ตอนที่ 747 กายาผลึกเจตจำนงสวรรค์

ผู้ฝึกตนที่อยู่ในระยะไกลต่างก็เครียดและรู้สึกหวาดกลัวหลังจากนายน้อยเป่ยหยู่เปิดใช้กายาผลึกของเขา

“ กายาผลึกเจตจำนงสวรรค์ ม่านป้องกันที่แข็งแกร่งที่สุดในโลกนี้ โดยไม่มีพลังใดจะสามารถเจาะเข้าไปได้” ผู้ฝึกตนอาวุโสอดไม่ได้ที่จะพึมพำอย่างอิจฉา

ไม่ว่าจะเป็นนิกายหรือผู้ฝึกตนคนใดที่มีความต้องการที่จะฝึกทักษะนี้่ ทักษะที่ทำให้ไม่มีใครเตะต้องได้ – จะมีอะไรใดๆในโลกที่ดีกว่านี้อีก ? ที่จะอนุญาตให้คนใช้งานคงยืนอยู่ได้อย่างไร้พ่าย และไม่มีซึ่งความหวาดกลัวใดๆต่อศัตรู แม้ว่าศัตรูจะแข็งแกร่งแค่ไหนก็ตาม

“ ข้าไม่คิดเลย ว่าจะมีโอกาสได้เป็นพยานเห็นวิชากายาผลึกด้วยตาของข้าเอง การมาครั้งนี้ไม่น่าผิดหวังแล้ว ! ” คนรุ่นเยาว์เกิดความตื่นเต้นอย่างเก็บไว้ไม่อยู่ ด้วยความละโมบที่อยากจะเห็นวิชากายาผลึกของนายน้อย

หลังจากใช้งานวิชานี้ นายน้อยได้มองไปยังหลี่ฉีเย่อย่างดูหมิ่น เขามั่นใจอย่างมากว่าเมื่อได้ใช้วิชานี้แล้ว จะไม่มีอะไรหยุดเขาได้อีกต่อไป และหากเขาต้องการจะไป ก็ไม่มีใครหยุดเขาได้เช่นกัน

“ หลี่ฉีเย่, ตาเจ้าแล้ว” ด้วยความยโส เขาดูถูกหลี่ฉีเย่จากด้านบนและกล่าววาจาเย้ยหยัน “ ถึงเจ้าจะฝึกวิชาที่ดีที่สุดในโลกใบนี้ เจ้าก็ยังไม่สามารถล้มข้าได้อยู่ดี”

“ ตู้มม ! ” หลังจากนายน้อยกล่าวจบ หลี่ฉีเย่ได้ปลดปล่อยพลังด้วยหมัดที่ทรงพลังของเขาและชกใส่นายน้อยด้วยความเร็วขั้นสุดยอด

ทว่านายน้อยก็ยังคงยืนอยู่อย่างนิ่งๆโดยไม่กลัวอันตราย แม้แต่สามกายาอมตะของหลี่ฉีเย่ก็ยังไม่สามารถทำลายการป้องกันของนายน้อยได้ !

ปราศจากบรรพชนเที่ยงธรรม แม้แต่ราชันปีศาจก็ยังไม่สามารถตรวจจับการโจมตีของหลี่ฉีเย่ได้ชัดเจนนัก แต่ถึงอย่างนั้นทุกคนก็รู้สึกถึงพลังที่บรรจุอยู่ในหมัดของเขา พลังที่ทำให้โลกสั่นสะเทือนอย่างรุนแรง ชัดเจนเลยว่า แทบจะไม่มีใครเลยที่จะสามารถทนหมัดที่ทรงพลังนั้นได้ !

แต่ถึงจะอย่างนั้น นายน้อยก็ยังยืนได้อยู่อย่างไม่สะทกสะท้าน ดังเช่นเขาเป็นเทพบรรพชนที่ไม่มีพลังใดจะยับยั้งได้

“ อะไรกัน เจ้ามีพลังแค่นี้เองรึ ? ” นายน้อยทันใดนั้นก็รู้สึกเหมือนกู้หน้าคืนมาได้หลังจากถูกหลี่ฉีเย่หยามไปก่อนหน้า ตอนนี้สถานการณ์เปลี่ยนไปแล้ว เขาต้องใช้ความพยามอย่างมากเพื่อให้หลี่ฉีเย่ชดใช้ความอับอายก่อนหน้า !

นายน้อยหัวเราะด้วยความภูมิใจและบอกหลี่ฉีเย่ “ แม้มดอย่างเจ้าจะมีพลังมากแค่ไหน เจ้าก็ไม่มีวันจะทำอันตรายข้าได้แม้แต่ปลายเส้นผมสักเส้น”

ไม่น่าแปลกใจเลยว่าทำไมเขาถึงเย่อหยิ่งเช่นนี้ เป็นเพราะว่าเขามีความมั่นใจอย่างมากในทักษะลับ เขาเคยใช้ต่อกรกับ เย่ฉงเฉินมาก่อน แม้ว่าเขาจะไม่ใช่ผู้แข่งของเย่ฉงเฉิน แต่เย่ฉงเฉินก็ไม่สามารถทำลายกายานี้และสร้างบาดแผลให้เขาได้

นายน้อยเป่ยหยู่เคยใช้กายาของเขาเพื่อต่อสู้กับบรรพชนเที่ยงธรรมแม้แต่พลังของบรรพชนเที่ยงธรรมก็ไม่สามารถที่จะทำอันตรายต่อเขาได้ ในสายตาของเขาไม่มีใครในโลกจะสามารถทำลายกายาผลึกเจตจำนงสวรรค์ได้เลย !

อันที่จริง เขาเองก็ไม่ใช่คนเดียวที่เชื่อ แม้แต่นิกายผลึกมณีทะเลและผู้ฝึกตนในโลกสมุนไพรหินต่างก็คิดเช่นนี้ !

“ตู้ม ! ” พลังทำลายอันหนักหน่วงจากหลี่ฉีเย่ กระทบเข้าที่ศีรษะของเขาหลังจากที่เขาพูดจบ พลังทำลายที่มีพลังที่จะทำลายได้แม้แต่ดวงดาว แต่เป่ยหยู่ก็ยังคงไม่เป็นอันตรายและไม่เคลื่อนไหวใดๆ

“ในโลกใบนี้ มีเพียงกายายอดเพชรขั้นสมบูรณ์ที่จะสามารถเทียบได้กับกายาผลึกเจตจำนงสวรรค์ได้” ผู้ยิ่งใหญ่กล่าวหลังจากเห็นพลังในการทำลายของหลี่ฉียี่ ที่ล้มเหลวในการทำให้นายน้อยเคลื่อนไหว ผู้คนที่ยังเหลืออยู่ได้แต่มีความหวังที่จะได้ฝึกวิชาลับแบบนี้และกลายเป็นคนที่ไม่มีวันแพ้พ่าย !

“เจ้าทำได้แค่นี้เองหรือ ? ” นายน้อยกล่าวดูถูก “ใช้อาวุธของเจ้าสิ ถ้าเจ้ามีสักอย่าง ต่อให้จะเป็นสมบัติของจักรพรรดิระดับชีวิตหรือสมบัติระดับแท้จริงก็ได้ เอาเลยใช้มันกับข้า ไม่เช่นนั้น ด้วยพลังของเจ้า ไม่ว่าจะทำร้ายข้าครั้งเดียวหรือหมื่นครั้ง ก็ไม่สามารถจะทำร้ายได้แม้แต่เส้นผมของข้า ถ้าเจ้าใช้ไข่ทุบทำลายก้อนหิน แม้แต่ไข่เป็นพันฟองก็ไม่สามารถทำอันตรายใดๆ ต่อหินได้ ! ” ในตอนนี้นายน้อยไม่ได้สนใจคุณธรรมอะไรนั้นแล้วด้วยสถานะและการดูถูกหลี่ฉีเย่อย่างก้าวร้าว เป็นเป้าหมายของเขาไปแล้ว

“ ถ้ามีใครสักคนฝึกฝนกายาผลึกก็น่าจะท้าทายสมบัติจักรพรรดิ เช่นเดียวกันนี้ได้” บางคนพึมพำออกมา

ทุกคนทราบดีว่า อาวุธจักรพรรดินั้นทรงพลังมากเกินไปกว่าที่ร่างกายธรรมดาจะต้านทานได้ แต่ถึงอย่างนั้นเป่ยหยู่ก็ไม่ได้หวาดกลัวสิ่งใด แถมยังท้าทายอาวุธประเภทนี้ แค่นี้ก็ทำให้ได้เห็นแล้วว่า เขามีความมั่นใจในกายาของเขาเป็นอย่างมาก

“ สมกับเป็นพลังของกายาผลึกเจตจำนงสวรรค์ ” หลี่ฉีเย่ไม่ได้แสดงให้เห็นถึงความโกรธจากการท้าทายของเป่ยหยู่แต่อย่างไร และพูดอย่างติดขี้เกียจว่า “ เป็นว่าเจ้าเปลี่ยนร่างมาจากมณีเหล็ก ไม่น่าสงสัยเลยว่าทำไมเจ้าสามารถฝึกวิชา กายาผลึกได้ถึงระดับนี้ น้อยคนนักที่จะสามารถทำมันได้นี้คงเป็นเพราะเจ้ามีข้อได้เปรียบตามธรรมชาติ ”

“หืม, แล้วไงล่ะ” เป่ยหยู่นิ่วหน้าและกล่าวอย่างภูมิใจว่า “ คุกเข่าขอร้องข้าเดี๋ยวนี้ ไม่เช่นนั้นข้าจะฉีกร่างของเจ้าเป็นชิ้นๆ ! ”

กลับกลายเป็นว่ารูปร่างที่แท้จริงของเป่ยหยู่ก็คือมณีเหล็กรูปร่างที่แท้จริงของเขาแทบจะใกล้เคียงกับจักรพรรดิอมตะ จิ๋งหยู่ด้วยจักรพรรดินี้เป็นหยกมณีที่หาได้ยากยิ่งที่กลายเป็นผู้รู้แจ้งแห่งเต๋า รูปร่างที่แท้จริงของอัญมณีเช่นนี้ค่อนข้างมีความคล้ายคลึงกัน อัญมณีนี้เป็นแร่ที่หาได้ยากมาก แต่อัญมณีปีศาจกลับหาได้ยากมากกว่านั้น

เพราะฉะนั้นนายน้อยจึงสามารถคงกายานี้ได้ถึงหกวันหกคืน

หลี่ฉีเย่ฉีกยิ้มและถาม " เจ้าคิดจริงๆหรือว่าข้าจะคุกเข่าอ้อนวอน ? ก็แค่กายาผลึกเจตจำนงสวรรค์ เจ้าคิดว่าตัวเจ้าจะไม่สามารล้มได้งั้นรึ ? ”

“ ก็ลองทดสอบดูว่าจริงหรือไม่ ” นายน้อยเป่ยหยู้ยิ้มอย่างไม่แยแสและดีดนิ้วที่ดูคล้ายกับดาวตกที่กำหลังผ่านท้องฟ้า มีประกายงดงามจนแทบทนไม่ได้

กายาผลึกเป็นกายาที่ไม่สามารถล้มได้ ช่วงเวลาที่เขาใช้อำนาจของกายานี้โจมตีแม้แต่ราชันชีวิตในระดับเดียวกันก็ยังหน้าซีด

หลี่ฉีเย่ไม่แม้แต่จะเอี้ยวตัวหลบ เขารวบรวมพลังไว้ที่หมัดด้วยความเร็วสูง ปะทะกับนิ้วดาวตกของนายน้อย

“ปัง ! ” เสียงแตกกระจาย ทำให้เกิดรูนาดใหญ่หลังจากพลังท้าทายสวรรค์ปะทะต่อกัน มันง่ายที่คาดเดาถึงพลังของทั้งสองฝ่าย

แม้แต่หลังของนายน้อยก็ไม่สามารถจะทำให้หลี่ฉีเย่ขยับได้ แต่หลี่ฉีเย่ก็ไม่สามารถทำอะไรเขาได้เช่นกัน

“ พื้นหลังของเจ้าหลี่ฉีเย่เป็นใครกัน ? ทำไมเขาถึงได้ทรงพลังเช่นนี้ !? ”ตัวตนจากรุ่นก่อนตกตะลึงจากภาพที่เห็น

ตั้งแต่แรกมาจนบัดนี้ ก็ยังไม่มีใครรู้ถึงสถานะของหลี่ฉีเย่และพืันหลังของเขา การโจมตีของเขาไม่ได้ใช้ทักษะหรือเทคนิคใดๆ

“เจ้าก็แค่พึ่งพากายาผลึกของเจ้าเท่านั้น ” หลี่ฉีเย่ส่ายหัวและยิ้ม “โชคร้ายที่เจ้ามาพบกับข้า พลังของกายาผลึกล้วนไร้ค่า ”

“ เจ้าเด็กปากดี” นายน้อยออกปากด้วยความโกรธ “ ถึงพลังกายาผลึกของข้าอาจจะไม่มีอะไรก็ตาม แต่ก็มากพอที่จะดูถูกโลกใบนี้ ไม่มีใดที่จะสามารถทำลายมันได้ตลอดยุค ! ”

นายน้อยเป่ยหยู่นั้นภูมิใจมากขึ้นหลังจากที่กล่าวออกไป คำพูดของเขานั้นเป็นเรื่องจริง ไม่มีใครที่สามารถที่จะทำลายกายานี้ได้ตลอดหลายปี ! พลังของมันทำให้เขากล้าท้าทายไม่ว่าฝ่ายตรงข้ามจะเป็นใคร

แม้ว่าอัจฉริยะหลายคนก่อนหน้ารวมถึงเย่ฉิงเฉิน นายน้อยก็ยังไม่หวาดกลัว แม้ว่าเขาจะไม่สามารถแข่งเจตจำนงแห่งสวรรค์กับเย่ฉิงเฉินได้ แต่เขาก็มั่นใจว่าเย่ฉิงเฉินทำลายกายาของเขาไม่ได้ !

“ไม่สามารถทำลายได้ ?” หลี่ฉีเย่ระเบิดหัวเราะออกมาอย่างช่วยไม่ได้หลังจากได้ยิน และประกาศก้อง “ ก็ดี ถ้าเจ้ามั่นใจขนาดนั้น ในวันนี้ ตัวข้าจะทำลายความมั่นใจนั้นเอง ให้ข้าได้ทำลายตำนาน บดขยี้กายาผลึกเจตจำนงแห่งสวรรค์ของเจ้าให้ดู ! ”

“ เพียงแค่เจ้า? ” นายน้อยชี้ไปยังหลี่ฉีเย่ก่อนหัวเราะอย่างคุมไม่ได้จนแทบน้ำตาซึม

“ทำลายกายาผลึกเจตจำนงสวรรค์งั้นรึ ? ฮ่าฮ่าฮ่า “ นายน้อยไม่อาจจะกดกลั้นไม่ให้หัวเราะได้ เป็นเรื่องตลกที่ดีที่สุดเท่าที่เขาได้ยินมาเลย

แต่หลี่ฉีเย่ก็ไม่ได้โกรธอะไรแถมยังยืนอย่างสบาย ๆ อีก รอให้นายน้อยได้หัวเราะเสร็จก่อน

“ ข้าก็ไม่เห็นว่าจะน่าขันตรงไหน ดูเหมือนว่ามาตรฐานความตลกของข้าจะสูงไปหน่อย” หลังจากนายน้อยขำเสร็จแล้ว หลี่ฉีเย่ก็แสดงความคิดเห็นอย่างใจเย็น

อันที่จริง หลังจากได้ยิน คนที่หัวเราะไม่ได้มีเพียงแต่นายน้อยเท่านั้นแต่ ผู้ฝึกตนมากมายก็หัวเราะออกมาด้วยเช่นกัน ผู้ฝึกตนอาวุโสได้แต่ส่ายหน้าและกล่าวยิ้ม ๆ “ ลูกวัวน้อยไม่ได้มีความเกรงกลัวต่อเสือใหญ่เลย บางทีหลี่ฉีเย่อาจจะไม่รู้ถึงความหมายที่แท้จริงของกายาผลึกก็ได้”

บางคนที่คำถึงกับขำจนศีรษะสั่นเทาเพราะช่างเป็นเรื่องที่ตลกที่สุดเท่าที่เคยได้ยินมาเลย หลี่ฉีเย่ช่างไม่รู้ข้อจำกัดของตน จะกี่ล้านปีผ่านไปก็ไม่เคยมีใครที่สามารถทำลายกายาผลึกได้ แล้วเจ้าเด็กน้อยหลี่ฉีเย่ ที่ประกาศออกมานั้นมันก็แค่ฝันกลางวัน

นายน้อยเลิกขำและชี้ไปยังหลี่ฉีเย่ด้วยความดูถูกและตะโกน “ เจ้ามันประเมินตัวเองสูงเกินไป เจ้าสารเลว ! " นายน้อยกล่าวอย่างสบาย " หลี่ฉีเย่เจ้ารู้หรือไม่ว่ามีกี่คนต้องการทำลายกายาผลึกของข้าในรุ่นนี้ ? เจ้ารู้หรือไม่ตัวตนแบบใดที่กล่าวเช่นนั้น "

" ขอรอฟังอยู่ จักรพรรดิอมตะคนใดต้องการจะทำลายกายาผลึกนั้น ? "

นายน้อยตอบอย่างภูมิใจ “กว่าหมื่นล้านปีมาแล้ว มีจักรพรรดิอมตะไม่ต่ำกว่าสิบคนที่ต้องการจะทำลายกายาผลึกเจตจำนงแห่งสวรรค์ ข้าจะไม่นำชื่อจักรพรรดิคนเก่ามา แต่ล่าสุดแม้แต่จักรพรรดิอมตะต้ากงและจักรพรรดิอมตะหยินเทียนก็ยังไม่สามารถทำได้ ! "