ภายในรูปแบบจักรพรรดิที่ลอยอยู่มันถูกสร้างขึ้นมาจากอาวุธของปรมาจารย์ในตำนาน ตัวตนนิรันดร์ที่อยู่ภายในแสง รวมถึงสองเทพบรรพชน
ในเวลานี้นอกจากราชันเทพที่ไม่ได้มา อาณาจักรนักปรุงยาได้เปิดใช้อำนาจทั้งหมดของพวกเขา ทว่ามันยังไม่ใช่อำนาจสูงสุด !
คนที่โชคดีพอจะสามารถมองเห็นได้ว่าหลายคนตกใจกลัวกับฉากนี้ ไม่ว่าพวกเขาจะเป็นใครพวกเขาล้วนสูญเสียคำพูด
นี้คือรากฐานที่แท้จริง ! ราชันเทพสวรรค์และบรรพชนล้วนมีความภูมิใจในรากฐานของนิกาย แต่เทียบกับรากฐานของอาณาจักรนักปรุงยา รากฐานใดๆในโลกล้วนไม่ควรค่าที่จะเอ่ยถึง !
" ตระกูลราชวงศ์ของอาณาจักรนักปรุงยา..นี้คืออำนาจที่แท้จริง ! " บรรพชนจากนิกายทรงอำนาจยิ้มข่มขื่นเมื่อตระหนักว่าขุมกำลังที่ซ่อนอยู่ในอาณาจักรไม่มีอะไรเทียบได้
หลี่ฉีเย่ยืนอยู่บนหลังของฟินิกซ์ที่กำลังเปล่งประกายด้วยเปลวไฟจากต้นไม้ ร่างกายของเขาถูกอาบด้วยแสงศักดิ์สิทธิ์ทำให้เขาราวกับเป็นเทพ
" อำนาจของอาณาจักรนักปรุงยา ? " หลี่ฉีเย่อมยิ้ม " ข้าสงสัยจริงๆว่าสุดยอดวิธีการที่ถูกทิ้งไว้โดยสามจักรพรรดิอมตะนั้นจะช่วยอาณาจักรได้หรือไม่ หากมีเพียงแค่ล้วนไร้ค่า ข้าจะบอกอะไรพวกเจ้าสักอย่างฟินิกซ์ของข้าเป็นฟินิกซ์ที่แท้จริง แต่ตอนนี้พวกเจ้าล้วนรู้ดีกว่าข้าอยู่แล้วเพราะหัวใจของมันเป็นพวกเจ้าที่ครอบครอง พวกเจ้าควรจะรู้ว่าฟินิกซ์ตัวนี้พึงได้รับการฟื้นฟูขึ้นมา..อ่า ข้าคงไม่ต้องบอกพึงอำนาจของมัน "
" เจ้าเด็กน้อย เก็บคำพูดของเจ้าไป " เทพบรรพชนแค่นเสียง " รอจนกระทั้งมันมีชีวิตมาได้จริงๆ เจ้าค่อยมาพูด มันไม่จำเป็นที่จะต้องใช้วิธีของจักรพรรดิที่ทิ้งไว้ให้ ! ตอนนี้เพียงอำนาจของพวกข้าก็เพียงพอแล้ว ! "
เทพบรรพชนอีกคนเอ่ย " เด็กน้อย นี้เป็นการเตือนครั้งสุดท้าย มอบฟินิกซ์มาไม่เช่นนั้นอย่าหวังว่าจะได้ออกจากที่นี่แบบมีชีวิต ! "
ฝูงชนล้วนกลั่นหายใจ หลายคนตระหนักได้ว่าอาณาจักรต้องการให้หลี่ฉีเย่มอบฟินิกซ์มาให้มากขนาดไหน
" มันดูเหมือนว่าพวกเจ้าจะคิดจริงๆว่ามีความสามารถที่เอาชนะข้าเพียงเพราะฟินิกซ์พึงเกิด " หลี่ฉีเย่ฉีกยิ้ม " ย่อมได้ พวกเจ้ายังมีการเคลื่อนไหวลับและข้ายังเตรียมพร้อมสุดยอดอำนาจไว้ ! เข้ามา ! มาสู้กัน ! "
" ตู้มม ! " เมื่อคำเหล่านี้ถูกกล่าวออกมา แสงอมตะก็กวาดผ่านทั่วท้องฟ้า ฟินิกซ์สาดแสงอมตะออกไปนับไม่ถ้วนราวกับน้ำตก มันพุ่งขึ้นสูงและสูงกว่าชั้นฟ้า แสงแต่แสงของมันมีอำนาจกำราบสวรรค์ แม้แต่ก่อนที่ฟินิกซ์จะโจมตี ภายในดินแดนบรรพบุรุษก็ยังสั่นสะท้าน
โลกทั่งโลกสั่นสะเทือนจากกลิ่นอายที่ฟินิกซ์นั้นปล่อยออกมา หลายตัวตนเห็นภาพลวงตาราวกับจักรพรรดิกำลังเดินทางมาถึง
ดวงตาโบราณเปิดออกและจ้องไปยังอาณาจักรนักปรุงยา ฉากนี้ทำให้เหล่าตัวตนในตำนานเงียบเป็นเวลานาน
เสาแห่งแสงพุ่งขึ้นมาจากดินแดนบรรพบุรุษ มันเต็มไปด้วยกลิ่นอายจักรพรรดิที่ปราบปรามยุค ภายในอาณาจักรนั้นสั่นสะเทือนและผู้เชียวชาญจำนวนมากหมอบกราบจากแรงกดดัน
ในเวลานี้มันดูเหมือนอาณาจักรนักปรุงยาเตรียมพร้อมที่จะสู้จนจบ นี้ไม่ใช่ความแค้นที่จะยอมปล่อยได้ หลี่ฉีเย่ได้ขโมยหัวใจฟินิกซ์ของพวกเขา พวกเขาไม่มีทางปล่อยเรื่องนี้ไป
" บรรพชนอาวุโส โปรดหยุดเพียงแค่นี้ " ในเวลานั้นช่วงที่ความตรึงเครียดของทั้งสองฝ่ายมาถึงจุดสูงสุดและกำลังเตรียมต่อสู้ เสียงที่ไพเราะก็ดังออกมา
ความงามที่ไร้ที่เทียบลอยออกมาจากส่วนลึกของดินแดนบรรพบุรุษราวกับเป็นเทพธิดาลงมาจากสวรรค์ - ความงามที่โค่นล้มอาณาจักร
" หมิงเย่เสวี่ย..." ตัวตนระดับสูงรับรุ้ถึงนางและอุทาน
" เทพธิดาหมิง ! " ช่วงเวลาที่รุ่นเยาว์เห็นนาง พวกเขาก็ล้วนสูญเสียจิตใจเพราะเสน่ห์นาง หลายคนถึงกับลืมการต่อสู้ !
คนส่วนใหญ่นั้นเคยได้ยินชื่อเสียงของนางแต่ไม่มีใครเคยเห็นตัวจริงมาก่อน ทว่าเมื่อรุ่นเยาว์ได้เห็นนางได้วันนี้ พวกเขาต่างหลงใหลในรูปลักษณ์ที่งดงามของนาง
บรรพชนของอาณาจักรเปลี่ยนการแสดงออกทันทีเมื่อเห็นหมิงเย่เสวี่ยปรากฏก่อนการต่อสู้จะเริ่ม โดยเฉพาะหลังจากได้ยินคำกล่าวนาง
หนึ่งในเทพบรรพชนเอ่ย " เย่เอ๋อร์ นี้ไม่ใช่เวลามาพูดคุย "
หมิงเย่เสวี่ยส่ายหน้าเล็กน้อยและเอ่ย " ศิษย์คนนี้เคารพในการตัดสินใจของบรรพอาวุโส ทว่าบรรพชนหวู่ซ่วงได้สั่งให้ข้ามาที่นี่ ได้โปรดท่านบรรพชน ผู้ที่อภัยสมควรได้รับการยกย่อง "
" คำสั่งของบรรพชนหวู่ซ่วง ? " เทพบรรพชนอีกคนเอ่ย " เย่เอ๋อร์ เรื่องนี้เกี่ยวกับเกียรติยศของอาณาจักรพวกเรา พวกเราไม่มีทางปล่อยไป ! "
บรรพชนทั้งหมดต้องการกดหลี่ฉีเย่ลงไป พวกเขาไม่มีทางล้มเลิกจนกว่ามันจะสำเร็จ !
" ศิษย์รู้ดีว่านี้เกี่ยวกับเกียรติของนิกายเรา ดังนั้นบรรพชนหวู่ซ่วงจึงให้ข้ามาที่นี่พร้อมกับตราของเขา เพื่อที่จะจบพายุนี้ได้ " กล่าวเสร็จนางก้หยิบตราโบราณออกมา
มีคำสองคำ หวู่ซ่วง สลักไว้ ช่วงเวลาที่ตรานี้ออกมากลิ่นอายของราชันเทพกระจายไปทั่ว
" ตราประทับของบรรพชน ! " แม้แต่สองเทพบรรพชนก็ยังสั่น ก่อนจะคุกข่าต่อหน้าตรานี้ บรรพชนคนอื่นพวกเขาล้วนแต่ก้มลงและกราบถึงสามครั้ง
" บรรพชนหวู่ซ่วงของอาณาจักรยังมีชีวิต นี้เป็นเรื่องน่าเหลื่อเชื่อ หลังจากผ่านมาหลายปีเขายังคงอยู่บนโลกนี้ มันต่างจากบรรพชนคนอื่น พวกเขาไม่สามารถทนต่อกาลเวลาได้แม้ว่าจะมีหินหยดเลือด " ทุกคนรู้สึกจมลงหลังจากเห็นตราประทับนี้
บรรพชนหวู่ซ่วงเป็นตำนาน บางคนกล่าวว่าเขาอยู่บนจุดสูงสุด บางคนกล่าวว่าเขามีความสามารถสามเซียน ทุกคนยกย่องว่าเขามีความสามารถในการบ่มเพาะและการปลุกยาที่ไร้ที่เทียบ เมื่อชื่อของเขาปรากฏจะต้องมีคนกราบสามครั้ง มีคนเชื่อว่าเขาเก่าแก่ที่สุดในอาณาจักร ตำนานกล่าวว่าเขาถูกฝังไว้ในส่วนที่ลึกที่สุดของดินแดนบรรพบุรุษด้วยหินหยดเลือด !
แม้ว่าบรรยากาศจะตรึงเครียด เหล่าบรรพชนก็ล่าถอยไปในที่สุด ทว่าสายตาของพวกเขายังคงจ้องมองหลี่ฉีเย่
" นายน้อยหลี่ ข้ามาพร้อมกับความจริงใจที่จะสงบพายุนี้ " ด้วยความสง่างามไร้สิ้นสุด หมิงเย่เสวี่ยเดินไปหาหลี่ฉีเย่เพียงลำพัง
หลี่ฉีเย่จ้องมองหมิงเย่เสวี่ย เขายืนอยู่ด้านบนของฟินิกซ์และเงียบไม่ตอบอะไร
ดวงตาของนางนั้นใสสว่างราวกับดวงดาวยามค่ำคืนและเอ่ยด้วยน้ำเสียงที่ไพเราะ " ข้าหวังว่านายน้อยหลี่จะหยุดการต่อสู้ครั้งนี้ "
" สุดท้ายก็มาถึงจุดนี้ " หลี่ฉีเย่ถอนหายใจเบาๆ เขานั้นไม่ได้โจมตีต่อ เขาไม่ได้มีอะไรต้องกลัวเกี่ยวกับอาณาจักร อีกทั้งเขายังไม่เต็มใจสังหารหมู่อาณาจักรยามเมื่อหมิงเย่เสวี่ยมาถึง
หลี่ฉีเย่เอ่ยเสียงเรียบ " ข้าต้องการคุยกับเจ้าเป็นการส่วนตัว "
หมิงเย่เสวี่ยไม่ได้คิดและตอบตกลงในทันที
นี้แตกต่างจากสิ่งที่ผู้คนคาดหวังไว้มาก แม้แต่เทพบรรชนและบรรพชนคนอื่นก็ไม่คิดว่าจะเป็นเช่นนี้
" เทพธิดาหมิงมีความงามไร้สิ้นสุด แม้แต่หลี่ฉีเย่ก็ยังหลงนาง " เหล่ารุ่นเยาว์เอ่ยอย่างเสียใจ
หลายคนคิดว่าหลี่ฉีเย่หลงเสน่ห์นาง แต่พวกเขาไม่รู้ว่าความจริงไม่เป็นเช่นนั้น
ทั้งสองนั้นเขาไปยังห้องที่เป็นสถานที่ลับ เมื่อไม่มีบุคคลที่สามอยู่ หมิงเย่เสวี่ยเอ่ยอย่างจริงใจ " ปัญหานี้เกิดจากการเข้าใจผิดของนายน้อยและอาณาจักร ข้ามาที่นี่ตามคำขอของท่านบรรพชนเพื่อปราถนาจะหยุดความวุ่นวายนี้ "
" เย่เสวี่ย ไม่ว่ามันจะเป็นการเข้าใจผิดหรือไม่มันไม่สำคัญ " หลี่ฉีเย่โบกแขนและเอ่ย " ข้าสามารถทำเป็นไม่มีอะไรเกิดขึ้นได้ ข้าสามารถมอบหัวใจฟินิกซ์ให้กับอาณาจักรได้ นอกจากนี้ข้ายังสามารถช่วยเหลือพวกเขา บางทีอาจจะทำให้ฟินิกซ์ฟื้นขึ้นมาในอนาคต ! "
หลังจากได้ยินสิ่งนี้ หมิงเย่เสวี่ยรีบเอ่ย " ความเมตตาของนายน้อยยอมได้รับความชื่นชมจากอาณาจักร..."
หลี่ฉีเย่ส่ายหัวและเอ่ย " ไม่ เย่เสวี่ย ในโลกนี้ไม่มีอาหารฟรี ข้ามีเงื่อนไข ! "
หมิงเย่เสวี่ยสูดลมหายใจลึกและเอ่ยอย่างจริงจัง " เงื่อนไขของนายน้อยคืออะไร ? หากมันอยู่ในความสามารถของพวกเรา ทุกอย่างล้วนเจรจาได้ "
หลี่ฉีเย่หัวเราก่อนจะเอ่ยอย่างจริงจัง " เงื่อนไขของข้าจะว่ายากก็ยากจะว่าง่ายก็ง่าย มันขึ้นอยู่กับเจ้า ข้าต้องการเพียงเจ้า ให้เจ้าติดตามข้า ! "
ข้าต้องการเพียงเจ้า ! ช่างเป็นคำประกาศที่มากเกินไป ! ใครที่ได้ยินคำกล่าวนี้ล้วนคิดว่าหลี่ฉีเย่ต้องหลงใหลในตัวนาง
หมิงเย่เสวี่ยไม่ได้คิดเช่นนั้น นางรู้สึกตกใจเล็กน้อยและพบอีกความหมายที่อยู่ในคำกล่าวนี้ !
" หากมันเป็นสิ่งที่ข้าทำให้นิกายได้ หากข้าทำให้หายนะครั้งนี้ผ่านไปได้ เช่นนั้นข้าก็ยินดีจะติดตามท่าน" หมิงเย่เสวี่ยตอบอย่างจริงจัง " แต่นายน้อยหลี่ ท่านควรจะรู้ว่าข้าเป็นศิษย์และไม่สามารถตัดสินเรื่องนี้ได้ นี้ไม่ใช่สิ่งที่ท่านบรรพชนตัดสินใจได้เช่นกัน " นางถอนหายใจเบาๆ
หลี่ฉีเย่หัวเราะและเอ่ย " นี้ขึ้นอยู่กับตัวตนร้อยชีวิต ใช่ไหม ? "
หมิงเย่เสวี่ยยังคงนิ่งก่อนจะพยักหน้าและเอ่ย " หากนายน้อยหลี่ต้องการให้ข้าไปกับท่าน เช่นนั้นต้องเอ่ยถามกับท่านบรรพบุรุษ มีเพียงการอนุญาตจากท่านเท่านั้นที่ทำตามคำของของนายน้อยได้ "