ตอนที่ 745 นายน้อยเป่ยหยู่

หลายต่อหลายคนในเมืองเห็นชายผู้นี้ ลอยผ่านไปในฟากฟ้า พวกเขาทันใดนั้นก็นึกออกว่าเป็นใครก่อนจะตะโกนออกมา “ นายน้อย เป่ยหยู่ ! ”

นายน้อยเป่ยหยู่เป็นราวกับชื่อของสายฟ้าฟาดโดยเฉพาะในเขตปรุงยานี้ บางคนถึงกับเรียกเขาว่านกอมตะหรือนายน้อยผู้ฆ่าไม่ตาย ไม่ว่าจะมีฉายาใด ทุกคนก็ทราบกันดีถึงข้อหนึ่งว่าเขาผู้นี่เป็นบุคคลที่ฆ่าไม่ตาย !

นายน้อยเป่ยหยู่เป็นศิษย์หลักของนิกายผลึกมณีทะเล เชื้อสายของจักรพรรดิที่สร้างโดยจักรพรรดิอมตะจิ๋งหยู่ ในปัจจุบันนี้นิกายนี้ก็ยังคงเป็นนิกายที่มีพลังที่แข็งแกร่ง

จักรพรรดิอมตะจิ๋งหยู่ แม้ไม่ได้รับการขนานนามว่าเป็นจักรพรรดิที่ฉลาดที่สุดก็จริง ก็เขาได้สร้างทักษะเจตจำนงแห่งสวรรค์ที่แสนจะเหลือเชื่อขึ้นมา มีบางคนได้กล่าวไว้ว่าทักษะลับนี้เป็นทักษะเจตจำนงแห่งสวรรค์ที่ฝึกได้ยากมากที่สุดในโลก

ชื่อของทักษะเจตจำนงแห่งสวรรค์นั่นก็คือ “กายาผลึกเจตจำนงแห่งสวรรค์” หรือรู้จักกันในนามว่าเป็นทักษะป้องกันที่แข็งแกร่งมากที่สุดในโลก

เมื่อบ่มเพาะกายานี้ ผู้ใช้จะสามารถเมินเฉยต่อการโจมตีได้ไม่ว่าจะเป็นทักษะหรืออาวุธ หรือเว้นแม้แต่สัตว์มีพิษ และ เปลวเพลิงที่แข็งแกร่ง...

กล่าวสั้นก็คือ กายานี้จะทำให้ผู้ใช้ไม่ได้รับอันตรายใดๆ นี้่ทำให้ทักษะลับนี้เป็นสุดยอดทักษะ !


ทว่านอกเหนือจากข้อห้ามต่างๆทักษะนี้ยังมีเวลาที่จำกัด ถึงอย่างนั้นมันก้ยังถูกพิจรณาว่าเป็นการป้องกันที่มีประสิทธิภาพมากที่สุด !

กว่าล้านปีตั้งแต่การก่อตั้งนิกายผลึกมณีทะเลขึ้น ผู้ที่สามารถฝึกเกราะนี้ได้ มีเพียงหนึ่งหรือสองคนคนจากแต่ละยุคเท่านั้น และนอกจากนั้นมีเพียงอัจฉริยะที่สามารถยังคงเกราะนี้ไว้ได้ดีก็แค่ประมาณหนึ่งชั่วโมงเท่านั้น


ตำนานกล่าวว่านอกจากจักรพรรดิอมตะจิ๋งหยู่ ผู้ที่แข็งแกร่งเป็นอันดับสองในประวัติศาสตร์ของนิกายสามารถคงกายานี้ได้เป็นเวลาเก้าวันเก้าคือเมื่อเทียบกับรุ่นของจักรพรรดิอมตะ

ในระหว่างที่กำลังใช้กายานี้ เขาสามารถที่จะทนการโจมตีจากจักรพรรดิอมตะได้เป็นเวลานานเก้าวันเก้าคืนก่อนจะสูญเสียพลังไป

แต่คนรุ่นหลังก็ไม่ทราบอยู่ดีว่า เรื่องที่กล่าวขานมาเป็นเรื่องจริงหรือไม่ แต่ทุกคนล้วนทราบถึงอำนาจของมันไปทั่ว

ในรุ่นปัจจุบัน ถึงนายน้อยเป่ยหยู่จะไม่สามารถที่จะเทียบได้กับยอดอัจฉริยะอย่าง เย่ฉงเฉิน ในเรื่องของพรสวรรค์ ชื่อเสียงหรือพละกำลัง แต่ก็ยังบกพร่องเมื่อเทียบกับจักรพรรดิเขตแดนเหม่ยโอนานที่ค่อนข้างเป็นปริศนาและไม่สามารถเทียบได้กับ หมิง เย่เสวีย บางทีในเรื่องของการพลังเขาอาจจะอ่อนแอกว่า ลูกสาวของตระกูลเจี้ยน เจี้ยนหวู่ซ่วง

แต่ก็ไม่มีใครในโลกที่จะสามารถล้มเขาได้ แม้แต่บรรพชนเที่ยงธรรมที่เคยพยายามมาก่อนหน้านี้ ก็ยังล้มเขาไม่ได้ ! ทักษะลับของนายน้อยเป่ยหยู่สามารถทนได้แม้แต่การโจมตีของสมบัติจักรพรรดิอมตะระดับชีวิต !

แม้ว่าจะถามใครก็ตามบนโลกใบนี้ ก็คงจะได้รับคำตอบเช่นเดิม นอกจากกายายอดเพชร - หนึ่งในสิบสองกายาอมตะที่ไม่สามารถทำลายได้ มีเพียงแค่ทักษะกายานี้ที่ทำให้ร่างกายของผู้คนต่อต้านการโจมตีทุกอย่าง !

ข่าวลือยังว่าไว้อีกว่ากายาของนายน้อยไม่ได้อ่อนแอกว่าคนที่ฝึกตนกายานี้ของนิกายในอดีต ว่ากันว่าเขาสามารถอยู่ได้ถึงหกวันหกคืน !

แม้ว่จะไม่มีใครลองพิสูจน์ก็ตามว่าเป็นจริงหรือไม่ แต่เย่ฉงเฉินก็เคยกล่าวไว้ว่า “ หากนายน้อยเป่ยหยู่เปิดใช้กายาผลึเจตจำนงแห่งสวรรค์ แม้แต่ตัวข้าก็ไม่สามารถทำลายได้ ”

เย่ฉิงเฉินเป็นผู้ที่ทรงพรสวรรค์และมีความสามารถที่สุดในโลกใบนี้ หากเขากล่าวออกมาเช่นนี้ ผู้คนสามารถจินตนาการได้เลยว่ากายานี้แข็งแกร่งแค่ไหน

ด้วยเหตุนี้ นายน้อยจึงได้ฉายาว่านกอมตะ แม้ว่าเขาจะไม่สามารถล้มเจ้าได้แต่เจ้าก็ฆ่าเขาไม่ได้เช่นกัน และไม่มีใครฆ่าเขาได้ !

แต่กระนั้น ความจริงที่ว่านายน้อยไม่สามารถที่จะต่อกรกับ เย่ฉิงเฉินและเหม่ยโอนานเพื่อเจตจำนงแห่งสวรรค์ในรุ่นนี้และไม่มีโอกาสเป็นจักรพรรดิอมตะ แต่นิกายมณีทะเลก็ยังมีความหวังกับเขามากที่จะสามารถต่อสู้ได้กับคนใดคนหนึ่งที่ว่ามา

ในอดีตมีผู้ใช้กายานี้สามารถคงสภาพมันไว้ได้ถึงเก้าวันเก้าคืน นายน้อยในอายุเท่านี้ สามารถใช้เกราะได้ถึงหกวันหกคืน ศักยภาพของเขาจึงไม่ใช่เรื่องล้ออเล่น

ในตำนานจักรพรรดิได้เปิดใช้ทักษะนี้ เขาสามารถคงสภาพไว้ได้ถึงหนึ่งร้อยปี ! ในสายตาของผู้อาวุโส แม้ว่านายน้อย เป่ยหยู่อาจจะยังฝีมือไม่ถึงขั้นแต่ยังมีโอกาสที่เขาจะสามารถคงไว้ได้ในระยะเวลาสิบปี

สิบปีที่ไม่มีใครฆ่าเขาได้ – จะน่ากลัวขนาดไหนกัน ? หากไม่มีใครโจมตีเขาได้เขาจะกลายเป็นอมตะ !

“ คนรุ่นเยาว์จะฝีมือรุดหน้ากว่าเราในเวลาไม่นาน ” ผู้อาวุโสบางคนกล่าวอย่างภูมิใจเมื่อได้เห็นความก้าวหน้าของนายน้อย

ในจุดนี้ พลังงานในสายเลือดของนายน้อยได้ปล่อยออกมาอย่างไม่มีข้อจำกัด พลังงานเลือดของเก่าไม่เพียงแต่จะตระหง่านแต่ยังมีความแข็งแกร่งมาก ราวกับแต่ละหยดเลือดนั้นมีชีวิตยืนยาว

แม้ว่าผู้เชี่ยวชาญมากมายจะมีพลังงานในสายเลือดกว้างใหญ่เทียบได้ดั่งทะเล แต่ก็แค่ทะเลกว้างใหญ่เท่านั้น ไม่ได้เป็นทะเลเลือดที่แท้จริง

พลังงานเลือดของนายน้อยเป็นพลังงานเลือดที่แท้จริง เลือดแต่ละหยดของเขาแข็งแกร่งและหนักแน่น


ผลจากการมมีพลังงานในสายเลือดระดับดังกล่าวมาจากการรวมสองมุมมองเข้าไว้ด้วยกัน ข้อหนึ่งคืออายุที่น้อยสำหรับการฝึกฝน การมีอายุน้อยเป็นทรัพย์ที่ดีที่สุด เพราะผู้ที่มีอายุน้อยย่อมมีอายุที่ยาวนาน ดังนั้นจึงเติมไปด้วยพลังงานในสายเลือด

ข้อสองคือการกำราบการลดลงของชีวิต มีเพียงการข้ามผ่านความทุกข์ทรมานนี้จะเป็นปรมจารย์ที่แท้จริง

การก้าวข้ามการลดลงของชีวิตแบ่งเป็นสองครั้ง หนึ่งคือก่อนระดับราชันเทพสวรรค์ การลดลงของชีวิตนี้อยู่ในระดับที่ทำให้ถึงตาย มันอาจจะไม่ใช่หายนะที่ยิ่งใหญ่แต่หากอ่อนแอ พวกเขาก็จะตาย

อีกรอบคือตอนที่อยูในระดับราชันเทพสวรรค์ ไม่ว่าผู้ฝึกตนจะอายุน้อยแค่ไหน ถ้าต้องการจะทะลวงผ่านระดับนี้ จะต้องพบกับการลดลงของชีวิต ถ้าผ่านมันไปไม่ได้พวกเขาก็จะตาย

ด้วยอายุเท่านั้นก็ผ่านการลดลงของชีวิตมาแล้ว ก็เหมือนจะเกิดใหม่มาก็เพื่อฝึกตน ทำให้พลังชีวิตและพลังงานในสายเลือดเต็มไปด้วยชีวิตราวกับแสงแดดที่ส่องลงมา

ในการที่จะเป็นราชันชีวิตและข้ามผ่านการลดลงของชีวิตในอายุเท่านี้...แม้นายน้อยเป่ยหยู่จะด้อยกว่าเย่ฉิงเฉินและเหม่ยนโอนาน เขาก็สมควรจะภาคภูมิใจ

บางคนสังเกตได้ในทันทีในที่ที่นายน้อยกำลังมุ่งหน้าไปยังที่พักของหลี่ฉีเย่และกล่าว “ สถานที่นั้น ไม่ใช่ที่ที่ของเจ้าสารเลวน้อยหลี่ฉีเย่หรอกรึ ?”

“นายน้อยเป่ยหยู่อยากจะจัดการหลี่ฉีเย่ตั้งแต่ที่เขาสร้างปัญหาให้กับนิกายผลึกมณีทะเล สิ่งที่ทำไว้กับเซียนนักปรุงยาและยังคนทั้งหมดที่ตายอยู่ที่เขาแอลป์ เป็นเหตุการณ์ที่นายน้อยโทษหลี่ฉีเย่กับความผิดนี้ไว้เพียงคนเดียว” บางคนเดา

ผู้มีตำแหน่งสูงมากมายถูกสังหารที่ภูเขาแอลป์ แต่ถึงอย่างนั้นคนนอกที่ไม่เห็นเหตุการณ์กลับไม่เชื่อว่าจะเป็นฝีมือของหลี่ฉีเย่ที่ฆ่าล้างบางคนจากนิกายผลึกมณีทะเลและหุบเขา คำอธิบายเดียวก็คือบิดาแห่งต้นไม้ให้เขายืมมือ

“ ก็อาจจะไม่ใช่ บางทีนายน้อยอาจจะมาเพื่อตามหาท่านเทพธิดาหยวน ” บางคนคาดเดา

จริงๆแล้วเรื่องที่นายน้อยชอบเทพธิดาหยวนไม่ใช่ความลับทีเดียว นั้นก็เพราะไม่นานมานี้เขาได้สารภาพรักกับนางต่อหน้าสาธารณะทว่านางนั้นปฏิเสธ ภายหลังต่อมาเขาก็ไล่ตามนางจนไปถึงสวนแห่งความเงียบ นางก็ไม่ได้อยากพบเขาเพราะงั้นเขาจึงสร้างความน่าปวดหัวให้กับสวนแห่งความเงียบไปไม่น้อย

กระทั่งทำให้ผู้นำของสวนแห่งความเงียบออกมาด้วยตนเอง จากนั้นบุคคลสำคัญแห่งนิกายผลึกมณีทะเลต้องถึงกับมากล่าวขอโทษและยุติพายุนี้ให้เบาลงชั่วคราว

นายน้อยไปจนถึงเขาของหลี่ฉีเย่ด้วยพลังงานเลือดที่ยังระเบิดอยู่ภายนอก ในฐานะราชันชีวิตที่ก้าวข้ามผ่านการลดลงของชีวิต พลังงานเลือดที่ทรงพลังมากของเขามีพลังที่จะสามารถแม้แต่ทำให้ภูเขาทั้งลูกสั่น

เป็นเรื่องยากที่กลุ่มของหลี่ฉีเย่จะไม่สังเกต ด้วยพลังที่เปล่งออกมาของเขาช่างรุนแรงนัก

“นายน้อยเป่ยหยู่...” นายหญิงผู้เป็นราชันสวรรค์เช่นกันเปลี่ยนอารมณ์ของนางไปหลังจากได้เห็นนายน้อยค่อยๆ ลงมาจากฟ้า ที่นางกลัวไม่ใช่เพราะเขาได้เป็นราชันชีวิตแต่เขามีกายาผลึกเจตจำนงแห่งสวรรค์ !

สำหรับหลี่ฉีเย่ ก็ยังทำตัวสบายๆ เหมือนเดิม เขาก็แค่เหลือบมองอย่างไม่สนใจ

“ ศิษย์น้องหยวน ไม่เจอกันนาน ” สายตาของนายน้อยมองไปยังหยวนไฉ่เหอ จนไม่สามารถที่จะมองไปทางอื่นได้ ในสายตาของเขามีเพียงแค่หยวนไฉ่เหอเท่านั้น คนอื่นไม่สำคัญ

แม้ว่าจะมาจากคนละนิกายก็ตาม แต่ทั้งสองก็เป็นนักฝึกตน เพราะฉะนั้นเขาจึงยกตัวเองเป็นพี่ชายใหญ่ของนาง เพื่อที่จะได้ใกล้ชิดกับหยวนไฉ่เหอมากขึ้น

“ ศิษย์พี่เป่ยหยู่ ไม่เจอกันนาน ” หยวนไฉ่เหอได้แต่พยักหน้าอย่างอ่อนโยนและทำตัวออกห่าง ปกติแล้วนางจะเป็นคนเงียบและไม่ค่อยจะสุงสิงกับใคร แต่ถึงอย่างนั้น นายน้อยก็ยังไปสร้างเรื่องไว้ที่สวนแห่งความเงียบและเกือบจะเป็นสาเหตุที่สองนิกายต่อสู้กัน เพราะงั้นเป็นธรรมดาที่หยวนไฉ่เหอจะไม่ชอบเขา

“ ศิษย์น้องหยวน ช่วงหลังมานี่ สายลมดูแปลกชอบกล ช่างดูอันตรายและไม่สามารถที่จะคาดเดาได้” นายน้อยเป่ยหยู่จ้องมองนางและกล่าว “ข้ากังวลเกี่ยวกับความปลอดภัยของเจ้า เอาเป็นเจ้าไปเมืองนักปรุงยากับข้าเป็นอย่างไร ? ข้าจะรับรอบความปลอดภัยระหว่างเดินเกิดความไม่สงบเหล่นี้ ”

“ ศิษย์พี่เป่ยหยู่ไม่จำเป็นต้องห่วง ” หยวนไฉ่เหอส่ายหน้า และตอบกลับ “ ข้ารู้สึกปลอดภัยอย่างมากเมื่ออยู่กับพี่ใหญ่หลี่ ! ”

สิ้นคำ หลังจากที่ได้ยินสายตาของเป่ยหยู่ก็เย็นชาขึ้นทันทีและมองไปยังหลี่ฉีเย่ นัยน์ตาของเขาดูดุดันและดูเหมือนจะหาเหยื่อ

” เช่นนั้นเจ้าคือหลี่ฉีเย่ ? “ สายตาของเป่ยหยู่กลายเป็นเย็นชาพร้อมกับปล่อยจิตสังหาร

ในจุดนี้ผู้คนมากมายพุ่งมาดูเรื่องสนุกที่เกิดขึ้นจากระยะไกล แม้ว่าจะอยู่ไกลมากจากเป่ยหยู่แต่ก็ยังสัมผัสได้ถึงความกระหายเลือดของเขา

อันที่จริง เขาไม่ได้ปกปิดเจตนาฆ่าอันแรงกล้านี้ด้วยซ้ำ...