายเป็นหลี่ฉีเย่และสถานการณ์ของหลี่ฉีเย่ค่อนข้างเสียเปรียบในสายตาของเขา หากหลี่ฉีเย่จะยอมมาเป็นแขกของเขาล่ะก็ คงไม่มีใครกล้าเคลื่อนไหวโดยไม่ได้คิดอย่างไตร่ตรองก่อนเป็นแน่ สุดท้ายไม่ว่าพวกมันจะเป็นใคร พวกมันก็ต้องไว้หน้าเขาบ้าง ผู้หนุนหลังของเขาคือเชื้อสายราชวงศ์ ราชันหินยักษ์แห่งอาณาจักรนักปรุงยา
“ ข้าขอรับเจตนาที่ดีของท่าน” หลี่ฉีเย่กล่าวพลางยิ้ม “ ทว่าข้าไม่ใช่พวกชอบถอย ไม่ว่าศัตรูจะแข็งแกร่งแค่ไหน ข้าก็ล้วนแข็งแกร่งกว่า หากมีคนต้องการจะสร้างปัญหาเช่นนั้นก็ให้พวกมันมา ข้าไม่หนีข้าจะอยู่ที่นี่ รอคอย...ผู้ชนะยังไม่ได้ถูกตัดสิน ! “
บรรพชนทำได้เพียงได้ถอนหายใจในใจของตน เขาไม่กล้าที่จะชักชวนหลี่ฉีเย่ต่อหลังจากได้ยินคำกล่าว
แต่อย่างนั้นปัญหาก็เริ่มมาเมื่อพูดถึงปัญหา หลังจากบรรพชนกลับไป ปัญหาก็เข้ามาทันที ศิษย์จากตระกูลไป่หลานยืนอยู่ด้านนอกอาคารและประกาศว่า พวกเขาต้องการจะพบกับหลี่ฉีเย่
“นายน้อยศิษย์จากตระกูลไป่หลาน น้องชายของเทพปรุงยาผมขาวต้องการพบท่าน เขามีตราประทับของพี่ชายของเขา” นายหญิงแจ้งกับหลี่ฉีเย่
“ ตราของเทพปรุงยาผมขาว ? นั้นมันคือของบัดซบอะไรกัน ?” หลี่ฉีเย่หัวเราะออกมาอย่างช่วยไม่ได้
นายหญิงอธิบาย “ แม้ว่านักปรุงยาผมขาวจะเป็นส่วนหนึ่งของรุ่นเยาว์ เขาก็มีสถานะอย่างมากในโลกสมุนไพรหิน จนกระทั่งมีตราเป็นของตนเอง การเห็นตรานี้ยอมหมายถึงการพบเจอเขาด้วย ”
หลี่ฉีเย่อมยิ้มเอ่ย " เห็นตราเหมือนกับเห็นคน ? ช่างหยิ่งยโสจริงๆ "
นายหญิงกล่าวต่อ “ในโลกนี้ ผู้คนมากมายที่มาจากยุคก่อน รวมถึงบรรพชนจากขุมอำนาจต้องการสมุนไพรชีวิตของเขา ดังนั้นตราของเขาค่อนข้างมีอิทธิพลมากทีเดียว ”
“ เขาก็แค่นักปรุงยา แม้แต่ตราของนักปรุงยาจักรพรรดิมันก็แค่เศษเหล็กในสายตาของข้า ไล่เขาให้ไปซะ” หลี่ฉีเย่ยิ้ม โบกแขนเสื้อไปมาอย่างไม่ใส่ใจ สำหรับเขาตราของนักปรุงยาผมขาวไม่มีค่าอะไร เมื่อในสมัยอดีตตราเหล็กของเขาเป็นเหมือนคำสั่งให้กับทั้งเก้าโลก !
“ หลี่ฉีเย่ พี่ชายข้าว่า ถ้าเจ้าไม่ตอบคำถามตระกูลไป่หลาน ที่ยืนของเจ้าในโลกสมุนไพรหินก็จะไม่มีอีกต่อไป ” หลังจากถูกปฏิเสธ ศิษย์ของไป่หลานกระทืบเท้าด้วยความโกรธ
หลายปีต่อหลายปีที่นักปรุงยาจากตระกูลเป็นแขกอันทรงเกียรติสำหรับทุกๆ นิกาย ไม่ว่าใครก็ฝันจะได้เป็นนักปรุงยาที่ได้รับเชิญเป็นแขกในนิกาย ไม่ต้องพูดถึงเขาที่ถือตราของพี่ชายด้วยซ้ำ
ดังนั้นหลังจากถูกปฏิเสธจากการให้เข้าเยี่ยม เขายืนอยู่ด้านนอกและขู่
“ ไม่มีที่ในโลกสมุนไพรหินให้ข้า ? หลี่ฉีเย่... ?” ในขณะที่ศิษย์กำลังระบายความเกรี้ยวกราดอยู่ด้านนอก ก็ได้ยินเสียงที่ไม่ทุกข์ร้อนอะไรจากภายใน หลี่ฉีเย่ทันใดนั้นก็เดินออกมา !
ศิษย์ตรงหน้าเชิดอกและกล่าวอย่างเย่อหยิ่ง “ใช่แล้วละ ดูเหมือนว่าเจ้าจะฉลาด ถ้าเจ้าไม่ออกมา ก็อย่าคิดไปเลยว่า จะมาเสนอหน้าในโลกนี้ได้อีก” หลังจากเห็นหลี่ฉีเย่ ศิษย์คนนั้นก็คิดกันว่าหลี่ฉีเย่หวาดกลัวพวกเขา ทำให้เขาค่อนข้างพอใจนัก
“ เมื่อเจ้ากล่าวเช่นนั้น มันทำให้ข้าหวาดกลัวจริงๆ.. ” หลี่ฉีเย่กล่าวพร้อมรอยยิ้ม “เอาละถ้าใครเข้ามาจะได้รับการต้อนรับเยี่ยงแขก ข้าควรจะฟังพวกเจ้าบ้าง ในเมื่อมาเจ้าแบกตราของเทพนักปรุงยาผมขาวให้ข้าดู เจ้ามีธุระอะไรกัน ? ”
ผู้ฝึกตนคนหนึ่ง กล่าวด้วยอารมณ์โกรธ “ ที่คหาสร์ของรากบรรพชน เจ้าได้สังหารนักปรุงยามือปีศาจ ดังนั้นพี่ใหญ่ของข้าจึงอยากให้ท่านชดใช้และให้คำตอบแก่เรา ไม่เช่นนั้น - ”
“ไม่เช่นนั้น ? ไม่มี ไม่เช่นนั้น? ” หลี่ฉีเย่ขัดขวางอย่างจงใจและยิ้มอย่างสนุกสนาน “ อันที่จริง ข้าก็มีบางอย่างจะบอกกับพี่ใหญ่ของเจ้าเช่นกัน ”
“อะไร ? ” ศิษย์คนนั้นกล่าวอย่างภาคภูมิ “ เจ้าควรจะไปพบพี่ชายใหญ่และพูดมันออกมาสิ ! ”
หลี่ฉีเย่พูดอย่างสบายๆ “ ก็แค่ง่ายๆ บอกเขาว่าให้ไสหัวไปไกลๆจากข้าเท่าที่จะทำได้ หนีไปให้ไกลสุดขอบโลก ไม่เช่นนั้น ถ้ากล้ามาขว้างทางข้าอีก ข้าจะบดขยี้เขาซะ ! ”
“ นี้เรียกไม่รู้จักที่ตาย ! ” การแสดงออกของศิษย์คนนั้นเปลี่ยนไป เขาเริ่มจริงจังจะส่งคำขู่ “ เจ้าเด็กโง่ เจ้าไม่รู้รึไงว่าพี่ใหญ่ของข้าไม่ต้องทำอะไรมากเลยหากต้องการฆ่าเด็กน้อยเช่นเจ้า ? เพียงคำสั่งเดียวคนนับไม่ถ้วนก็จะมาเด็ดหัว..”
“ ผลั๊ก ! ” ก่อนที่ศิษย์คนนั้นก็พูดจบ หลี่ฉีเย่ก็เตะเขาปลิวออกไป !
เพียงพริบตาศิษย์คนั้นลอยผ่านท้องฟ้าเหมือนดาวตกและหายไป
หลังจากเตะเขาไปไกลตา หลี่ฉีเย่ก็ลูบฝ่ามือของตนอย่างอ่อนโยนก่อนจะพูดต่อ “ในที่สุดก็เงียบสักที ”
หยวนไฉ่เหอที่ ยืนดูเหตุการณ์ข้างๆมาตลอด จึงออกปากเตือน “ พี่ใหญ่ ท่านควรจะระวังนักปรุงยาผมขาวเอาไว้ ภายในพวกเราสี่คน เขาเป็นคนที่มีอิทธิพลมากที่สุด แค่เพียงเขาต้องการ ผู้เชี่ยวชาญมากมายจากรุ่นก่อนรวมถึงบรรพชนและตัวตนนิรันดร์ยินดีจะลงมือ ”
“ หรือจะพูดง่ายๆ ก็คือในโลกสมุนไพรหินแห่งนี่ การทำให้นักปรุงยาผมขาวโกรธก็เหมือนกับตีผึ้งให้แตกรัง ถ้าเขาต้องการให้ใครตาย พวกคนที่มีอำนาจจะดีใจมากหากนำหัวของคนๆนั้นไปให้เขาได้ ”
“ ให้พวกมันมา ยิ่งคนมาขึ้นก็ยิ่งน่าตื่นเต้นมากขึ้นเท่านั้น ที่ดินนี้ขาดแต่เพียงเลือดที่ทำให้ชุ่มโชกเท่านั้นละ” หลี่ฉีเย่
กล่าวด้วยรอยยิ้ม “ อย่างนี้สนุกกว่าอีก ฆ่าคนเดียวหรือสองคนจะไปสนุกอะไรกัน สังหารนับพันล้วนน่าสนใจยิ่งกว่า ”
คำพูดของเขาทำให้นายหญิงฉีเหยียนพูดไม่ออก นางได้กลิ่นเลือดมาจากสิ่งที่เขาเล่าจนทำให้ตกใจ ราวกับนางได้เห็นภาพแม่นั้เลือดขนาดใหญ่
“ ปัง !” ทันทีที่นักปรุงยาผมขาวเห็นร่างที่กำลังจะตายของศิษย์ที่กลับมา เขาตบโต๊ะเสียงดัง ด้วยสีหน้าน่าเกลียด
ศิษย์ที่ถูกหลี่ฉีเย่เตะเกือบจะตาย ถ้าหากศิษย์คนอื่นไม่พาเขากลับมา ป่านนี้ศพคงหายไปในป่าแล้ว
“ เจ้าหลี่ฉีเย่นี้มันจะมาเกินไปแล้ว ! ” นักปรุงยาใส่อารมณ์อย่างควบคุมไม่ได้ แม้แต่ตัวตนนิรันดร์ยังต้องเกรงใจเขา ไม่ต้องเอ่ยถึงหลี่ฉีเย่
“พี่ใหญ่ ท่าน ท่านต้องแก้แค้นให้ข้า เจ้าหลี่ฉีเย่ต้องได้รับโทษตายเป็นพันๆครั้ง ! ” ศิษย์คนนั้นร้องอย่างไม่เป็นภาษา เขาอยากจะลุกขึ้นยืนแต่ก็ทำไม่ได้
ดวงตาของนักปรุงยาเผยแววอาฆาต เขากล่าวว่า “พักให้สบายเถอะ ข้าจะแก้แค้นให้เจ้าเอง”
หลังจากผู้ฝึกตนถูกพาตัวไปรักษา นักปรุงยาก็นั่งลงบนเก้าอี้ของเขาและเอ่ยด้วยน้ำเสียงเย็นชา “ ส่งข่าวออกไป บอกให้เจ้าหลี่ฉีเย่มาคุกเข่าที่หน้าประตูของข้าก่อนรุ่งสาง ไม่เช่นนั้นข้าจะฉีกร่างของเขาเป็นชิ้นๆ ต่อหน้าทุกคน ! ”
คำสั่งของเขากระจายไปทั่วทั้งเมือง พายุโหมปั่นป่วน ไม่มีผู้ใดตอบได้ถึงความสามารถของเขา หากเขาประสงค์สิ่งใด ผู้คนมากมายจนไม่สามารถนับได้ นั้นสมัครใจไปล่าหัวของหลี่ฉีเย่ให้เขาโดยทันที
แต่แล้วบางคนก็พูดขึ้นมาอย่างยินดีหลังได้ทราบข่าว “ เจ้าหลี่ฉีเย่นั้น โชคร้ายที่ไปแหย่นักปรุงยาผมขาว เพียงแค่รอ กลุ่มชายชรากำลังจะออกมากันแล้ว”
อีกคนที่กำลังเคลื่อนไหวอยู่ก็กล่าว: “ ทำให้นักปรุงยาผมขาวโกรธได้นี้ ไม่ฉลาดนัก ทำไมหลี่ฉีเย่จึงจองหองขนาดนี้? มีคนไม่มากที่จะเป็นศัตรูกับนักปรุงยาผมขาวในโลกนี้ ”
เที่ยยี่ได้ยินความต้องการของนักปรุงยาและกลับไปแจ้งต่อหลี่ฉีเย่หลังจากได้ยิน หลี่ฉีเย่ไม่ได้โกรธอะไร เขาได้แต่ยิ้มและกล่าว “ ให้พวกมันมา ข้าจะรอ ”
ทว่าหลี่ฉีเย่ก็ไม่ได้รอนานนัก ในวันเดียวกันนั้นเอง พลังงานในเลือดที่แข็งแกร่งวิ่งผ่านฟากฟ้าประหนึ่งเชื่อมต่อกับเส้นขอบฟ้า
พลังงานเลือดมีพลังแข็งแกร่งมากและเดินทางด้วยความเร็วที่น่ากลัว สามารถข้ามเมืองปรุงยาและไปยังภูเขาของหลี่ฉีเย่ได้ในทันที
“ใครกันที่จะมีแรงกดดันที่รุนแรงเช่นนี้ ?!” พลังงานในสายเลือดพุ่งผ่านเมืองหลังจากทำให้ผู้คนตื่นตระนก
ทุกคนต่างก็ทราบดีกว่าเมืองปรุงยาคือสถานที่ที่มีเสือหมอบและมังกรที่ซ่อนตัวอยู่ ในดินแดนนี้ ไม่ต้องพูดถึงชนชั้นสูงในอาณาจักร ทั้งยังแมลงพิษมากมายที่ซ่อนตัวในถ้ำและหนองน้ำ
ผู้เชี่ยวชาญมากมาย รวมถึงบรรพชนจากขุมอำนาจ พวกเขาล้วนไม่แสดงตัวมากและทำตัวให้อยู่ในระดับต่ำ แต่ตอนนี้พลังงานในสายเลือดระเบิดออกมาในพริบตา ทำให้รู้ว่ามีขุมอำนาจมากมายอยู่อย่างแท้จริง
เจ้าของของพลังงานในสายเลือดที่อยู่บนฟ้าบินด้วยความเร็ว เป็นชายหนุ่มที่ไม่ได้เพียงแต่ไม่ใส่ใจที่จะหลบซ่อนพลังของเขา หรืออาจจะพูดได้ว่าเขาต้องการระเบิดพลังอออกมา ปกคลุมรอบตัวเหมือนกับสร้างโลกของตัวเองขึ้นมา !
ชั้นของดวงดาราโผล่ออกมาจากร่างกายของเขาราวกับเป็นโล่นภาที่ปกป้องเขา ภายใต้ความสว่างของมันชายหนุ่มคนนี้คล้ายกับเทพที่ลงมาจากชั้นฟ้าและลงมายังโลกมนุษย์ ข้อแตกต่างเพียงอย่างเดียวคือเขาไม่ได้ใช้หอกต่อสู้ !
ชายหนุ่มที่หยิ่งยโสและปลดปล่อยพลังงานปกคลุมทั่วทั้่งเมืองนักปรุงยานั้นหาได้ยาก ไม่ว่าจะเป็นอัจฉริยะคนใดก็ตามที่นี่คือเมืองนักปรุงยา !