ระฆังปีศาจกลายเป็นไร้อำนาจแม้ว่ามันอยากจะป้องกันเจ้านายตัวเองก็ตาม ระฆังภาพภูเขานั้นแข็งแกร่งกว่ามัน และตอนนี้มันกระทั้งแข็งแกร่งกว่าด้วยการโจมตีที่รุนแรง ระฆังปีศาจนั้นยากที่จะรักษาตัวเอง ไม่ต้องเอ่ยถึงการช่วยยออดเซียนผี มันกระแทกปลิวออกไปไกลและหายไปในทะเลไร้สิ้นสุด
ในช่วงที่สับสนวุ่นวาย เสียงแตกหักดังออกมา มันถูกทุบตีอย่างละเอียดโดยระฆังภาพภูเขา มันยังไม่อยู่แม้ว่าจะลงสู่ทะเล มันยังคงปลิวออกไปด้วยความเร็วสูงสุด มันตัดสินใจบินหนีไปและไม่กล้ารีรอ การโจมตีอย่างรุนแรงจากระฆังอีกเพียงครั้งเดียวจะทำให้มันแตกสลายแม้ว่าจะเป็นอาวุธจักรพรรดิก็ตาม
หลังจากผ่านไปนาน ระฆังปีศาจมีจิตสำนึกของตัวเอง ดังนั้นช่วงเวลาที่มันใกล้จะตาย มันเลือกที่จะหนีห่างจากระฆังภาพภูเขาให้ไกลที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้
ตั้งแต่การที่หลี่ฉีเย่ควบคุมระฆังด้วยมือเปล่า เปิดใช้ทะลวงโชติช่วง จนถึงการปะทะกันของระฆังทั้งสอง ทุกอย่างนั้นเกิดขึ้นเร็วมาก
ในชั่วพริบตา ยอดเซียนผีได้ตายลงและระฆังปีศาจได้หนีไป เชื้อราชันผีแมลงและดินแดนเล็บจันทร์เสี้ยวศักดิ์สิทธิ์ไม่มีโอกาสจะตอบโต้
หลังจากได้สติ ยอดเซียนเล็บจันทร์เสี้ยวพยามจะควบคุมระฆังภาพภูเขาอีกครั้ง
หลังจากรับรู้ได้การดำรงอยู่ของมัน เขาก็รีบควบคุม " กลับมา ! "
ทว่าก่อนที่เขาจะนำมันกลับมาได้ มันมีประกายแสงถูกยิงออกมาทำให้เขากรีดร้องอย่างอนาถ " อ้ากกก ! "
เขาไม่มีโอกาสจะตอบโต ทำแสงนี้สาดแสงออกมาและระเบิดร่างของเขากระจายไปทุกที่ เขาตกตายในทันที
คันฉ่องกลั่นหยินหยางอมตะปรากฏตัวอยู่เหนือหัวของหลี่ฉีเย่ไม่รู้เมื่อไหร่ มันเป็นสมบัติล้ำค่าที่อยู่ในระดับเดียวกับสมบัติจักรพรรดิอมตะระดับแท้จริง ปราศจากระฆังภาพภูเขาที่ปกป้องเขา ยอดเซียนไม่สามารถทนต่อลำแสงนี้ได้
ด้วยการเสียชีวิตของยอดเซียน ระฆังภาพภูเขากลายเป็นไร้เจ้านาย หลี่ฉีเย่ทันใดนั้นก็เอิ้อมไปคว้ามัน
กลุ่มของดินแดนเล็บจันทร์เสี้ยวกลับคืนสู่ความสงบและเห็นฉากที่ระฆังเปลี่ยนเจ้านายใหม่ กลุ่มของผู้เชียวชาญกรีดน้อง " เจ้ากล้า ?! "
พวกเขาทั้งหมดพุ่งไปด้านหน้า
" ตูม ! " ฝ่ามือขนาดยักษ์พุ่งออกไป มันมุ่งไปจับระฆังของหลี่ฉีเย่ อำนาจที่ปลดปล่อยออกมาจากฝ่ามือนี้แสดงว่ามันพร้อมจะบดขยี้ทุกสิ่ง แม้แต่ราชันเทพสวรรค์ก็ยังไม่สามารถระงับฝ่ามือนี้ได้
" บรรพชนเที่ยงธรรม ! " ฝูงชนกลายเป็นสั่นมือเห็นฝ่ามือขนาดยักษ์นี้ ความแข็งแกร่งของฝ่ามือนี้แสดงให้เห็นว่าบรรพชนของดินแดนเล็บจันทร์เสี้ยวศักดิ์สิทธิ์ลงมือแล้ว
นี้คือบรรพชนของเชื้อสายจักรพรรดิ - ตัวตนที่ท้าทายสวรรค์และน่ากลัว แม้แต่บรรพชนเที่ยงธรรมสามัญก็ยังสามารถฆ่าราชันเทพสวรรค์ได้ราวกับบี้มด
ระฆังภาพภูเขานั้นส่งเสียงกรีดร้องอีกครั้งและมันพยามจะออกจากมือของหลี่ฉีเย่
เขาจากนั้นก็โยนประตูทั้งห้าออกมาและคำราม " ผนึก ! "
" ปังงง ! " ประตูสีทองแดงทั้งห้าลงมาจากฟ้าและกลายเป็นกล่องขนานใหญ่ มันผนึกผู้เชียวชาญและบรรพชนของดินแดนเล็บจันทร์เสี้ยวไว้
ผนึกสวรรค์ห้าประตู ! ห้าประตูนั้นกลายเป็นห้ามุม คุมขังผู้เชียวชาญทั้งหมด
" ตูม ! " จากภายในกล่องขนาดใหญ่ ทั้งห้าประตูนั้นถูกอัดกระแทก ผู้เชียวชาญและบรรพชนพยามทำลายประตูเพื่ออกมา
เสียงการปะทะจากภายในทำให้ผู้ฟังสั่นสะท้าน
" ตูม !" อีกเสียงระเบิดได้เกิดขึ้น กลิ่นอายจักรพรรดิเข้าปะทะกับประตูทั้งห้า จากภายนอกพวกเขาสามารถรู้ถึงกลิ่นอายนี้ได้ และพวกเขาเต็มไปด้วยความหวาดกลัว
" สมบัติจักรพรรดิอมตะระดับชีวิต ! บรรพชนเล็บจันทร์เสี้ยวใช่สมบัติจักรพรรดิ ! " ผู้คนสั่นสะท้านเมื่อเห้นกลิ่นอายของอาวุธที่ออกมา
บรรพชนเที่ยงธรรมที่ถืออาวุธจักรพรรดินั้นถือได้ว่าน่ากลัวอย่างมาก อำนาจของพวกเขาสามารถกวาดผ่านได้ทุกสิ่ง
ทว่า บรรพชนนั้นไม่สามารถหลบหนีออกจากผนึกสวรรค์ห้าประตูได้ในระยะเวลาสั้นๆ เพราะสิ่งนี้เคยผนึกโลกมาก่อน
" ไล่ตามมันไป ! " ท่ามกลางความวุ่นวาย อีกหนึ่งเชื้อสายจักรพรรดิ เชื้อสายราชันผีแมลงไม่สนใจดินแดนศักดิ์สิทธิ์และตามระฆังปีศาจไป
ปัญหาของดินแดนศักดิ์สิทธิ์ไม่ได้มีอะไรเกี่ยวข้องกับพวกเขา เชื้อสายราชันผีแมลงยินดีที่จะสละภายในบ่อน้ำ เพราะหากเขาเสียระฆังปีศาจไป มันจะเป็นการสูญเสียอย่างหนัก ไม่มีอะไรสำคัญกว่าระฆังนั้น
หลี่ฉีเย่ไม่ได้สนใจความสับสนวุ่นวายภายในผนึกสวรรค์ห้าประตู เขาได้หยิบคันฉ่องกลั่นหยินหยางอมตะออกมาและอาบระฆังภาพภูเขาด้วยกลิ่นอายอมตะไร้ที่สิ้นสุด
ระฆังนั้นสั่นและต้องการพยามหลบหนีจากหลี่ฉีเย่
มันเป็นสิ่งของที่ท้าทายสวรรค์ แต่มันไม่ได้แข็งแกร่งไปกว่าอาวุธจักรพรรดิอมตะระดับแท้จริงที่ถูกกลั่นโดยจักรพรรดิอมตะจูเทียน มันไม่เหมือนอาวุธจักรพรรดิระดับชีวิตอื่นๆที่มีตราผนึก
ไม่ว่าจะอย่างไร จักรพรรดิอมตะจูเทียนได้ทิ้งสัญลักษณ์ไว้บนระฆังให้มีการเชื่อมต่อกับแดนศักดิ์สิทธิ์ เพราะสิ่งนี้ เมื่อถูกปราบปรามโดยคันฉ่องมันจึงพยามจะหลบหนี
ปราศจากกระจก หลี่ฉีเย่ไม่มีทางควบคุมระฆังนี้ได้ เขามีเวลาเหลืออีกไม่มากนักที่ผนึกสวรรค์ห้าประตูจะต้านทานบรรพชนเล็บจันทร์ฌสี้ยวไว้ได้
หลี่ฉีเย่จากนั้นก็ใช้หยดเลือดชีวิตผสมกับน้ำทิพย์หมื่นดารา เมื่อหยดเลือดนี้หยดใส่ระฆังมันก็กลายเป็นสงบลง
หลี่ฉีเย่ใช้วิธีผนึกสมบัติจักรพรรดิอมตะระดับชีวิตเหมือนก่อนหน้า ดังนั้นมันจึงง่ายกว่ามากหากใช้กับระฆัง
ลึกเข้าไปในดินแดนเล็บจันทร์เสี้ยวศักดิ์สิทธิ์ บรรพชนอีกคนได้สูญเสียการเชื่อมต่อกับระฆังภาพภูเขา เขาตะโกนด้วยความตกตะลึง " ไม่ดีแล้ว ระฆังภาพภูเขาถูกขโมย ! "
หลี่ฉีเย่ไม่มีเวลามากนักและต้องจบเรื่องนี้อย่างรวดเร็ว เขาทันใดนั้นก็แบกระฆังและพุ่งไปหาเจ้าหญิงฟินิกซ์
ผู้ฝึกตนเผ่าพันธ์ผีจำนวนมากอุทาน และตะโกน " เจ้าจะต้องผ่านพวกเราก่อนจะไปถึงตัวเจ้าหญิง ! "
คนส่วนใหญ่ยังเป็นผู้เยาว์ และหลงในแผนของนาง
" ตามที่เจ้าต้องการเลย ! " หลี่ฉีเย่ขี้เกียจเกินไปที่จะเล่นกับพวกเขาและทำให้ทุกอย่างจบสิ้นอย่างรวดเร็ว ด้วยกายาอเวจีอมตะ อำนาจของเขาได้ระเบิดขึ้นอีกครั้ง !
" ปัง ! ปัง ! ปัง ! ปัง ! " บรรดาเหล่าผู้ฝึกตนรุ่นเยาว์ล้วนปลิวกระเด็น ทั้งหมดนี้เกิดนขึ้นเพียงหนึ่งวินาที พวกเขาทั้งหมดได้กลายเป็นดอกไม้เลือดที่บานสะพรั่ง
ด้วยเสียงกรีดร้องของฟินิกซ์ เจ้าหญิงฟินิกซ์ได้พุ่งไปด้านหน้า นางนั้นรวบรวมกำลังทั้งหมดเพื่อโจมตี
" ตูม ! " ทว่าก่อนที่นางจะเข้ามาใกล้เขา นางปลิวออกไปพร้อมเลือดที่สาดกระเด็น นางแน่นอนว่าไม่ใช่คู่ต่อสู้ของหลี่ฉีเย่ ไม่ต้องเอ่ยถึงเขาเปิดใช้สองกายาอมตะพร้อมกัน
ก่อนที่นางจะตกถึงพื้น หลี่ฉีเย่ก็เข้ามาบีบคอของนางแล้ว !
ฉากนี้ทำให้ทุกคนตกตะลึง โดยเฉพาะผู้ฝึกตนเผ่าพันธ์ผี ทุกคนนั้นกระวนกระวายและไม่มีใครกล้าเคลื่อนไหวในขนาดนี้
เชื้อสายราชันผีแมลงนั้นจากไป และดินแดนเล็บจันทร์เสี้ยวถูกผนึก ไม่มีอำนาจอื่นกล้ากระทำอะไรโดยประมาท เพียงแค่คิดว่าระฆังภาพภูเขาอยู่ในการครอบครองของหลี่ฉีเย่ พวกเขาก็สั่นสะท้าน นอกจากนี้ขุนนางและบรรพชนไม่มีใครกล้าลงมือเพราเจ้าหญิงฟินิกซ์อยู่ในมือหลี่ฉีเย่
เรื่องทั้งหมดก่อนหน้านี้แสดงให้เห้นแล้วว่าพวกเขาเห็นด้วยกับเจ้าหญิงในการฆ่าหลี่ฉีเย่ มีเพียงผู้ฝึกตนธรรมดาและเหล่าอัจฉริยะที่เชื่อคำของนางและกังวลเกี่ยวกับการตายของนาง
เหล่าผู้ฝึกตนที่เก่าแก่รู้ว่าเมื่อไหร่ควรเดินหน้าและเมื่อไหร่ควรปล่อยมือ
ตอนนี้หลี่ฉีเย่มีอาวุธจักรพรรดิ ไม่มีใครต้องการสู้กับหลี่ฉีเย่เพื่อช่วยเจ้าหญิง มันเป็นเรื่องน่าอายที่ผู้เชียวชาญจากบัลลังก์หมื่นกระดูกที่นี่ไม่สามารถช่วยนางได้
หลี่ฉีเย่จับคอของนางและเอ่ยช้าๆ " ตอนนี้ได้เวลากล่าวคำอำลาสุดท้ายแล้วหากเจ้าต้องการ "
เจ้าหญิงฟินิกซ์นั้นสูดลมหายใจเข้าลึก นางนั้นกลายเป็นสงบเมื่อความตายเข้ามาใกล้ นางปิดตาของนางและหลั่งน้ำตาอย่างไม่ได้ตั้งใจ ก่อนจะเอ่ย " ทุกคนได้โปรดบอกกับตี๋เชาว่าอย่าได้ล้างแค้นให้กับข้า ! "
ในตอนนี้นางเข้าใจทั้งหมดแล้วว่านางได้กล่าวผิดพลาดครั้งใหญ่และทำทุกอย่างพัง หากนางจากไปพร้อมกับหลงซู่เทียน เช่นนั้นนางยังคงมีโอกาส หรือหากนางเลือกเส้นทางอื่นก่อนหน้า อาจจะเปลี่ยนความบาดหมางกับหลี่ฉีเย่และกลายเป็นสร้างมิตร การต่อสู้ครั้งนี้ทำให้นางเข้าใจหลี่ฉีเย่ และเข้าใจว่าทำไมหลงซู่เทียนจึงจากไป แต่มันสายเกินไปแล้ว !
เกี่ยวกับคำกล่าวสุดท้ายของนาง นางรู้ดีว่าหากสามีของนางสู้กับหลี่ฉีเย่ เขาจะไม่จบลงด้วยดี จากเรื่องทั้งหมดนี้นางต้องการเพียงให้ตี๋เชามีชีวิต มันไม่เป็นไรหากเขาไม่ได้เป็นจักรพรรดิอมตะ เพียงบรรพชนเที่ยงธรรมระดับสูงก็พอแล้ว นางเข้าใจแล้วว่าไม่มีใครแข่งขันกับหลี่ฉีเย่และกลายเป็นจักรพรรดิอมตะในยุคนี้ได้ !