ท่านย่าสุดท้ายก็ถอนหายใจโดยไม่เอ่ยสิ่งใด เรื่องนี้ยากจะจัดการเพราะบรรพบุรุษตระกูลเซียนลงมือ นี้ไม่ใช่สิ่งที่นางจะควบคุมได้
หมิงเย่เสวี่ยเอ่ยถาม " ท่านบรรพชนคิดอย่างไร ? "
ท่านย่ายิ้มอย่างขมขื่นและเอ่ย " นายหญิง บรรพชนนั้นยังไม่เปิดเผยท่าที ความจริงข้าคิดว่าพวกเขาคิดว่านี้เป็นเรื่องเล็กน้อย ดังนั้นพวกเขาจึงไม่ต้องแสดงตัวเอง หลี่ฉีเย่เป็นเพียงผู้เยาว์พวกเขาจึงไม่ค่อยกังวล "
" นายน้อยหลี่อาจจะดูเป็นผู้เยาว์ " หมิงเย่เสวี่ยเอ่ย " ทว่าอายุนั้นไม่ได้บ่งบอกทุกสิ่ง นอกจากนี้เขายังพิเศษอย่างมาก ทุกคนที่ต่อต้านเขาจะหายไปในที่สุด "
" นายหญิงไม่ใช่ทุกคนจะคิดเหมือนท่าน " ท่านย่าไป๋เอ่ย " อาณาจักรของพวกเขามีรากฐานมาจากราชวงศ์ ไม่ต้องเอ่ยถึงพวกเรา ไม่มีใครในโลกนี้คิดว่าจะมีคนสั่นคลอนอาณาจักรได้ ! ทำไมบรรพชนถึงต้องมากังวลเรื่องเล็กน้อยนี้ด้วย ? สิ่งต่างได้รับการแก้ไขอย่างรวดเร็วโดยบรรพบุรุษตระกูลเซียน เมื่อเขาลงมือยังจะมีใครกล้าเข้ามายุ่งกับเรื่องนี้อีก ? "
หมิงเย่เสวี่ยเอ่ยด้วยน้ำเสียงนุ่มลึก " จะเกิดอะไรขึ้นหากบรรพบุรุษตระกูลเซียนตาย ? "
การแสดงออกของท่ายย่าไป๋เปลี่ยนไปและเอ่ย " นายหญิงนั้นเป็นไปไม่ได้ หลี่ฉีเย่อาจจะมีอำนาจมหาศาล แต่เขาก็ไม่มีทางกล้าฆ่าบรรพชนของพวกเขาในเมืองนักปรุงยา...แม้แต่ภูเขาแอลป์ก็ยังต้องคิดอย่างรอบคอบหากจะทำเรื่องนี้ ! "
" ท่านย่าเข้าใจผิดแล้ว ไม่มีอะไรที่นายน้อยหลี่ไม่กล้าทำ ท่านคิดจริงๆว่าเขาเห็นอาณาจักรของเราอยู่ในสายตา ? " หมิงเย่เสวี่ยกล่าวอย่างจริงจัง " คำกล่าวเหล่านี้อาจจะไม่น่าฟัง ทว่าเขาไม่เคยแยแสอาณาจักรของเรามาตั้งแต่แรก ! "
หัวใจของท่านย่าสั่นสะท้านเมื่อคิดถึงเรื่องที่หลี่ฉีเย่เคยทำมาก่อนหน้า ทุกสิ่งล้วนเป็นเจตนาของเขา ! มันดุเหมือนว่าเขาจะไม่เคยเห็นอาณาจักรอยู่ในแผนจริงๆ
ท่านย่าคิดอยู่ชั่วครู่ก่อนจะเอ่ย " หลี่ฉีเย่ควรจะรู้ว่าหากเขามีความสามารถในการฆ่าบรรพบุรุษตระกูลเซียนจริงๆ บรรพชนจากอาณาจักรของพวกเราจะไม่อยู่เฉย "
นางรู้สึกไร้ความหวังในขณะนี้ ทุกคนควรจะรู้ว่ายั่วยุอาณาจักรนั้นมีจุดจบที่ไม่ดี แต่นางไม่มั่นใจกับคนอย่างหลี่ฉีเย่
" เขาไม่เคยสนใจ " หมิงเย่เสวี่ยส่ายหน้าเอ่ย " ลองคิดดูบรรพชนศักดิ์สิทธิ์ตระกูลหวังฟุ่เป็นใครกัน ? จิ้งจากเฒ่าเช่นเขาล้วนอยากทำลายหลี่ฉีเย่หากเขาทำได้ เขาจะปล่อยให้สุดยอดทักษะมาถึงมือเราได้ยังไง ? ทำไมเขาถึงมาที่อาณาจักรเรา ? พวกเขาก็แค่ต้องการลากเราเข้าไปด้วย ! "
สายตาของหมิงเย่เสวี่ยกลายเป็นจริงจังและเอ่ย " หลี่ฉีเย่ฆ่าบรรพบุรุษตระกูลเซียนเป็นสิ่งที่บรรพชนศักดิ์สิทธิ์ต้องการ เมื่อเวลานั้นมาถึงอาณาจักรของเราก็จะจมไปในโคลนด้วย ไม่เพียงแต่ตระกูลหวังฟู่ แม้แต่เย่ฉิงเฉินและหุบเขากลืนสวรรค์ก็จะได้ประโยชน์ ตัวตนระดับพวกเขาไม่ต้องการอะไรมากกว่าอาณาจักรของเราเกิดสงคราม ! "
ท่านย่าเงียบ นี้เป็นการตัดสินใจของบรรพชน ในฐานะรุ่นเยาว์นางไม่ได้มีอธิพลใดๆต่อวพวกเขาเลย
หมิงเย่เสวี่ยเอ่ยต่อ " บรรพชนหวู่ซ่วงว่ายังไงบ้าง ? "
ท่านย่าเอ่ย " บรรพชนหวู่ซ่วงเห็นด้วยกับนายหญิง แต่นายหญิงควรจะรู้ว่ามันไม่ง่ายที่จะทำให้เขาไปพบกับผู้เยาว์ ผู้อาวุโสยังต้องการอีกหลายวันกว่าจะเปิดประตูออกมา "
" ไม่ มันควรจะช้าสุดวันพรุ่งนี้ " หมิงเย่เสวี่ยเอ่ยอย่างจริงจัง " หลังจากวันพรุ่งนี้มันจะสายเกินไป ท่านย่าไม่ว่าจะยังไงข้าต้องการไปพบกับบรรพชนหวู่ซ่วงในวันพร่งนี้ ท่านและฝ่าบาทรวมถึงเหล่าผู้อาวุโสควรจะทำเรื่องนี้ให้สำเร็จ "
" นายหญิง..." ท่านย่าไป๋ลังเลชั่วครู่ก่อนจะเอ่ย " แม้แต่ฝ่าบาทเองก้ไม่ได้อยู่ในตำแหน่งที่จะแสดงความคิดเห้นเรื่องบรรพชนนักปรุงยา หากท่านบังคับให้เขาแทรกแซงการปกครองจริงๆ นี้จะเป็นการท้าทายอำนาจของอาณาจักรในปัจจุบัน ข้าเกรงว่าบรรพชนจะตำหนิท่านได้ "
" นั้นไม่สำคัญ " หมิงเย่เสวี่ยกล่าวอย่างเด็ดขาด " ไม่สำคัญว่าผู้อาวุโสจะเห็นด้วยหรือไม่ ข้าจะต้องพบผู้อาวุโสหวู่ซ่วงในวันพรุ่งนี้ ไม่เช่นนั้นข้าจะไปยังผาดาราด้วยตัวเอง ! "
" นายหญิง โปรดอย่าทำให้ผู้คนหวาดกลัว " ท่านย่ากระโดดขึ้นหลังจากได้ยินเรื่องนี้และพยามจะชักจูง " ถ้าท่านไปยังผาดาราแล้วมันจะต้องเกิดควาฒโกลาหล เหล่าบรรพชนจะต้องโกรธเป็นอย่างมาก "
" เหล่าบรรพชนโกรธแล้วอย่างไร ? " หมิงเย่เสวี่ยพูดอย่างใจเย็น " มันยังดีกว่าการนำหายนะเข้ามา ! หากข้าไม่เห็นบรรพชนหวู่ซ่วงในวันพรุ่งนี้ ข้าจะไปยังผาดาราเพื่อหาอาจารย์ด้วยตัวเอง ! "
ท่านย่ารีบเอ่ย " นายหญิง ท่านจริงจังเรื่องนี้ไปหรือไม่ ? หายนะอะไร ? เพียงแค่หลี่ฉีเย่ ? ข้าเกรงว่านั้นเป็นไปไม่ได้ แม้แต่บิดาแห่งต้นไม้มาด้วยตัวเอง ข้าเกรงว่าเขาก็ทำอะไรเช่นนั้นไม่ได้ "
หมิงเย่เสวี่ยรีบเอ่ย " ท่านย่า คำกล่าวเหล่านี้ข้าเองก็ไม่อยากจะเชื่อเช่นกัน ข้ารู้สึกอย่างแรงกล้ายามอยู่กับนายน้อยหลี่ ว่าหากมีบางอย่างเกิดขึ้นข้าจะอยู่เคียงข้างเขา ทว่าข้าเป็นศิษย์ของอาณาจักรและลูกหลาน ดังนั้นข้าไม่สามารถรอดูบางสิ่งเกิดขึ้นกับอาณาจักรได้ แม้ว่าข้าจะไม่รู้ว่าแผนของนายน้อยหลี่คืออะไร แต่ข้าก็สัมผัสได้ว่าเขาเตรียมพร้อมไว้แล้ว..."
" เตรียมพร้อมสำหรับอะไร ? " ท่านย่าอดไม่ได้ที่จะเอ่ยถามอย่างสั่นสะท้าน
" เตรียมพร้อมที่จะทำลายอาณาจักรของพวกเรา ! " หมิงเย่เสวี่ยมีท่าทางตรึงเครียดอย่างเห็นได้ชัด " คนอื่นอาจจะเกรงกลัวที่จะต่อต้านตระกูลเซียนเพราะนั้นหมายถึงท้าทายอาณาจักร ทว่านายน้อยหลี่กล้าที่จะประกาศทำลายตระกูลเซียนในเมืองนักปรุงยา นี้หมายความว่าเขาพร้อมจะทำสงครมกับอาณาจักรของเรา ! แต่คำถามก้คือพวกเราเตรียพร้อมต่อสู้หรือไม่ ? "
" นั้นไม่มีทาง...จะทำลายอาณาจักรของพวกเรางั้นรึ ? " ท่ายย่าเอ่ยอย่างสงสัย " ข้าเกรงว่าแม้แต่บิดาแห่งต้นไม้มาช่วย เรื่องนีก็จะไม่มีทางเกิดขึ้น ! "
นี้ไม่ใช่ท่านย่านั้นหยิ่งยโสแต่มันเป็นความจริง ในโลกสมุนไพรหินใครจะกล้าคิดโค้นล่มพวกเขากัน ? แม้แต่บิดาแห่งต้นไม้ก็ยังไม่สามารถ
" ท่านย่าข้าจะไม่โต้เถียงเกี่ยวกับเรื่องเหล่านี้ " หมิงเย่เสวี่ยเอ่ย " คำถามเดียวของข้าก็คือ อาณาจักรของพวกเราเตรียมพร้อมสำหรับหายนะนั้นหรือไม่ ? "
ท่านย่าเริ่มกังวล นางรู้ว่าอาณาจักรของนางปราศจากการเตรียมตัวใดๆ เหล่าบรรพชนไม่สนใจกับผู้เยาว์อย่างหลี่ฉีเย่
" เพราะเรื่องนี้ข้าจะต้องออกเดินทางพรุ่งนี้ หากข้าไม่เห็นบรรพชนหวู่ซ่วง ! บอกให้ฝ่าบาทและผู้อาวุโสรู้เจตนาของข้า ! "
" ในเมื่อนายหญิงต้องการเช่นนั้น ข้าจะรีบไปจัดการให้เร็วที่สุด " ท่านย่าตอบอย่างจริงจังและจากไป
นางนั้นไม่เชื่อว่าหลี่ฉีเย่จะทำลายอาณาจักรได้ นี้เป็นเรื่องที่เกินจริงและไม่มีทางเป็นไปได้ แต่นางก็เชื่อในปัญญาของนายหญิง นางนั้นไม่เคยเห็นใครฉลาดเท่ากับนายหญิงมาก่อน นางเชื่อว่านายหญิงจะกลายเป็นจักรพรรดิอมตะในอนาคต !
หลังจากกลางคืนผ่านไป รุ่งเช้าทันใดนั้นก็ได้มาถึง คนนับไม่ถ้วนอดหลับอดนอนและจ้องไปยังทิศทางของตระกูลเซียน
เมื่อดวงอาทิตย์ขึ้นและส่องไปยังตระกูลเซียน เงาของรถม้าก็ปรากฏออกมาพร้อมกับเสีงสะท้านไปทั่วภูเขา
สายตาของทุกคนเบิกกว้างหลังจากเห็นรถม้าคันนี้ หนึ่งในพวกเขาอดไม่ได้ที่จะพึมพำ " หลี่ฉีเย่..."
แทนจะทีจะเรียกที่อยู่ตระกูลเซียนว่าราชวังมันเหมาะจะเรียกว่าคลังสมบัติมากกว่า มันถูกสร้างขึ้นโดยมีหุบเขาล้อมรอบ แทนที่จะเป็นตระกูลมันเหมือนกับนิกายหรือเชื้อสายจักรพรรดิ
สถานที่แห่งนี้ถูกปกคลุมไปด้วยเนินเขากวาดไปทุกที่ ต้นสนเก่าๆหยักรากลึกในพื้นดิน มันมีศาลาและวังรูปแบบโบราณปรากฏ
ในความเป็นจริงแม้ว่าตระกูลเซียนจะเป็นเชื้อสายราชวงศ์ แต่พวกเขาก็ได้ก่อตั้งตระกูลของตัวเองขึ้นมา
กระทิงมังกรจักรพรรดิก้าวไปด้านหน้าช้าๆขณะที่เทียยี่เป็นคนขับ หลี่ฉีเย่นอนอยู่บนตักของหยวนไฉ่เหอขณะที่นายหญิงฉีเยียนนั่งด้านข้าง
หลี่ฉีเย่นอนครึ่งตัวพร้อมกับเสื้อขนสัตว์ราวกับว่าเขากำลังหลับอยู่ ด้วยสองสาวงามที่เคียงข้างดูเหมือนเขาจะมาพักผ่อนมากกว่ามาสู้รบ
ฝูงชนหมดคำพูดหลังจากที่ได้เห็นฉากของหลี่ฉีเยก่อนการสู้ พวกเขาไม่รู้ว่าจะชื่นชมว่าเขาโชคดีทีมีสาวงามหรือหวาดกลัวต่อความเชื่อมันของเขาดี
สุดท้ายรถม้าก็หยุดลงด้านนอกประตูตระกูลเซียน นายหญิงฉีเยียนเอ่ยเสียงนุ่ม " นายน้อย พวกเรามาถึงแล้ว "
หลี่ฉีเย่เปิดเปลือกตาและถอดชุดคลุมออก ภายใต้การช่วยเหลืออย่างอ่อนโยนจากนายหญิงเขาเดินลงจากรถม้า
การได้รับการแสดงออกจากนายหญิงทำให้หลายคนตกตะลึง การปรากฏตัวของเขาราวกับเขามาชมสวนมากกว่ามาต่อสู้ซะอีก
" ได้เวลาแล้ว " หลี่ฉีเย่อมยิ้มและยกคิ้วให้กับเที่ยยี่ " ไปแจ้งพวกเขา "
เทียยี่นั้นเคยเป็นคนขี้ขลาด แต่เขาก็เข้าใจเมื่อถึงเวลาที่ต้องกล้าหาญ เขาโค้งคำนับก่อนจะเดินไปยังประตูและเอ่ย " ตระกูลเซียนฟังให้ดี นายน้อยของพวกเรามาที่นี่เพื่อรับหัวของโจกัวเย้า รีบมอบมันมาซะ ! "
โดยปกติแล้วเมื่อมีปัญหาเทียยี่จะหลบหนีทันที แต่ในเวลานี้เขานั้นต่างออกไป เขาเต็มไปด้วยความกล้าหาญและมั่นใจ เขาสามารถตะโกนด้วยท่าทางหยิ่งยโสอย่างไม่น่าเชื่อ
แน่นอน เทียยี่รู้ว่านี้เป็นโอกาสแสดงความภักดีของเขา ถ้าเขาไม่ทำตอนนี้เขาจะไม่มีโอกาสในอนาคต...